Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> กลอนเศร้า >> .๐..รักพันปี..๐.
หน้า: [1] 2 3 4   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: .๐..รักพันปี..๐.  (อ่าน 35970 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
.๐..รักพันปี..๐.
« เมื่อ: 24 พฤศจิกายน, 2559, 09:12:24 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

.๐..รักพันปี..๐.


.๐..กากชานหัวใจ..๐.
.
รอยสลักอักษรบทกลอนหวาน
อดีตกาลก่อนเก่าเราร่วมฝัน
ลิขิตร้อยถ้อยคำสร้างสัมพันธ์
สุขดั่งล่องท่องสวรรค์วิมานแมน
.
ในบทกลอนเราสองตระกองกอด
เจ้าอ้อนออดพรอดพร่ำยังจำแน่น
ใจเคลิบเคลิ้มคลับคล้ายฟังขลุ่ยแคน
ร่วมบรรเลงจากแดนดาวดึงส์
.
เพราะเหตุผลกลใดจึงไกลจาก
มิเหลือซากความสุขเคยส่งถึง
ทิ้งแต่เศร้าเคล้าคละน่าสะพรึง
ใจติดตรึงกับตรมจนกลมกลืน
.
จำทุกข์ทนท้อแท้เพราะแพ้ยับ
เจ้าสับปลับกลับกลายรักชายอื่น
ทิ้งให้พี่อกพังล้มทั้งยืน
ต้องหน้าชื่นอกช้ำจนเกินชง
.
คำออดอ้อนออเซาะไพเราะลิ้น
ห้วงแห่งจินต์สิ้นแล้วเคยลุ่มหลง
เหมือนนกน้อยโผจรออกจากกรง
ไปหลงดงพงอื่นใช้แอบอิง
.
เมื่อความรักเคยให้ไร้ค่าแล้ว
สิ้นวี่แววปรารถนาในตาหญิง
ขว้างทิ้งใจเคยแนบอกแอบพิง
มิเหลือสิ่งอื่นใดต้องใคร่ครวญ
.
หากทรามวัยไร้สิ้นจากความสัตย์
เช่นแก้วแตกกระจัดกระจ่ายส่วน
ดั่งสายชลไหลเชี่ยวฤาเลี้ยวทวน
ยากจะชวนหวนกลับเมื่อลับลา
.
โปรดส่งคืนหัวใจเมื่อไร้รัก
ลบสลักอักษรเคยอ้อนว่า
เจ้าสุดแหนสุดหวงดั่งดวงตา
จะขอรับกลับมาเยียวยามาน
.
ไม่เห็นค่าควรคู่สู้อย่าเก็บ
คืนใจเจ็บเพื่อหายาประสาน
คุกเข่าขอรอรับก้มกราบกราน
ขอกากชานหัวใจที่ให้คืน
.
.*..พันคม..*.
.
ภาพ..จากอินเตอร์เนท




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
พิณจันทร์, ตะวันรอน, สิริวตี, รพีกาญจน์, ❀ Sasi ❀, โซ...เซอะเซอ, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~

พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: .๐..กากชานหัวใจ..๐.
« ตอบ #1 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน, 2559, 09:17:59 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..กากชานหัวใจ..๐.
 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ตะวันรอน, สิริวตี, รพีกาญจน์, ❀ Sasi ❀, โซ...เซอะเซอ, พิณจันทร์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~
สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4732



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ชนะ

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาเงิน




| |
Re: .๐..กากชานหัวใจ..๐.
« ตอบ #2 เมื่อ: 24 พฤศจิกายน, 2559, 11:04:27 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..กากชานหัวใจ..๐.


หากหัวใจจากฉันให้ท่านแล้ว
จะมิแคล้วคลาดไกลไปเป็นอื่น
แม้วันวารเปลี่ยนมากจากวานซืน
หลับตาตื่นชื่นจิตคิดแค่เธอ

ฝากคำหอมถนอมไว้ในรอยรัก
ฝากวาทีที่ถักสลักเสมอ
ฝากบรรเลงเพลงล้ำฉ่ำละเมอ
ฝากเมื่อยามไม่เจอต้องห่างกัน

เป็นเพียงภาพอดีตที่หวานสุข
ลบความทุกข์ด้วยถ้อยเเล้วร้อยฝัน
ถนอมกลิ่นหอมหวานสานสัมพันธ์
จวบจนวันสุดท้ายที่หายใจ

มิอาจมีสิ่งรัดมัดรักษา
มีศรัทธาคงมั่นมิหวั่นไหว
ผูกสนิทวิญญาณ์มิลาไกล
อยู่แห่งใดมิหม่นหมองครองภักดี

อันหัวใจยิ่งใหญ่ใช่ค้ำฟ้า
ถึงเวลาต้องตายห่างหายหนี
คำว่าชั่วนิรันดร์นั้นไม่มี
แต่ตราบนี้ขอรักเคียงเพียงพี่เดียว

สิริวตี









ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ตะวันรอน, , รพีกาญจน์, พันคม, ❀ Sasi ❀, โซ...เซอะเซอ, พิณจันทร์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สิริวตี"ค่ะ~
พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #3 เมื่อ: 25 พฤศจิกายน, 2559, 11:05:37 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.

