Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re:  คนนอกความฝัน
 เมื่อ: 15 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม

     อมพระมาพูด


เห็นเธอเดินมาหาทำหน้าเศร้า
บอกรักเราได้เวลา..ควรเลิกฝัน
อยากให้ลืมรักที่เคยมีกัน
หยุดสัมพันธ์เพราะพี่..นั้นดีไป

อมพระมา..พูดไปก็ไม่เชื่อ
ดูหน้าเนื้อใจเสือเชื่อไม่ได้
เธอบอกว่าวันนี้ไม่มีใคร
จำพรากไกลเลิกกันลืมสัญญา

ใครมาเตือนบอกว่าไม่น่าเชื่อ
เธอขี้เบื่อง่ายดายเปลี่ยนชายหา
มิเคยฟังคำใครเชื่อนัยน์ตา
ถึงเวลาพบเห็นช่างเข็ญใจ

อมพระพูดให้ตายก็คล้ายเสือ
มันน่าเบื่อสับสนจะทนไหว
ประวัติเชือดคนเก่ามาเท่าไร
จดเอาไว้เรียงแถวนะแก้วตา

เปรียบผู้ชายเป็นเหมือนขนมหวาน
เมื่อต้องการผูกพันก็สรรหา
สิ้นรสชาติหมดซ่านของกานดา
ก็คิดคว้าคนใหม่..ไว้เชยชม

หยุดเถิดเธอที่ทำ..นั้นสิ่งผิด
บาปจะติดถ่ายนำกรรมผสม
ความมักมากอ่อนไหวในอารมณ์
จะสร้างปมบาปกรรมยิ่งจำเริญ

อมวัดมา..พูดไปก็ไม่เชื่อ
ยามเธอเบื่อเห็นชัดไม่ขัดเขิน
เปลี่ยนรสชาติเพียงหมายด้วยกายเพลิน
รักแล้วลาหมางเมินเปลี่ยนผู้ชาย

รู้ทั้งรู้ต่อไปเธอไกลห่าง
เคยเคียงข้างมินาน..รักสลาย
เพียงขอร้องก่อนวันที่ฉันตาย
เลิกทำร้ายใจคนเหลือทนเธอ

ยังขอให้โชคดีมีความสุข
อภัยทุก.ทุกอย่าง ให้เสมอ
ถึงจะเป็นได้แค่ผู้บำเรอ
ตอนพบเจอมีกันคือฝันดี

อมทั้งพระยกวัดก็ชัดแจ้ง
เธอแสดงเห็นชัดเรื่องบัดสี
อโหสิทุกเรื่องที่เคยมี
เลิกสัญญาเพียงวจี..หมดหนี้กัน[email protected]



 

 2 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / Re: สงบเสงี่ยมฉันท์ ๙
 เมื่อ: เมื่อวานนี้ เวลา 10:27:55 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share


สงบเสงี่ยมฉันท์ ๙

ริเริ่ม : นกโก๊ก Pantip
นกผี * กวีคำผวน

ผัง : ลคลค คค ค22
เลข 22 สัมผัสอักษรกัน


@ จะท่องจะเที่ยว พึงเหลียว แลสอดส่อง
ตระหนักตริตรอง รอบคอบ กอปรไถ่ถาม
ฉลาดเฉลียว ไปทั่ว ทุกเขตคาม
ประสบสนาม งามแท้ แน่ แจ่มจริง





 


 



































 3 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / …เสน่หา…
 เมื่อ: 13 กรกฎาคม, 2568, 05:11:14 AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


…เสน่หา…

“ ความรักเอย…
เจ้าลอยลมมาหรือไร
มาดลจิต
มาดลใจ
เสน่หา

รักนี้จริงจากใจหรือเปล่า
หรือเย้าเราให้เฝ้าร่ำหา
หรือแกล้งเพียงแต่แลตา
ยั่วอุราให้หลงลำพอง

