Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> กระทู้เมื่อเร็วๆ นี้
หน้า: [1] 2 3 ... 10
 1 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re:  คนนอกความฝัน
 เมื่อ: 3 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม
บนทางบางเส้น รองเท้าคนละคู่ แต่เดินหน้าไปได้ไม่เหมือนกัน..


           ก้อนหินสิ้นใจ

๏ ดีกับเธอเนิ่นนาน ชั่วกาลเวลา
  หวังเธอเปลี่ยนใจมาเห็นค่าฉัน
 เหมือนก้อนหินทนทานอยู่นานวัน
ถ้ามองกันเหมือนเล่นมิเป็นไร

๏ แต่แล้วทุกสิ่งก็ ฟ้องทุกอย่าง
  ว่าฉันสิ้นหนทางจะสู้ไหว
 แค่ก้อนหินริมทางยังห่างไกล
คิดเปลี่ยนใจใครพร้อมมายอมฟัง

๏ แค่เศษคำว่ารักกัน เรื่องมันยาก
  ถึงแม้อยากได้ยินคงสิ้นหวัง
 ความต้องการปะทุ รอผุพัง
ทุ่มเททั้งชีวิตยังพังทลาย   

๏ อดทนจนคนข้องใจทำไมอยู่
เพราะก็รู้ขืนไปใจสลาย
ยอมเอาใจซื้อใจหวังบั้นปลาย
เธอไม่หน่ายหันหน้าเหลียวมามอง

๏ เปลี่ยนใจคนไม่รักให้รักตอบ
  คนไม่ชอบให้ชอบตอบสนอง
 เหมือนความฝันมากมาย วุ่นวายก่ายกอง
คิดจับต้องเลือนรางไร้ทางเอย ๚ะ๛



 

 2 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง / …แม่ตำลึง…
 เมื่อ: 4 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย โซ...เซอะเซอ



…แม่ตำลึง…

โอ้แม่ตำลึง…
เพราะคิดถึงจึงครวญหา
อย่าแสร้งทำเมินเฉยเลยแก้วตา
พี่จักมาสู่ขอเจ้าไปเฝ้าเรือน



“…โอ้แม่ ตำลึง
คิดถึง จริงจริง ก็ไม่ได้อิงนิยาย
รักเธอ จริงจริง จากใจ
รักมากมาย ด้วยใจห่วงหวง

รู้ไหม ไม่ได้หลอกลวง
รักเธอ หมดเลยเต็มทรวง
ไม่ได้หลอกลวง
ก็รักเธอ จริงจริง…”


[แม่ตำลึง : TEEN&KIM]


…โอ้ เพลงนี้เกือบจะสามสิบปี แล้วสินะ…หึหึ


 

โซ…เซอะเซอ
9 พฤษภาคม 2568



 3 
 คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน / หมวดอาหาร / ต้นกำเนิด ขนมไทย ทองหยิบ ทองหยอดฯลฯ
 เมื่อ: 12 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย พิกุลแก้ว - กระทู้ล่าสุด โดย พิกุลแก้ว



ต้นกำเนิด ขนมไทย ทองหยิบ ทองหยอดฯลฯ

คงต้องกล่าวถึงที่มาตามยุคสมัย
ขนมไทยโบราณแต่กาลก่อน
ครั้งกรุงศรีอยุธยารุ่งอมร
กล่าวสะท้อนวัฒนธรรมของต่างเมือง

การเจริญสัมพันธไมตรี
ต่างประเทศมากมีจนฟูเฟื่อง
อิทธิพลความเป็นอยู่จึงรุ่งเรือง
การค้าไทยจึงประเทืองทั่วแผ่นดิน

โดยเฉพาะวัฒนธรรมด้านอาหาร
ทั้งคาว-หวานมีได้รับมาทั้งสิ้น
"ท้าวทองกีบม้า"ลือเลื่องให้ยลยิน
อบอายกลิ่น "ราชีนีขนมไทย"

ล้วนดัดแปลงมาจากต้นตำรับ
เหมาะสมกับวัตถุดิบที่มีให้
ผสมผสานความรู้อย่างตั้งใจ
ตั้งชื่อไว้เป็นมงคลจนสืบมา

ต้นตำรับอาหารโปรตุเกส
แสดงเหตุความนิยมชมรักษา
สู่ขนมหวานคู่ไทยให้นำพา
เพิ่มคุณค่าสำรับประดับเรือน

หลายเมนูคัดสรรนั้นมากนัก
และเป็นที่รู้จักมิคลาดเคลื่อน
ปัจจุบันยังขึ้นชื่อดั่งย้ำเตือน
อย่าลืมเลือนขนมไทยแต่โบราณ.