.๐..ใครฤาจะรู้..๐.
.
ทีละหยดหยดใสลงใส่หล้า
ลมพัดพาพรมพื้นในคืนเปลี่ยว
หยดน้ำค้างค้างหล่นบนใบเรียว
ดังกรูเกรียวกับใบหญ้าเป็นอาจินต์
.
ไก่กระชั้นขันถี่เร่งสีแสง
เคยจำแลงหายลับกับโขดหิน
วิหคซุกหลบซ่อนร่อนหากิน
รับแสงสูรย์เคยสิ้นด้วยยินดี
.
ทานตะวันสะพรั่งดั่งวันก่อน
ก็กลับย้อนแย้มบานตระการสี
ดอกเคยตูมแตกบานในทันที
เพื่อสู้แสงแห่งสุรีย์ต่างคลี่บาน
.
น้ำค้างที่รินร่ำยามค่ำคล้อย
บ้างหยดแตกเป็นฝอยกระเซ็นซ่าน
ชุ่มฉ่ำดินไม้หญ้าจวบบาดาล
พลันต้องสูญอันตรธานมิอาจทน
.
เฉกรักที่ผ่านคำว่าดำมืด
ฤาจะยืดยาวดีได้กี่หน
ไม่เหมือนยามรักมีเต็มกมล
แล้วแสงรักส่องจนใจสกาว
.
น้ำค้างจะต้องพรากจากเวหาส
สุรีย์สาดไล่สลัวไปทั่วหาว
ดวงจันทราแวววับอยู่กับดาว
ทุกสิ่งราวเกิดดับกับชะตา
.
ลมเจ้าเอยพัดไปแล้วไม่กลับ
เมื่อเลยลับไร้หวนกลับคืนหา
แล้วลมใหม่พัดใหม่ก็ไหลพา
คล้ายดั่งว่าพัดมาแล้วหมุนวน
.
โอ้ความรักนั้นหรือคือไฉน
เมื่อมอดแล้วเกิดใหม่ได้กี่หน
ซาบซึ้งถึงรักแท้แค่กี่คน
ถามตัวตนมีไหมใครจะรู้
.
.๐..พันคม..๐.




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, โซ...เซอะเซอ, สิริวตี, ตะวันรอน, พิณจันทร์, รพีกาญจน์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4058



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #4 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน, 2559, 12:15:59 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.


ด้วยความรัก เกิดใน ฤทัยหว่าง
ย้อนถามพลาง หากใช่ แค่ใคร่ชู้
ฤาเป็นเพียง หลงรูป จูบตราตรู
โหยหาคู่ คลายเหงาทม เท่านั้น

วายวุ่นวน หม่นเวียน เฝ้าเพียรถาม
ว่างดงาม แห่งรัก พิทักษ์ฝัน
มีอยู่จริง หรือแสร้ง ดุจแสงจันทร์
คู่ตะวัน ย้ำตอก บอกความนัย

หากสองสิ่ง งดงาม นิยามโลก
ยังทุกข์โศก ดุจรัก ถูกผลักไส
ความรักจริง มิ่งแท้ สุดแต่ใจ
อาจมิได้ ต้องอยู่ คู่เคียงกัน

หากสวยสด งดงาม ของความรัก
แจ้งประจักษ์ เจิดจ้า มิหาหัน
ขอยังคง มั่นรัก จักนิรันดร์
แม้เป็นเพียง ความฝัน ฉันจะรอ...

Soul Searcher
Inspired to write 26/11/2016







ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
สิริวตี, ตะวันรอน, พิณจันทร์, รพีกาญจน์, พันคม, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4732



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ชนะ

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาเงิน




| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #5 เมื่อ: 26 พฤศจิกายน, 2559, 03:29:08 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: พันคม ที่ 25 พฤศจิกายน, 2559, 11:05:37 PM

.๐..ใครฤาจะรู้..๐.
.
ทีละหยดหยดใสลงใส่หล้า
ลมพัดพาพรมพื้นในคืนเปลี่ยว
หยดน้ำค้างค้างหล่นบนใบเรียว
ดังกรูเกรียวกับใบหญ้าเป็นอาจินต์
.
ไก่กระชั้นขันถี่เร่งสีแสง
เคยจำแลงหายลับกับโขดหิน
วิหคซุกหลบซ่อนร่อนหากิน
รับแสงสูรย์เคยสิ้นด้วยยินดี
.
ทานตะวันสะพรั่งดั่งวันก่อน
ก็กลับย้อนแย้มบานตระการสี
ดอกเคยตูมแตกบานในทันที
เพื่อสู้แสงแห่งสุรีย์ต่างคลี่บาน
.
น้ำค้างที่รินร่ำยามค่ำคล้อย
บ้างหยดแตกเป็นฝอยกระเซ็นซ่าน
ชุ่มฉ่ำดินไม้หญ้าจวบบาดาล
พลันต้องสูญอันตรธานมิอาจทน
.
เฉกรักที่ผ่านคำว่าดำมืด
ฤาจะยืดยาวดีได้กี่หน
ไม่เหมือนยามรักมีเต็มกมล
แล้วแสงรักส่องจนใจสกาว
.
น้ำค้างจะต้องพรากจากเวหาส
สุรีย์สาดไล่สลัวไปทั่วหาว
ดวงจันทราแวววับอยู่กับดาว
ทุกสิ่งราวเกิดดับกับชะตา
.
ลมเจ้าเอยพัดไปแล้วไม่กลับ
เมื่อเลยลับไร้หวนกลับคืนหา
แล้วลมใหม่พัดใหม่ก็ไหลพา
คล้ายดั่งว่าพัดมาแล้วหมุนวน
.
โอ้ความรักนั้นหรือคือไฉน
เมื่อมอดแล้วเกิดใหม่ได้กี่หน
ซาบซึ้งถึงรักแท้แค่กี่คน
ถามตัวตนมีไหมใครจะรู้
.
.๐..พันคม..๐.