ฮือ ฮือ…

สงสารใจฉันบ้าง
วานอย่าสร้าง
รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง
ถ้าเป็นสองฉันคงต้องขาดใจตาย

ฮือ ฮือ…

สงสารใจฉันบ้าง
วานอย่าสร้าง
รอยช้ำซ้ำเป็นรอยสอง
รักแรกช้ำน้ำตานอง
ถ้าเป็นสองฉันคงต้องขาดใจตาย

ฮือ ฮือ…”


[เสน่หา : คำร้อง/ทำนอง มนัส ปิติสานต์]




หอมดอกรักลอยลมฉมโชยชื่น
เย้าสะอื้นจำนรรจ์รำพันเสียง
คร้ามเข็ดรักเรื่อยเรื่อยมาเรียงเรียง
แม้นหลบเลี่ยงเจ็บซ้ำระกำใน

“เสน่หา”ตราตรึง ซึ้งเพลงโปรด
ครึ้มคลอโสตคล้อยความจนหวามไหว
ขอเพียงหนึ่งเที่ยงแท้แพรพิไล
รักจริงใจ…มิปัน เปลี่ยนผันแปร

โซ…เซอะเซอ
13 กรกฎาคม 2568



 4 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนคลายเครียด / Re: กลอนหนึ่งตำลึง
 เมื่อ: 12 กรกฎาคม, 2568, 10:47:48 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม
 ทางที่เห็น ต่างคนเดิน ย่อมต่างกัน..
 
    ๏ ไม่รู้ว่ายังมีสิทธิ์คิดถึงไหม
ระยะของหัวใจเริ่มไกลห่าง
ฉันเข้าใจระหว่างเราสิ้นหนทาง
จะร่วมสร้างทางรักเดินด้วยกัน

    ๏ แต่มิต้องเสียใจเธอไม่ผิด
เธอมีสิทธิ์เลือกเดินตามความฝัน
ใฝ่หาสิ่งที่ต้องการมานานวัน
แล้วตัวฉันหาให้เธอมิได้เอย ๚ะ๛


ที่สุดที่ทำ อาจไม่ดีที่สุดสำหรับใครเลย..

    ๏ เมื่อขอบฟ้าห่างไกลเกินใจเอื้อม
เกินใจเชื่อมถึงกันจึงหันเห
มิใช่ฉันเปลี่ยนไปใจลังเล
แค่เก็บสิ่งที่ทุ่มเทคืนกลับมา

    ๏ ไร้หมดสิ้นความรู้สึกไม่เจ็บปวด
เป็นเม็ดทรายเม็ดกรวดฤาอวดค่า
ก่อนทำใจลำบากขอจากลา
วาสนาสิ้นใยเข้าใจเอย ๚ะ๛


คนละทาง..ยืนอยู่ข้างกัน ก็ต่างไม่เห็น
 
    ๏ ไม่ใช่พิมพ์นิยมไม่คมเข้ม
โปรไฟล์เกาหลีไม่เต็มสมสมัย
ไร้แฟนคลับขาดคนมาสนใจ
คนกดไลค์ต่ำสิบแค่หยิบมือ

    ๏ โลกหมุนเร็วเกินไปกว่าใจสั่ง
ถึงมุ่งหวังหยิบมาไม่กล้าถือ
คนด๊อกด๋อยต้อยต่ำจนร่ำลือ
เขียนแต่สื่อหวั่นไหวน้อยใจเอย ๚ะ๛

 
ความรักเหมือนดอกไม้ มีเวลาที่สวยงาม และมีเวลาสูญสลายไป
 
    ๏ พบกันเพียงเพื่อจากทุกชีวิต
ไม่มีสิทธิ์เปลี่ยนแปลงวัฏจักร
จะดีร้ายคับแค้นหรือแสนรัก
ควรตระหนักถึงตอนต้องจากกัน