 4 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเปล่า / Re: กลอนเปล่า (Free verse)
 เมื่อ: 16 ชั่วโมงที่แล้ว 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share


ร่ายยาว
จากคุณ "ร่ายยาว ไหมคะ"

รวงข้าวในทุ่งท้องนา
สวยงามพาสดใส
ความรู้สึกในใจ
เหมือนเดินอยู่บนนภา
ฉันเดินไปตามทางคันนา
รู้สึกสุขใจ
เดินเพลินเพลินไป
ในทุ่งนาดั่งสวรรค์แห่งพื้นดิน
ยังมีกลิ่นหอมฟุ้งของนาข้าวอันสีทอง
อันเรืองรองน่าพิสมัย
สุดจะห้ามใจไม่ให้หลงรัก
เมื่อตั้งหลักมองไปเห็นตะวันอยู่บนฟ้า
ส่องประกายลงมา
ดังมีเพชรพราวอยู่บนรวงข้าว
แวววาวเห็นแล้วสวยสุดสะดุดตา
จนเวลาล่วงเลยไปไกล
ฉันจึงต้องกลับถิ่นอาศัยแล้ว แลนา

ร่ายยาว นับเป็น กลอนเปล่า ได้
เพียงแต่ จบร่ายยาว มักลงเสียง แลนา,
นั่นแล (เรียกกันว่า แหล่)


 5 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนคลายเครียด / Re: กลอนกับเพลงโปรด
 เมื่อ: 07 พฤษภาคม, 2568, 05:36:32 PM 
เริ่มโดย กระต่ายสีเทา - กระทู้ล่าสุด โดย กระต่ายสีเทา


รักล้นใจ - ปั่น

จากเพื่อนเคยกอดคอหยอกล้อเล่น
ทำจนเป็นอาจิณสิ้นสงสัย
แสนสนิทสนมกลมเกลียวใจ
เนิ่นนานไปรู้สึกแปลกแทรกกลางทรวง

ฉันคิดไกลเกินกว่าคำว่าเพื่อน
เริ่มเลอะเลือนทั้งรักทั้งห่วงหวง
ไม่กล้าเอ่ยเผยนัยให้ลุล่วง
กลัวว่าช่วงความสัมพันธ์จะผันแปร

กระต่ายสีเทา










 6 
 อารมณ์กลอน / ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ / เบญจางคอักษร
 เมื่อ: 07 พฤษภาคม, 2568, 04:30:16 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share



*** รัก เมตตา ***

"กลอนแปด ๒-๓-๓"

ความรัก ความต้องการ  "ต่าง"ชัดเห็น
ต่างขั้ว ตรงประเด็น หน,ผลแสวง
ความรัก มุ่งตัดตน ดลสำแดง
"ต้องการ" ฤทธีแผลง เพื่อ"ตัวตน"

--------

"วังสัฏฐฉันท์ ๑๒"
(ลค ลคค....ลลค ลคลค)

@ จะรัก และรับใช้
สละไซร้ สิกายกมล
มุมุ่ง ประโยชน์ผล
ปฏิบัติ "ระทม"สบาย

@ มิท้อ ผจญพาล
จะมุหาญ สยบทะลาย
ปะภัย ขจัดหาย
สิริสบ สงบนิรันดร์

--------

"โคลงห้าพัฒนา"
โดย ทีปกร (จิตร ภูมิศักดิ์)

@ มั่น! ทุกครั้ง.....หายใจ
กิจโปร่งใส.......ชัดแจ้ง
กาลสถานใด.....ธรรมมั่น
จิตไร้แล้ง..........เพื่อชน

@ รักรับใช้.........สกลผอง
ธรรมครรลอง.....ทั่วถ้วน
กายจิตปอง........ศานติ
สร้างสรรค์ล้วน...ประโยชน์ครัน

สกล
ว. ทั่วไป, ทั้งหมด, ทั้งสิ้น

--------

"ร่านสุภาพ"

@ รักคือธรรม์ แท้เที่ยง
บ่เบี่ยง เพราะฤทธิ์ อวิชชา
ฤ ตัณหา โลภโกรธหลง
รักมั่นคง สันติสงบ
เคารพ สิทธิ์ศักดิ์ศรี
เมตตามี ต่อผู้
ร่วมโลกย์ ทุกข์สุขสู้
สลัดพ้น”ตัวตน”

--------

"กาพย์ตุรงคธาวี"

(๑ บท มี ๔ บาท
- บาท ๑ และ ๓ มี ๓ วรรค
วรรคละ ๓,๔,๕ พยางค์
- บาท ๒ และ ๔ มี ๔ วรรค
วรรคละ ๓,๕  ;  ๓,๕ พยางค์)


@ ดลเมตตา...เที่ยงธรรมมรรคา
ชีวารับใช้ผอง
- ณ ทุกที่...........สามัคคีปรองดอง
มุสรรค์สร้าง...เป็นแบบอย่างทุกกาล
- รักรับใช้.........ทัดเทียมเสมอให้
อหิงสาทุกสถาน
- อดทนมุ.........หมายลุกรรมนำ"พาล"
สู่สุขศานต์....สวรรค์ ณ แผ่นดิน


* ขอบคุณ
คุณ ยอดยรรยง เยี่ยมเยือน
(บ้านกลอนไทย) ที่ ริเริ่ม ครับ *


 7 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเปล่า / กลอนเปล่า (Free verse)
 เมื่อ: 07 พฤษภาคม, 2568, 12:07:54 PM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share

Verse is formally a single metrical line in a poetic composition.
Free verse is an open form of poetry,
which in its modern form arose through the French vers libre form.
It does not use consistent meter patterns, rhyme, or any musical pattern.[1]
It thus tends to follow the rhythm of natural speech.