ความรักอาจไร้ทางไร้วางแผน
ไร้พรมแดนไร้เห็นความเป็นอยู่
ความรักคือคุณค่าคือตราตรู
ที่ดนูซึ้งสนิทจิตวิญญาณ์

คืนวันผ่านลมมาเยือนเหมือนน้ำไหล
ยากจะไขว่สุดแขนแหนรักษา
อดีตส่งปัจจุบันนั่นกรรมา
คือชะตาเกิดดับกับชีวิต

อย่าอาลัยความหลังนั่งเศร้าสร้อย
แล้วค่อยค่อยหลับตาอย่ายึดติด
จะเห็นความรู้สึกส่งทุกทิศ
กระทบความมืดมิดแล้วกอดพลาง

รักมิอาจอยู่ยงดำรงขวัญ
เมื่อถึงวันมีใหม่ก็ให้ห่าง
แสงตะวันส่องทั่วแค่ชั่วทาง
จันทร์กระจ่างแค่สวยสดจรดค่ำคืน

เฉกลุ่มหลงมัวเมาเงาหมองหม่น
ลืมกังวลเพราะหลับใหลยังไม่ตื่น
แม้ฝนซัดสาดใส่ใจชุ่มชื้น
ยังยิ้มรื่นเริงร่าท้าฝนโปรย

วันเวลาโลกนี้ที่มีรัก
มิอาจหักอาลัยฤทัยโหย
จะอยู่หม่นอนธกาลที่กาลโกย
แล้วลับโรยร่วงแท้แปรสู่ธรรมฯ

สิริวตี

จะแต่งกลอนรักกลายเป็นกลอนธรรมะได้ไงไม่รู้เนี่ย ต่อกลอนพี่พันฯ ทีไร วตีลงจบธรรมทุ้กกทีเลย
 




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ตะวันรอน, โซ...เซอะเซอ, พิณจันทร์, รพีกาญจน์, พันคม, ❀ Sasi ❀
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สิริวตี"ค่ะ~
พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #6 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน, 2559, 10:39:13 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: soul searcher ที่ 26 พฤศจิกายน, 2559, 12:15:59 PM

ด้วยความรัก เกิดใน ฤทัยหว่าง
ย้อนถามพลาง หากใช่ แค่ใคร่ชู้
ฤาเป็นเพียง หลงรูป จูบตราตรู
โหยหาคู่ คลายเหงาทม เท่านั้น

วายวุ่นวน หม่นเวียน เฝ้าเพียรถาม
ว่างดงาม แห่งรัก พิทักษ์ฝัน
มีอยู่จริง หรือแสร้ง ดุจแสงจันทร์
คู่ตะวัน ย้ำตอก บอกความนัย

หากสองสิ่ง งดงาม นิยามโลก
ยังทุกข์โศก ดุจรัก ถูกผลักไส
ความรักจริง มิ่งแท้ สุดแต่ใจ
อาจมิได้ ต้องอยู่ คู่เคียงกัน

หากสวยสด งดงาม ของความรัก
แจ้งประจักษ์ เจิดจ้า มิหาหัน
ขอยังคง มั่นรัก จักนิรันดร์
แม้เป็นเพียง ความฝัน ฉันจะรอ...

Soul Searcher
Inspired to write 26/11/2016

ฟ้าอุ่นดอกไม้บานสะคราญหล้า
กิ่งไม้หนายามฝนหล่นลงช่อ
จันทรางามยามเพ็ญเด่นลออ
แข็งระย่อต่ออ่อนซ้อนรูปนาม
.
สายลมพลิ้วพัดวนกิ่งไม้ไหว
พายุยามโหมใกล้น่าเกรงขาม
ประกายแดดแผดใสใช่คุกคาม
ดาวระยับวัววามมิวายวาง

ดอกกุหลาบบานแล้วยังโรยรา
สุริยาจันทรเคยซ่อนร่าง
โลหิตมีสีแดงทุกนายนาง
เหือดแห้งไปไยสร้างเป็นสีดำ
.
อีกสายลมมีแรงและอ่อนล้า
แม้นพฤกษา..มีสูงและมีต่ำ
ความคิดหรือ..มีลืมยังมีจำ
เรามีรัก..มีช้ำ..ธรรมดา
.
..พันคม..



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, โซ...เซอะเซอ, สิริวตี, รพีกาญจน์, พิณจันทร์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~
พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #7 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน, 2559, 11:05:58 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: สิริวตี ที่ 26 พฤศจิกายน, 2559, 03:29:08 PM

ความรักอาจไร้ทางไร้วางแผน
ไร้พรมแดนไร้เห็นความเป็นอยู่
ความรักคือคุณค่าคือตราตรู
ที่ดนูซึ้งสนิทจิตวิญญาณ์

คืนวันผ่านลมมาเยือนเหมือนน้ำไหล
ยากจะไขว่สุดแขนแหนรักษา
อดีตส่งปัจจุบันนั่นกรรมา
คือชะตาเกิดดับกับชีวิต

อย่าอาลัยความหลังนั่งเศร้าสร้อย
แล้วค่อยค่อยหลับตาอย่ายึดติด
จะเห็นความรู้สึกส่งทุกทิศ
กระทบความมืดมิดแล้วกอดพลาง

รักมิอาจอยู่ยงดำรงขวัญ
เมื่อถึงวันมีใหม่ก็ให้ห่าง
แสงตะวันส่องทั่วแค่ชั่วทาง
จันทร์กระจ่างแค่สวยสดจรดค่ำคืน

เฉกลุ่มหลงมัวเมาเงาหมองหม่น
ลืมกังวลเพราะหลับใหลยังไม่ตื่น
แม้ฝนซัดสาดใส่ใจชุ่มชื้น
ยังยิ้มรื่นเริงร่าท้าฝนโปรย

วันเวลาโลกนี้ที่มีรัก
มิอาจหักอาลัยฤทัยโหย
จะอยู่หม่นอนธกาลที่กาลโกย
แล้วลับโรยร่วงแท้แปรสู่ธรรมฯ