    ๏ อาจจะมีความสุขถ้าคิดได้
หรือชอกช้ำอ่อนไหวหัวใจสั่น
จะจากเป็นจากตายวายชีวัน
ที่สำคัญต่างพรากต้องจากเอย ๚ะ๛


        *สักวันหนึ่ง*

    ๏ ไม่เป็นไรวันนี้เธอ ไม่มองฉัน
เพียงหวังว่าสักวันมองกันบ้าง
เพราะถนนที่เราเดินคนละทาง
จึงมีความแตกต่างกันมากมาย

    ๏ ไม่เป็นไรถ้าฉัน ดีไม่พอ
ก็แค่ขอรอตราบ ฟ้าดินสลาย
สักวันหนึ่งสายตาเธอกลับกลาย
ฉันคงไม่เดียวดายจนตายเอย ๚ะ๛


.


 5 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re: สวัสดี...เจ้าความรัก
 เมื่อ: 12 กรกฎาคม, 2568, 02:31:20 PM 
เริ่มโดย พู่กัน - กระทู้ล่าสุด โดย masapaer
สำเนียงอ่อนหัวใจไยเช่นนี้
เป็นคุณพี่จั่นแท้แน่หรือไม่
ปกติสำนวนชัดบาดฤทัย
เหตุอันใดไยเศร้าดูร้าวราน

จนบัดนี้บอกไว้ยังไร้คู่
เอาแต่ดูไฉนเล่าจนร้าวฉาน
เลือกหรือไงกันนี่พี่ขึ้นคาน
คงบอกผ่านสาวแน่แปเห็นใจ

masapaer




 6 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนให้แง่คิด / เข้าพรรษา (กาพย์กล้าฝัน)
 เมื่อ: 12 กรกฎาคม, 2568, 10:32:11 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share


กาพย์กล้าฝัน ๓๒

@ วารเข้าพรรษา....ตรองตรึกชีวา
ผ่านมา ดีชั่ว...........หมองมัวได้ไฉน
กิเลส ลดละ.......... มุ "กระทำ" ให้
เมตตารัก ไซร้........แจ่มกระจ่าง จริง



ริเริ่ม : WANG JIE
30/08/2560

@ xxx1 xxx1
x1/1/1   xxx2
xxx3      x3x2
x2/2/2   xxx4




 7 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re:  คนนอกความฝัน
 เมื่อ: 11 กรกฎาคม, 2568, 08:18:24 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม

      อุษาสวาท

สายน้ำเลาะเซาะแก่งลงแอ่งหิน
เสนาะยินยามยลสายชลไหล
กระเซ็นซ่านซัดสายสยายไป
ร่วมพงไพรหมู่พฤกษานานาพันธุ์


เดือนกระจ่างแจ่มตาเวลาจ้อง
แสงเรืองรองมองดุจสรวงสวรรค์
เจื้อยเจื้อยแจ้วสกุณาร้องหากัน
เรียกตะวันเลือนลับให้กลับมา


ก่อนอุษารบเร้าจะเข้าสาง
ประคองข้างกุมมือส่งสื่อหา
จวนจะแจ้งเสียแล้วเจ้าแก้วตา
ถึงเวลาจำพรากต้องจากไกล


จุมพิตแก้มโอบกอด..แขนสอดนิ่ง
รักเจ้ายิ่งห่างกันสุดหวั่นไหว
หยาดน้ำตารินแสดงแสลงใจ
ถนอมไล้ไรผมชิดชมนวล


กระซิบแผ่วแก้วตาพี่ลาก่อน
ใจรอนรอนฝืนกล้ำสุดกำสรวล
สะอื้นไห้พจน์พร่ำเฝ้าคร่ำครวญ
จะได้หวนทวนมาเพลาใด


เสียงกระทั้นขันไขเจ้าไก่แก้ว
บอกสางแล้วสิ้นเวลาจะอาศัย
เจ้าดุเหว่าร่ำร้องดังก้องไพร
เมื่อจากไปห่วงหาจำลาจร