Prose poetry is poetry written in prose instead of using verse
but preserving poetic qualities such as heightened imagery,
parataxis and emotional effects.
Parataxis is a literary technique, in writing or speaking,
that favors short, simple sentences

Wikipedia

prose [n.] ร้อยแก้ว ความเรียง
verse [n.] กลอน, กาพย์, โคลง, ฉันท์


"เกิดมาเยี่ยงกษัตริย์ขัตติยราช
แต่อนิจจา...อนาถนัก
ต้องพลัดพรากถิ่นฐานแหล่งกำเนิด
ซมซานพเนจรไปทั่วเขตแคว้นแดนกันดาร
ทุกหุบห้วยละหานลำเนาไพร
ข้าบุกบั่นไปปิ่มเลือดตากระเด็น
มีดวงดารากรแทนประทีปส่อง
ฝากอนาคตไว้กับหมู่เมฆอันเลื่อนลอย
สุริยา...ประทานพลังฤทธิ์ให้แก่ข้า
จันทราเปรียบเสมือนเพื่อนใจ
หากสวรรค์ส่งข้ามาเกิดจริงแล้วไซร้
ข้าคงกลับคืนไปสู่เจ้าได้สมจินต์
รอข้าก่อน อาณาจักรสีทอง อันผ่องใส
"รอข้าก่อน" ...ประชากรทั้งหลาย และ
"รอข้าก่อน" ...ศัตรูหมู่อมิตร
"ข้า" กำลังจะกลับไป...กลับไป...กลับไป..."

พนมเทียน

แงซายมุ่งมั่นที่จะกลับมาตุภูมิ
เพื่อกอบกู้เอกราช  อิสระภาพของชาวมรกตนคร

จากคุณ : Par&Par   Pantip
14 พ.ค. 50



 8 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนให้แง่คิด / พอใจ ในกิจ จริตตน
 เมื่อ: 07 พฤษภาคม, 2568, 11:54:11 AM 
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share



@ พึงพอใจ ในกิจ จริตตนนั้น
ธรรมสะบั้น จบไป ไป่โรจน์ไสว
"ธรรมปฏิบัติ" จงนำ กระทำไป
ดั่งพุทธองค์ ทรงไข เผยแผ่แสดง




 9 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนเปล่า / Re: …หนึ่งเล่มเทียนไข…
 เมื่อ: 07 พฤษภาคม, 2568, 09:10:51 AM 
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย share


@ เทียนไข ไสวด้วย สละตน
หวังผล หนสว่าง มิสับสน
พ้นหล่ม เล่นเล่ห์ เฉมนต์
ห่างเหตุ กิเลสผจญ ทุกกาล

@ เทียนไข ไสวต่อ ต้องก่อกิจ
แค่คิด ฤ เกิด "ประเสริฐ"ฉาน
สิ่งดี ต้องประจักษ์ หลักพยาน
"ปฏิบัติ" ห้าวหาญ สละตน









 10 
 บทกลอนไพเราะ / กลอนรัก / Re:  คนนอกความฝัน
 เมื่อ: 06 พฤษภาคม, 2568, 10:18:11 PM 
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม
หลุมรักหลุมพราง

๏ตกหลุมรักไม่แปลกไม่แตกต่าง
เหมือนกับตกหลุมพรางที่วางล่อ
ตกลงไปใจสั่นประหวั่นรอ
ดีหรือร้ายไม่ท้อไม่พอกลัว

๏มันตื่นตาตื่นใจตื่นไปหมด
ภาพปรากฎเรื่องใดอยู่ในหัว
หลุมรักก็สุขสันต์ต้องพันพัว
เป็นหลุมพรางใกล้ตัวมิกลัวเลย

๏อะดรีนาลีน ไหลลื่นเมื่อตื่นเต้น
ยากแค้นแสนลำเค็ญรู้เห็นเฉย
หลุมอะไรหมายลองถ้าของเคย
ความเร้าใจเกินเอ่ยละเลยกล

๏ส่วนจะทุกข์สุขไหมก็ใช่ว่า
เรื่องตรงหน้าต้องเสี่ยงไม่เกี่ยงผล
จะหลุมรักหลุมร้างหลุมพรางทน
คงต้องทำตัวตนให้ทนทาน

๏เพราะที่ไหนมีรักมักมีทุกข์
ยากจะมีความสุขทุกสถาน
สนามรักส่วนใหญ่ ไม่ใช่วิมาน
สนองความต้องการได้ทุกคน

๏ตกหลุมรักหลุมพรางที่กางล่อ
ตั้งสติก่อนไปต่อย่อมส่อผล
อย่างแรกควรรู้จักรักตัวตน
ก่อนดิ้นรนรักใครตามใจเอย๚ะ๛ 5/5/67



 


หน้า: [1] 2 3 ... 10
Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.168 วินาที กับ 29 คำสั่ง
กำลังโหลด...