สิริวตี

จะแต่งกลอนรักกลายเป็นกลอนธรรมะได้ไงไม่รู้เนี่ย ต่อกลอนพี่พันฯ ทีไร วตีลงจบธรรมทุ้กกทีเลย
 
ไม่มีต้น จะมีปลาย..ไฉนฤา
ไม่มีฝน จะมีหรือ ความชุ่มฉ่ำ
ไม่มีตาย..ไยจะเกิด..ให้มีกรรม
ไม่มีนำ ไม่ต้องตาม คือความนัย
.
ว่าอีกฝั่งฟากคลองของความคิด
สายนทีถูกผิดนั้นล่องไหล
คนละฝากฝั่งคิดของจิตใจ
เคยหามันพบไหมในตัวตน
.
หรือสุขแล้วกับรักโลภโกรธหลง
จนงวยงงกับเหล่าอกุศล
ให้หลงอยู่อย่างอยากลากกมล
จนเคล้าปนบาปเปื้อนเป็นเหมือนเงา
.
ได้กลิ่นไหมน้ำครำที่ร่ำอาบ
มองเห็นไหมรอบคราบกลิ่นสาบเน่า
ของโสมมดำหมองสมองเรา
ที่มันเร้าเย้ายวนคอยกวนตัว
.
สายนทีถูกผิดเราคิดแต่ง
มันจำแลงโลดแล่นอยู่ในรั้ว
ของดวงใจผู้กล้ากับผู้กลัว
เกิดเป็นชั่วเป็นดี..ฉะนี้เนอ
.
เมื่อมีรักแล้วมักมีทุกข์ซ่อน
แล้วกลับซ้อนด้วยสุขอยู่เสมอ
ถ้าสุขเป็น..ทุกข์ไม่เป็น..ที่เห็นเจอ
ทุกข์จะเผลอท่วมสุข..ทุกข์จนตาย
.
..พันคม..



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, โซ...เซอะเซอ, สิริวตี, รพีกาญจน์, พิณจันทร์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4058



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #8 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน, 2559, 01:09:45 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: พันคม ที่ 28 พฤศจิกายน, 2559, 10:39:13 AM
อ้างจาก: soul searcher ที่ 26 พฤศจิกายน, 2559, 12:15:59 PM

ด้วยความรัก เกิดใน ฤทัยหว่าง
ย้อนถามพลาง หากใช่ แค่ใคร่ชู้
ฤาเป็นเพียง หลงรูป จูบตราตรู
โหยหาคู่ คลายเหงาทม เท่านั้น

วายวุ่นวน หม่นเวียน เฝ้าเพียรถาม
ว่างดงาม แห่งรัก พิทักษ์ฝัน
มีอยู่จริง หรือแสร้ง ดุจแสงจันทร์
คู่ตะวัน ย้ำตอก บอกความนัย

หากสองสิ่ง งดงาม นิยามโลก
ยังทุกข์โศก ดุจรัก ถูกผลักไส
ความรักจริง มิ่งแท้ สุดแต่ใจ
อาจมิได้ ต้องอยู่ คู่เคียงกัน

หากสวยสด งดงาม ของความรัก
แจ้งประจักษ์ เจิดจ้า มิหาหัน
ขอยังคง มั่นรัก จักนิรันดร์
แม้เป็นเพียง ความฝัน ฉันจะรอ...

Soul Searcher
Inspired to write 26/11/2016

ฟ้าอุ่นดอกไม้บานสะคราญหล้า
กิ่งไม้หนายามฝนหล่นลงช่อ
จันทรางามยามเพ็ญเด่นลออ
แข็งระย่อต่ออ่อนซ้อนรูปนาม
.
สายลมพลิ้วพัดวนกิ่งไม้ไหว
พายุยามโหมใกล้น่าเกรงขาม
ประกายแดดแผดใสใช่คุกคาม
ดาวระยับวัววามมิวายวาง

ดอกกุหลาบบานแล้วยังโรยรา
สุริยาจันทรเคยซ่อนร่าง
โลหิตมีสีแดงทุกนายนาง
เหือดแห้งไปไยสร้างเป็นสีดำ
.
อีกสายลมมีแรงและอ่อนล้า
แม้นพฤกษา..มีสูงและมีต่ำ
ความคิดหรือ..มีลืมยังมีจำ
เรามีรัก..มีช้ำ..ธรรมดา
.
..พันคม..



ธรรมชาติ วาดวาง สร้างสรรพ์สิ่ง
โลกความจริง วิโยค โศกนักหนา
ทุกสิ่งล้วน เกิดดับ แล้วลับลา
สุริยัน จันทรา ชะตาคน

ต่างอยู่ใต้ บริบท กฎเกณฑ์รู้
หากเรื่องดู เหมือนง่าย กลายสับสน
ด้วยมิรับ คับข้อง หมองกมล
จึ่งทุกข์ท้น หม่นไหม้ ในฤดี

หากปล่อยวาง ยึดมั่น กระนั้นไซร้
มิห่างไกล งดงาม ตามวิถี
หากแต่โลภ โกรธหลง ยังคงมี
มิอาจที่  กำจัด ตัดจากรัก

คงได้เพียง เผื่อใจ ในขื่นขม
ยามระทม ทุกข์หมาง หลุมพรางดัก
ก่อนชีวี  วางวาย มิคลายภักดิ์
ขอรู้จัก รักแท้ แม้สักครา...