รสสวาทบาดใจจำไกลห่าง
ก่อนฟ้าสางอันทุอนุสรณ์
เสน่หาร่วมรสทุกบทตอน
ถ้อยวิวรณ์ความนัยยามไล้โลม


ยังกระจ่างฝังจิตความคิดนึก
ช่างล้ำลึกสิ้นแรงใต้แสงโสม
ศศิฉายเงาสุขยามรุกโรม
เสน่ห์โฉมสะคราญสราญใจ


เนียนละมุนลูบไล้ยามไหวร่าง
ถ้อยขนางส่งเสียงยามเคียงใกล้
กอดกวัดเยือนสรวงซ่านทรวงใน
นอนหลับใหลก่ายกอดตลอดคืน


พลัดเอ๋ยพลัด.พรากไปใจจะขาด
แม้นต้องสิ้นสายสวาท..มิอาจฝืน
เก็บไว้เป็นความหลังที่ยั่งยืน
พร้อมกับความขมขื่นจนวันตาย


กระซิบแผ่วข้างหูจงอยู่สุข
ลืมความทุกข์ไกลห่างเพียงร่างหาย
จำลาร้างคู่เคียงนั้นเพียงกาย
แต่คงสายเสน่หามิลาเลือน


อุษาโยคโศกเศร้าคืนเราสั้น
สิ้นสวรรค์ขาดพี่อยู่เป็นเพื่อน
สิเน่หาลึกล้ำคอยย้ำเตือน
หวนมาเยือนทนุถนอม..เจ้าจอมใจ…..@ 4-7-47





.

 8 
 บทกลอนไพเราะ / เรื่องสั้น แนวนิยาย / …ผู้นำในฝันของฉัน…
 เมื่อ: 10 กรกฎาคม, 2568, 11:21:32 PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


…ผู้นำในฝันของฉัน…


คืนหนึ่งฉันนอนหลับและฝันไปว่า
ฉันได้พบกับ“ท่านผู้นำ”…


ผู้นำในฝันของฉัน
ท่านเป็นคนเรียบง่าย ธรรมดา
ไม่ถือตัวถือตนไม่ถือยศถือศักดิ์
แต่สามารถทำให้ผู้คนทั้งหลาย
รวมถึงตัวฉันพร้อมจะก้าวเดินตาม
ด้วยความเชื่อมั่นและศรัทธา

ท่านเป็นผู้มีความเสียสละอย่างแท้จริง
เห็นประโยชน์ของส่วนรวม
เหนือประโยชน์ส่วนตนและพวกพ้องเสมอ

ท่านเป็นผู้มีความหนักแน่น จริงใจ และจริงจัง
ซื่อสัตย์และเที่ยงธรรม

ท่านเคารพการมีสิทธิเสรีภาพ
ในการแสดงออกของผู้คน
ตามขอบเขตของกฎหมาย
ยึดมั่นในความเสมอภาค
ความเท่าเทียมกัน
และศักดิ์ศรีของความเป็นคน

ท่านเป็นผู้เปิดกว้างยอมรับฟัง ความคิดเห็น
และคำวิพากษ์วิจารณ์ของผู้อื่น
แต่ก็ดำรงไว้ซึ่งความเด็ดขาดและรอบคอบ
เมื่อจำเป็นต้องตัดสินใจในเรื่องสำคัญ

ท่านเป็นผู้มีวิสัยทัศน์กว้างไกล
คอยปูพื้นฐาน การศึกษา เศรษฐกิจ
และสังคม อย่างต่อเนื่อง มั่นคง
คอยตระเตรียมความพร้อม
ในการรับมือกับความไม่แน่นอน
จากปัจจัยภายนอกทั้งจาก
ฝนฟ้าอากาศหรือภัยพิบัติต่างๆ

รวมถึงคอยระมัดระวังและหาจุดสมดุล
ในการคบหาสมาคมกับประเทศอื่นๆ
โดยไม่พึ่งพาประเทศใดประเทศหนึ่ง
มากจนเกินไปจนเกิดผลกระทบรุนแรง
เมื่อความสัมพันธ์กับประเทศนั้นๆ
เปลี่ยนแปลงไป

ท่านคอยหมั่นปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม
และจิตสำนึกที่ดี ให้แก่ประชาชน
รวมทั้งค่านิยมในการดำเนินชีวิตที่สุจริต
การใช้จ่ายอย่างมีเหตุผลไม่ฟุ้งเฟ้อ
โดยมิต้องพึ่งพาวาทะกรรม โวหาร หรือ
การพร่ำสอน ในวาระโอกาสต่างๆ
ไม่แม้จะใช้อำนาจหรืองบประมาณ
ของส่วนรวม ในการโปรโมท โฆษณา เพื่อ
กำหนดให้ค่านิยมของตนเป็นที่ยอมรับ
ของส่วนรวม

หากแต่ใช้การกระทำอย่างเงียบๆเป็นตัวอย่าง
ให้เห็นโดยสม่ำเสมอต่อเนื่องตลอดมา
ซึ่งเป็นการฝึกให้สังคมใช้สติในการไตร่ตรอง
เรียนรู้ และยอมรับจากการเห็นและนำไปใช้
ในชีวิตจริงจนเกิดการเข้าใจอย่างลึกซึ้ง
ด้วยตนเอง ไม่ใช่จากการโหมประชาสัมพันธ์

ท่านผู้นำได้วางรากฐาน
การคัดเลือกผู้ที่จะขึ้นเป็นผู้นำรุ่นต่อๆไป
ซึ่งจะมีอำนาจได้แค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งๆเท่านั้น
และวางระบบการถ่วงดุลและตรวจสอบ
ผู้มีอำนาจอย่างเข้มข้น

โดยอำนาจทั้งหมดนี้ล้วนต้องมีที่มา
ที่ยึดโยงกับประชาชนผู้ถูกปกครอง
และที่สำคัญคือท่านได้ปลูกฝังให้
ประชาชนทั้งหลายรู้ซึ้ง เคารพ
และหวงแหนในอำนาจอธิปไตย
ในสิทธิและเสรีภาพ ที่ตนมี
ในฐานะเจ้าของร่วมของประเทศ
ผู้พร้อมเต็มใจชำระภาษี อย่างเต็มเม็ด
เต็มหน่วย เพื่อให้รัฐนำมาใช้
สร้างความเจริญให้กับสังคมส่วนรวม

และเมื่อใดที่มีผู้นำที่ฉ้อฉลขึ้นมามีอำนาจ
ประชาชนก็พร้อมจะรวมตัวกันโค่นล้ม
ผู้นำนั้นลงผ่านการออกเสียงประชามติ
โดยสันติอย่างผู้มีอารยธรรม

…สุดท้ายท่านผู้นำของฉัน ก็อำลาจากตำแหน่ง
โดยไม่มีพิธีรีตรองอะไร ไม่มีรูปปั้น รูปวาด
ในที่สาธารณะ ไม่มีแม้ป้ายชื่อถนนใดๆ
ที่เป็นชื่อหรือวงศ์ตระกูลของท่าน

ท่านไม่ขอรับ
บ้านพักส่วนตัว ทรัพย์สิน เงินทอง
หรือสิทธิพิเศษ
จากการเป็นอดีตผู้นำแต่อย่างใด

ท่านใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างเรียบง่าย
ในบ้านพักส่วนตัวดั้งเดิมของท่าน
โดยมิต้องมีผู้ติดตามอารักขา
มีแต่ประชาชนที่คอยให้การต้อนรับท่าน
ด้วยความเคารพรัก และศรัทธา
อย่างอบอุ่นเสมอในทุกวัน ในทุกที่
ที่ท่านดำเนินไปตราบจนวาระสุดท้าย
ในชีวิตของท่าน