Soul Searcher
Inspired to write 28/11/2016




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
สิริวตี, รพีกาญจน์, พันคม, ❀ Sasi ❀, พิณจันทร์
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
สิริวตี
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4732



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ชนะ

สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

ปากกาเงิน




| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #9 เมื่อ: 28 พฤศจิกายน, 2559, 04:40:49 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: พันคม ที่ 28 พฤศจิกายน, 2559, 11:05:58 AM
ไม่มีต้น จะมีปลาย..ไฉนฤา
ไม่มีฝน จะมีหรือ ความชุ่มฉ่ำ
ไม่มีตาย..ไยจะเกิด..ให้มีกรรม
ไม่มีนำ ไม่ต้องตาม คือความนัย
.
ว่าอีกฝั่งฟากคลองของความคิด
สายนทีถูกผิดนั้นล่องไหล
คนละฝากฝั่งคิดของจิตใจ
เคยหามันพบไหมในตัวตน
.
หรือสุขแล้วกับรักโลภโกรธหลง
จนงวยงงกับเหล่าอกุศล
ให้หลงอยู่อย่างอยากลากกมล
จนเคล้าปนบาปเปื้อนเป็นเหมือนเงา
.
ได้กลิ่นไหมน้ำครำที่ร่ำอาบ
มองเห็นไหมรอบคราบกลิ่นสาบเน่า
ของโสมมดำหมองสมองเรา
ที่มันเร้าเย้ายวนคอยกวนตัว
.
สายนทีถูกผิดเราคิดแต่ง
มันจำแลงโลดแล่นอยู่ในรั้ว
ของดวงใจผู้กล้ากับผู้กลัว
เกิดเป็นชั่วเป็นดี..ฉะนี้เนอ
.
เมื่อมีรักแล้วมักมีทุกข์ซ่อน
แล้วกลับซ้อนด้วยสุขอยู่เสมอ
ถ้าสุขเป็น..ทุกข์ไม่เป็น..ที่เห็นเจอ
ทุกข์จะเผลอท่วมสุข..ทุกข์จนตาย
.
..พันคม..

จะยอมรับลำเข็ญเช่นความทุกข์
มิรับสุขอารมณ์ตรมตรอมหน่าย
เพราะมิอาจลืมลงตรงหนึ่งชาย
แม้เวียนว่ายตามกรรมพรหมนำมา

จะลืมตรงชั่วดีที่รู้บ้าง
เป็นเงาจางเสริมชีวิตจิตหรรษา
สิ่งโสมมและสมองตรองปัญญา
จะขอฝ่าก้าวข้ามมิคร้ามกลัว

แม้มิอาจได้พบประสบหน้า
มองในตาทุกวันให้ถ้วนทั่ว
ยังถนอมรักพอเพียงเอาเลี้ยงตัว
จิตที่ชั่วจงรักและภักดี

หากว่าคือกิเลสเหตุแห่งทุกข์
แต่ซ่อนสุขเอาไว้ไม่ห่างหนี
อัประมาณดวงแก้วแววมณี
ช่วยเก็บทีเอาไว้ในทรงจำ

สิริวตี

 

เอ้อ!... กว่าจะออกกลอนรักได้ ไม่งั้นธรรมะอีกแน่ๆ ...พอดีวันนี้หลานอารมณ์ดีน่ะปู่




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, พันคม, ❀ Sasi ❀, พิณจันทร์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"สิริวตี"ค่ะ~
พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #10 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน, 2559, 03:44:58 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: soul searcher ที่ 28 พฤศจิกายน, 2559, 01:09:45 PM
อ้างจาก: พันคม ที่ 28 พฤศจิกายน, 2559, 10:39:13 AM
อ้างจาก: soul searcher ที่ 26 พฤศจิกายน, 2559, 12:15:59 PM

ด้วยความรัก เกิดใน ฤทัยหว่าง
ย้อนถามพลาง หากใช่ แค่ใคร่ชู้
ฤาเป็นเพียง หลงรูป จูบตราตรู
โหยหาคู่ คลายเหงาทม เท่านั้น

วายวุ่นวน หม่นเวียน เฝ้าเพียรถาม
ว่างดงาม แห่งรัก พิทักษ์ฝัน
มีอยู่จริง หรือแสร้ง ดุจแสงจันทร์
คู่ตะวัน ย้ำตอก บอกความนัย

หากสองสิ่ง งดงาม นิยามโลก
ยังทุกข์โศก ดุจรัก ถูกผลักไส
ความรักจริง มิ่งแท้ สุดแต่ใจ
อาจมิได้ ต้องอยู่ คู่เคียงกัน

หากสวยสด งดงาม ของความรัก
แจ้งประจักษ์ เจิดจ้า มิหาหัน
ขอยังคง มั่นรัก จักนิรันดร์
แม้เป็นเพียง ความฝัน ฉันจะรอ...

Soul Searcher
Inspired to write 26/11/2016

ฟ้าอุ่นดอกไม้บานสะคราญหล้า
กิ่งไม้หนายามฝนหล่นลงช่อ
จันทรางามยามเพ็ญเด่นลออ
แข็งระย่อต่ออ่อนซ้อนรูปนาม
.
สายลมพลิ้วพัดวนกิ่งไม้ไหว
พายุยามโหมใกล้น่าเกรงขาม
ประกายแดดแผดใสใช่คุกคาม
ดาวระยับวัววามมิวายวาง

ดอกกุหลาบบานแล้วยังโรยรา
สุริยาจันทรเคยซ่อนร่าง
โลหิตมีสีแดงทุกนายนาง
เหือดแห้งไปไยสร้างเป็นสีดำ
.
อีกสายลมมีแรงและอ่อนล้า
แม้นพฤกษา..มีสูงและมีต่ำ
ความคิดหรือ..มีลืมยังมีจำ
เรามีรัก..มีช้ำ..ธรรมดา
.
..พันคม..