…และแล้วฉันก็ลืมตาตื่นขึ้นจากฝัน
เพื่อเผชิญหน้ากับโลกแห่งความเป็นจริง
ที่เต็มไปด้วย เรื่องมายา การสร้างภาพ
วาทะกรรมสวยหรูที่ย้อนแย้งกับการกระทำ
ความละโมบ ความเห็นแก่ตัว
การจ้องเอาเปรียบของ ผู้มีอำนาจและพวกพ้อง
การทุจริตโกงกิน ทั้งตามน้ำ และทวนน้ำ
ที่สืบทอดต่อเนื่องกันไปจากรุ่นสู่รุ่น

แต่…ฉันก็ยังคงมีความหวัง
ว่าสักวันนึงฉันจะมีโอกาส
ได้พบกับ“ท่านผู้นำ” ในฝัน
เพราะฉันรู้แล้วว่า…
“ท่านผู้นำ”ที่ฉันใฝ่ฝันหานั้นเป็นเช่นไร


Soul Searcher
Inspired to write 10/7/2025




 9 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนให้แง่คิด / Re: ...อาสาฬหบูชา รำพัน...
 เมื่อ: 10 กรกฎาคม, 2568, 01:45:29 PM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ


ตรอมใจตราบยึดเฝ้า……….ตรึงตรา
ผูกเงื่อนพันธนา………….….แน่นแฟ้น
อาสาฬหบูชา…………….…รำลึก
ธรรมจักรแจ้งหลักแม้น……...จบสิ้นสังสาร



โซ…เซอะเซอ
10 กรกฎาคม 2568




 10 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / โกสุมคลุมโคลง
 เมื่อ: 10 กรกฎาคม, 2568, 10:02:30 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

      เร่าร้อนมะลุลี
   (โกสุมคลุมโคลง)

 ๑  สบนิศา .. กว่าใคร่ไคล้
นวลยวนใจ .. ในอาศรม
ทรงส่อก่ออารมณ์ .. เริงสวาท .. แม่เอย
กระหวัดมือไล่ไล้ .. เร่าร้อนมะลุลี

๒  สรีรเศวต .. เลศกว่าลี้
หลบเนตรหนี .. ไป่ได้เลย
ตรึงตรองผ่องตึงเผย .. พบูผ่าว
กระกัดกามกระกรุ่นกี้ .. ก็ร้าวเล่ห์พเยีย

๓  เคลียพยอม .. หอมเวี่ยเวี้ย
หวนเกลี่ยเกลีย- .. วร่างหวิว
เหินเหาะเลาะทุ่งทิว .. เขาถง่าน
ถงาดเงื้อมง่าเงี้ย .. ง่ามง้างพรางหาว

๔  พรางดาวพราว .. ด้าวกลบด้าว
ดาวกลับดาว .. พลิกแพลงแผลง
กระหนาบกลีบกระหน่ำแกง .. กว่าเผ็ด .. กว่ารา
เพลินขบเผาะเฉาะพร้าว .. เจิ่งฟ้าอาโป

๕  โอชาฉ่ำ .. ค่ำเพล้โพล้
ห่อนเลโล .. มะลุลี
สรวมสวาทอย่าหวาดหนี .. พี่ก่อน .. แม่เอย
สรวมต่อกระบวนโล้ .. จวบฟ้าภาสาง  ฯ

_____________

กระสวน โกสุมคลุมโคลง

๐ ๐ x .. x ๐ y(โท)
๐ ๐ y ...... ๐ ๐ z
๐ ๐ เอก ๐ z ..... ๐ เอก (๐ สร้อย)
๐ เอก ๐ ๐ y(โท) .... เอก โท ๐ a

; a --> y


Werzik
4 เมษายน 2564 เวลา 20:11 น.


หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.205 วินาที กับ 28 คำสั่ง
กำลังโหลด...