ธรรมชาติ วาดวาง สร้างสรรพ์สิ่ง
โลกความจริง วิโยค โศกนักหนา
ทุกสิ่งล้วน เกิดดับ แล้วลับลา
สุริยัน จันทรา ชะตาคน

ต่างอยู่ใต้ บริบท กฎเกณฑ์รู้
หากเรื่องดู เหมือนง่าย กลายสับสน
ด้วยมิรับ คับข้อง หมองกมล
จึ่งทุกข์ท้น หม่นไหม้ ในฤดี

หากปล่อยวาง ยึดมั่น กระนั้นไซร้
มิห่างไกล งดงาม ตามวิถี
หากแต่โลภ โกรธหลง ยังคงมี
มิอาจที่  กำจัด ตัดจากรัก

คงได้เพียง เผื่อใจ ในขื่นขม
ยามระทม ทุกข์หมาง หลุมพรางดัก
ก่อนชีวี  วางวาย มิคลายภักดิ์
ขอรู้จัก รักแท้ แม้สักครา...

Soul Searcher
Inspired to write 28/11/2016

.๐..ขอสิทธ์รัก..๐.
.
ขอใช้สิทธิ์คนซึ่งเคยโศกศัลย์
อยู่ในโลกอย่างหวั่นหวาดผวา
อย่าอึดอัดขัดข้องเมื่อมองมา
หรือสมเพทเวทนาเลยนารี
.
ขอใช้สิทธิ์ทักสาวทุกคราวสบ
อย่าคิดลบทุกเรื่องให้เคืองศรี
ไม่รุ่มร่ามลามล้ออย่างชอกี
ทักด้วยคำสวัสดีเท่านี้พอ
.
ขอใช้สิทธิ์ซักถามยามสงสัย
คงมิผิดใช่ไหมหากชายขอ
ตอบแค่คำสองคำในลำคอ
ว่าอออออืออือไม่ถือกัน
.
ขอใช้สิทธิ์สงสารจากคนสวย
เป็นตัวช่วยให้ชอบเพื่อปลอบขวัญ
ขอรอยยิ้มยามพบสบตาพลัน
ทุกทุกวันมิเว้นโปรดเห็นใจ
.
ขอใช้สิทธิ์คิดถึงคะนึงหา
ตามมุ่งมาตรปรารถนาจะว่าไหม
เพราะทุกคิดที่ครองห้องหทัย
มีแต่ใบหน้านางมิสร่างเลย
.
ขอใช้สิทธิ์ต่อสายโทรศัพท์
คืนละครั้งนะครับแม่คุณเอ๋ย
ทุกสามทุ่มประจำด้วยคำเปรย
บอกฝันดีทรามเชยถึงรุ่งเช้า
.
ขอใช้สิทธิ์ชิดใกล้ตามใจปรารถน์
ร่วมภพชาติเชยชมภิรมย์เจ้า
จะติดตามเนื้อเย็นดั่งเช่นเงา
ที่คอยเคล้าเคียงข้างมิห่างกาย
.
ขอใช้สิทธิ์สู่ขอจากพ่อแม่
อย่าตอบคำว่าแต่ให้แพ้พ่าย
จะใช่สิทธิ์ให้สมอย่างคมคาย
ยกสิทธิ์นั้นให้ชายเถิดยอดชู้
.
.๐..พันคม..๐.



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, พิณจันทร์, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin, สิริวตี
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~
พันคม
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
******
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 848




ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #11 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน, 2559, 04:20:13 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: สิริวตี ที่ 28 พฤศจิกายน, 2559, 04:40:49 PM
อ้างจาก: พันคม ที่ 28 พฤศจิกายน, 2559, 11:05:58 AM
ไม่มีต้น จะมีปลาย..ไฉนฤา
ไม่มีฝน จะมีหรือ ความชุ่มฉ่ำ
ไม่มีตาย..ไยจะเกิด..ให้มีกรรม
ไม่มีนำ ไม่ต้องตาม คือความนัย
.
ว่าอีกฝั่งฟากคลองของความคิด
สายนทีถูกผิดนั้นล่องไหล
คนละฝากฝั่งคิดของจิตใจ
เคยหามันพบไหมในตัวตน
.
หรือสุขแล้วกับรักโลภโกรธหลง
จนงวยงงกับเหล่าอกุศล
ให้หลงอยู่อย่างอยากลากกมล
จนเคล้าปนบาปเปื้อนเป็นเหมือนเงา
.
ได้กลิ่นไหมน้ำครำที่ร่ำอาบ
มองเห็นไหมรอบคราบกลิ่นสาบเน่า
ของโสมมดำหมองสมองเรา
ที่มันเร้าเย้ายวนคอยกวนตัว
.
สายนทีถูกผิดเราคิดแต่ง
มันจำแลงโลดแล่นอยู่ในรั้ว
ของดวงใจผู้กล้ากับผู้กลัว
เกิดเป็นชั่วเป็นดี..ฉะนี้เนอ
.
เมื่อมีรักแล้วมักมีทุกข์ซ่อน
แล้วกลับซ้อนด้วยสุขอยู่เสมอ
ถ้าสุขเป็น..ทุกข์ไม่เป็น..ที่เห็นเจอ
ทุกข์จะเผลอท่วมสุข..ทุกข์จนตาย
.
..พันคม..

จะยอมรับลำเข็ญเช่นความทุกข์
มิรับสุขอารมณ์ตรมตรอมหน่าย
เพราะมิอาจลืมลงตรงหนึ่งชาย
แม้เวียนว่ายตามกรรมพรหมนำมา

จะลืมตรงชั่วดีที่รู้บ้าง
เป็นเงาจางเสริมชีวิตจิตหรรษา
สิ่งโสมมและสมองตรองปัญญา
จะขอฝ่าก้าวข้ามมิคร้ามกลัว

แม้มิอาจได้พบประสบหน้า
มองในตาทุกวันให้ถ้วนทั่ว
ยังถนอมรักพอเพียงเอาเลี้ยงตัว
จิตที่ชั่วจงรักและภักดี

หากว่าคือกิเลสเหตุแห่งทุกข์
แต่ซ่อนสุขเอาไว้ไม่ห่างหนี
อัประมาณดวงแก้วแววมณี
ช่วยเก็บทีเอาไว้ในทรงจำ

สิริวตี

 
เอ้อ!... กว่าจะออกกลอนรักได้ ไม่งั้นธรรมะอีกแน่ๆ ...พอดีวันนี้หลานอารมณ์ดีน่ะปู่
.
พสุธาชุ่มโชกด้วยโศก-สุข
มันคอยเข้าเคล้าคลุกทั้งคืนค่ำ
เฉกสมุทรคลื่นม้วนจนคะมำ
กระแทกซัดสายน้ำดั่งครางครวญ
.
คลื่นถาโถมสาดซบกระทบฝั่ง
กึกก้องดั่งเสียงเฮทะเลสรวล
ฟากฟ้าคล้ายเมฆบ่นลมฝนชวน
แสร้งยียวนเย้ยแค่นแดนโลกีย์
.
ความมีชัยพ่ายแพ้สุดแต่ฟ้า
ปานภูผายังพังสุดหยั่งหนี
มรสุม...รุมป่วนมวลเมฆี
ทั่วปฐพีเช้าค่ำคล้ำแล้วจาง
.
อยากสลัดรบกวนเรื่องยวนยั่ว
ไร้พันพัวทั่วหล้าใต้ฟ้ากว้าง
ธรรมชาติรายล้อมกระท่อมฟาง
ทั่วสรรพางค์เป็นหนึ่งด้วยพึงใจ
.
กับสันโดษโลดแล่นทั่วแดนโลก
วิปโยค...โศกหรือ...คือไฉน
มิติดกับพยับกลิ่นอจินไตย
ทุกข์ทำไมในชีวิต...อนิจจา
.
..พันคม..



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀, พิณจันทร์, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin, สิริวตี
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"พันคม"ครับ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4058



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




| |
Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
« ตอบ #12 เมื่อ: 30 พฤศจิกายน, 2559, 11:03:02 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ใครฤาจะรู้..๐.
อ้างจาก: พันคม ที่ 30 พฤศจิกายน, 2559, 03:44:58 PM


.๐..ขอสิทธ์รัก..๐.
.
ขอใช้สิทธิ์คนซึ่งเคยโศกศัลย์
อยู่ในโลกอย่างหวั่นหวาดผวา
อย่าอึดอัดขัดข้องเมื่อมองมา
หรือสมเพทเวทนาเลยนารี
.
ขอใช้สิทธิ์ทักสาวทุกคราวสบ
อย่าคิดลบทุกเรื่องให้เคืองศรี
ไม่รุ่มร่ามลามล้ออย่างชอกี
ทักด้วยคำสวัสดีเท่านี้พอ
.
ขอใช้สิทธิ์ซักถามยามสงสัย
คงมิผิดใช่ไหมหากชายขอ
ตอบแค่คำสองคำในลำคอ
ว่าอออออืออือไม่ถือกัน
.
ขอใช้สิทธิ์สงสารจากคนสวย
เป็นตัวช่วยให้ชอบเพื่อปลอบขวัญ
ขอรอยยิ้มยามพบสบตาพลัน
ทุกทุกวันมิเว้นโปรดเห็นใจ
.
ขอใช้สิทธิ์คิดถึงคะนึงหา
ตามมุ่งมาตรปรารถนาจะว่าไหม
เพราะทุกคิดที่ครองห้องหทัย
มีแต่ใบหน้านางมิสร่างเลย
.
ขอใช้สิทธิ์ต่อสายโทรศัพท์
คืนละครั้งนะครับแม่คุณเอ๋ย
ทุกสามทุ่มประจำด้วยคำเปรย
บอกฝันดีทรามเชยถึงรุ่งเช้า
.
ขอใช้สิทธิ์ชิดใกล้ตามใจปรารถน์
ร่วมภพชาติเชยชมภิรมย์เจ้า
จะติดตามเนื้อเย็นดั่งเช่นเงา
ที่คอยเคล้าเคียงข้างมิห่างกาย
.
ขอใช้สิทธิ์สู่ขอจากพ่อแม่
อย่าตอบคำว่าแต่ให้แพ้พ่าย
จะใช่สิทธิ์ให้สมอย่างคมคาย
ยกสิทธิ์นั้นให้ชายเถิดยอดชู้
.
.๐..พันคม..๐.



อยากใช้สิทธิ์ อย่างท่าน พันคมบ้าง
ยามอ้างว้าง เป่าพรม ลมข้างหู
แผ่วคำหวาน พลอดพร่ำ ฉ่ำวธู
เชยชิดชู้ บอกรัก อักษรา

อยากใช้สิทธิ์ หว่านชม คมคายหญิง
อย่าท้วงติง ตำหนิ ติเลยหนา
แม้อาจเผลอ หัวงู อยู่บางครา
เอาเป็นว่า หยอกล้อ พอขำครัน

อยากใช้สิทธิ์ วาดหวาน ปานน้ำอ้อย
ให้เคลิ้มคล้อย คลอเคียง ระเบียงฝัน
ขอเพียงอย่า หวามไหว ไกลจำนรรจ์
อาจต้องบั่น ทอนถด ลดดีกรี

อยากใช้สิทธิ์ เสกศิลป์ จินต์เจื้อยแจ้ว
อาจออกแนว ไล้ลูบ จูบนวลศรี
หากเป็นเพียง อารมณ์ ห่มวจี
ขอเนื้อที่ เปลี่ยวชาย ร่ายบรรเลง

อยากใช้สิทธิ์ กลอนเพี้ยน เกรียนคลายกลุ้ม
ระบายรุ่ม หนักเร้า ให้เบาเหวง
อยากออกลิง ออกค่าง อย่างกันเอง
มิต้องเกรง โดนเขม่น ว่าเป็นกุ๊ย

อยากใช้สิทธิ์ แซวเพื่อน เหมือนพี่น้อง
โดยมิต้อง โดนถล่ม ถ่มถากถุย
หรือถูกหา หน้าหล่อ พ่อ"ชัปปุยส์"
แถมขี้คุย ขี้หยอด ออดอ้อนนัก

อยากใช้สิทธิ์ ทั้งหมด ตามบทนี้
ด้วยฤดี ชื่นกลอน สุนทรถัก
จึงเข้าฝึก วิชา ภาษารัก
ร่วมพิทักษ์ สืบสาน ตำนานกวี

Soul Searcher
Inspired to write 30/11/2016

ป.ล. อยากใช้สิทธิ์นี้ชวนเพื่อนสมาชิกมาวาง
กลอนกันให้เยอะๆนะครับ ไม่ต้องอายหรือกลัว
ว่าแต่งยังไม่คล่อง ใช้วิชาหน้าด้าน หน้ามึน
เข้าไว้  ไม่ต้องกังวล เพราะคนอื่นก็ไม่รู้
ว่าเราเป็นใคร...หุหุ
และการแต่งกลอนนั้นต้องเขียนบ่อยๆเท่านั้น
จึงจะชำนาญขึ้นได้ อยากต่อกลอนใครก็ต่อได้เลยครับ
เพราะเป็นการฝึกฝน และเพื่อนๆที่นี่ใจดีครับ
มีปัญหาอะไรสอบถามกันได้...ยกเว้นยืมตัง..แหะแหะ

 








ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, Wirin, สิริวตี, พันคม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
Wirin
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4930



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




| |
Re: .๐..ขอสิทธ์รัก..๐.
« ตอบ #13 เมื่อ: 02 ธันวาคม, 2559, 10:35:19 AM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ขอสิทธ์รัก..๐.
 

อยากทำไรทำเลยอย่าเฉยอยู่
เดี๋ยวตายหมู่ขึ้นมาพาหมองศรี
อันชายหญิงคู่กันมาพันปี
ชายหนึ่งมีหญิงมากจากนิยาย

วรรณคดีเหมือนกันใครกำหนด
วางบาทบทพระเอกเลขยันต์หมาย
ลงอาคมเป่ากระหม่อมกล่อมผู้ชาย
และสุดท้ายเสร็จสรรพลงยับเยิน

ขอใช้สิทธิ์ดูบ้างเพื่อสร้างฝัน
เรื่องเชิงชั้นไม่ดีมีขวยเขิน
อยากเตะต่อยสอยคางบ้างเหลือเกิน
จึงชวนเชิญชายชาญทหารมา

ซ้อมไว้ก่อนอ่อนแอกลัวแพ้พ่าย
ใครแอบเรียกคุณยายหมายเข่นฆ่า
จับทุบไข่ให้แตกแหลกกายา
ทิงเจอร์ทาราดรดเอ้าหมดกัน

วิริน
๒/๑๒/๕๙

โอ้ยเข้าป่าเข้าดงไปมะลำมะลอยแล้ว
ขอโทษเจ้าของกระทู้นะค่ะ
กลอนเขามาหวานๆ พาเพี้ยนไปหมด

 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, สิริวตี, รพีกาญจน์, พันคม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"wirin"ค่ะ~
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
********
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 4058



สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..

แฟน




| |
Re: .๐..ขอสิทธ์รัก..๐.
« ตอบ #14 เมื่อ: 02 ธันวาคม, 2559, 02:21:44 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: .๐..ขอสิทธ์รัก..๐.


อันชายหญิง คู่กัน พันปีแล้ว
คงมิแคล้ว เรื่องเดิม เติมใจฝัน
ชายหนึงมี หญิงหลาย เปลี่ยนรายวัน
ปัจจุบัน หมุนเวียน โลกเปลี่ยนไป

กลับเป็นหญิง หนึ่งกลาย มีชายมาก
เรื่องเคยยาก กลับง่าย คล้ายวูบไหว
อินเตอร์เนท เฟสบุ๊ค ปลุกทันใจ
ดุจฟืนไฟ ลุกลาม ห้ามมิทัน

นี่ก็ใช่ เวปกลอน อ้อนออดเอื้อน
จากเย้าเยื้อน ใยโยง โคลงกลอนฉันท์
แล้วหยอดนิด หยอดหน่อย คล้อยจำนรรจ์
ผูกสัมพันธ์ ปันรัก สลักกลอน

เฉกเช่นคำ หวามหวาน สำราญพจน์
มิกำหนด เลื่อนไหล ในอักษร
จักหลงศิลป์ จินต์ถลำ ด่ำสุนทร
ก่อนเข้านอน วอนเว้า มาเข้าเว็ป

Soul ไอ้อาการไม่หลับไม่นอน
มาแต่งกลอนตอนดึกดื่นนี่
มันคุ้นมากจริงๆ...หึหึ
(แต่งไว้เตือนสติ ตนเองครับ)

 






ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
Wirin, สิริวตี, รพีกาญจน์, พันคม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"โซ...เซอะเซอ"ครับ~
หน้า: [1] 2 3 4   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.427 วินาที กับ 301 คำสั่ง
กำลังโหลด...