ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๔๘- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ ผู้ร่วมงานเสร็จไปส่วนใหญ่กลับ ทั้งยอมรับด้วยใจไม่เหยียดหยาม เหลืออีกหมู่ผู้ที่มีจิตทราม บังเกิดความริษยาด้วยอาธรรม์
๏ สิบกษัตริย์นัดหมายไม่ยอมแพ้ พาลตั้งแง่พวกตนโดนเย้ยหยัน ถือเคยผ่านการศึกมาสารพัน เตรียมรวมกันพิฆาตสิบศาสตรา
๏ จึงประกาศสงครามตามจิตหมาย “เราทั้งหลายไม่ยอมแพ้แน่นักหนา จะให้ย้อนกลับหลังยังพารา อย่างง่ายดายอย่าหมายว่าจักมีวัน”
๏ การประยุทธ์พระบุตราหากลัวไม่ สั่งพลไกรต้อนรับศึกคับขัน พลไพรีมีมากกว่ากล้าประจัน เพียงหมายมั่นสอนศัตรูรู้สำนึก
๏ ครั้น”สีหนรคุปต์” ทราบข่าว ถึงเรื่องราวสิบกษัตริย์เตรียมทำศึก รู้ถึงภัยมหันต์อันล้ำลึก ที่หาญฮึกปะทะโลหะธนู
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๔๙- ธนุ เสนสิงห์
๏ สั่ง “อำมาตย์สุสังกัลป์” อันคำคม ใช้คารมโน้มจิตเลิกคิดสู้ แจ้งภาวะอันตรายให้เขารู้ แล้วเดินสู่ลานที่จะรณรงค์
๏ กล่าวแก่สิบกษัตริย์พลัน “ท่านทั้งหลาย อย่ามาดหมายชัยชนะดังประสงค์ อยากเตือนให้ได้รู้ความไปตามตรง แม้นว่า “องค์สมุทรโฆษ” โกรธโรมรัน
๏ ใช้โลหะธนูสู้ประยุทธ์ อำนาจดุจองค์พระรามรังสรรค์ พร้อมพิฆาตรากษสทศกรรณ ให้ชีวันมลายไปในพริบตา
๏ ศพทหารท่านจะเห็นเป็นก่ายกอง โลหิตนองท่วมหลังบาทอนาถหนา จงเชื่อความตามที่ฉันพรรณนา มอบวาจามายับยั้งด้วยหวังดี”
๏ สิบกษัตริย์ขัดคำยังย้ำว่า “อันพวกข้านั้นรักซึ่งศักดิ์ศรี ให้กลับหลังอย่างผู้พ่ายอย่าหมายมี ใช่คนขลาดหวาดชีวีสิ้นชีวัน”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๑- ธนุ เสนสิงห์
๏ กรุณาธิคุณมั่นสำคัญหมาย อยู่ในฝ่ายความดีมีกุศล คิดสรรค์สุขปัดทุกข์ภัยให้ผู้คน มองเหตุผลไม่ตำหนิปวงริปู ๏ หยิบโลหะธนูชูกำหนด ทำลายเพียงราชรถเสียทั้งหมู่ เมื่อแผลงไปในหนึ่งดอกธนู แยกเป็นสิบเข้าสู่หมู่ไพรี
๏ สิบราชรถนั้นพลันแหลกยับ สัตว์ล้มพับแล้วเพริดเตลิดหนี รวมทั้งกองพหลพลโยธี เสียงอึงมี่ด้วยตระหนกตกตื่นใจ
๏ ทรงยิงศรอีกดอกไปในเวหา กลายเป็นห่าแสนศรว่อนลงใส่ ปวงโยธาจ้าละหวั่นพรั่นฤทัย วิ่งหนีตายกันไปกระเจิดกระเจิง
๏ แล้วกลายเป็นเช่นกลฝนโปรยฉ่ำ พาผู้นำการณรงค์เพิ่มหลงเหลิง ธนูศรอ่อนพิษภัยใจระเริง คิดหาเชิงสู้ต่อขอท้าทาย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๒- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ แล้ว “สุสังกัลป์”มาอีกคราหนึ่ง เมื่อมาถึงกล่าวคำย้ำความหมาย “ณ บัดนี้ยังไม่มีการล้มตาย สิ่งทั้งหลายจากต้นเหตุความเมตตา
๏ “สมุทรโฆษ” นั้นหนายังปรานี มิได้มีจิตมารการเข่นฆ่า แม้นหมายจะกระทำการบีฑา แลชีวาทั้งผองต้องแหลกลาญ
๏ จงเลิกทัพกลับก่อนในตอนนี้ ด้วยหวังดีเชื่อเถิดหนาอย่าหักหาญ อีกข้อหนึ่งพึงเข้าใจให้ซึ้งการณ์ ที่พวกท่านเปิดศึกใหญ่ในแว่นแคว้น
๏ ผู้ปกครองอาณาหายอมไม่ ยิ่งชิดใกล้ชายเวียงวังน่าชังแสน อีกทั้งคู่ต่อสู้กันนั้นเหมือนแม้น เป็นตัวแทนพระบุตรเขยอย่าเลยเลือน
๏ แม้น “สีหนรคุปต์” ทรงพิโรธ ความเหี้ยมโหดยิ่งใหญ่มิใครเหมือน จบเพียงนี้ที่จะห้ามปรามตักเตือน แม้นจะเคลื่อนทัพนั้นต้องทันที
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๓- ธนุ เสนสิงห์
๏ คำของ“สุสังกัลป์”นั้นชัดแจ้ง สิ้นกำแหงสิบกษัตริย์คิดบัดสี ยากต่อรองทั้งสองกรณีย์ แค้นเหลือที่จำระงับยกทับจร
๏ ในครานั้น “พระนางพินทุมดี” ทราบข่าวว่าสวามีพระทรงศร นำพลไกรมาอยู่ใกล้พระนคร ผ่านขั้นตอนคัดกรองลองฤทธา
๏ ความอ้างว้างกลางฤดีเคยมีอยู่ รักชื่นชูชีวันให้หรรษา คงสมหวังดังคำวอนขอเทวา ภัสดามาร่วมเรียงเคียงกมล
๏ เมื่อถึงวันอันนัดหมายให้เลือกคู่ องค์ราชัยคงไม่รู้ความเบื้องต้น จะถูกใจไหมบุตรีมีกังวล เพียงหนึ่งคนที่ผ่านการสรรมา
๏ “สมุทรโฆษ” เข้าปะรำทำพิธี ราชบุตรีเมื่อมาใกล้ได้เห็นหน้า สองพระองค์ทรงสบพระนัยนา เสน่หาเอ่อล้นท้นฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๔- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ ตะลึงคิดพินิจกายกันและกัน นึกคืนนั้นเคยชมชิดพิสมัย “พินทุมดี” ถวายพระมาลัย โน้มกายไปกราบลงที่บาทา
๏ “สมุทรโฆษ”ประคองนุชนาฏ สายสวาทผูกพันกันแน่นหนา วาระนั้นปวงพระญาติกา พระราชา ราชินีแสนดีใจ
๏ กล่าวชื่นชมยินดีเป็นที่สุด “พินทุมดี”เลือก“สมุทรโฆษ”เคียงใกล้ แสดงความตกลงปลงฤทัย สมดั่งนัยแห่งพระสยมพร
๏ คิดเหมือนกันอันมาสู่เป็นคู่สอง คงเคยครองรักมั่นกันมาก่อน เป็นบุพเพผูกพันนิรันดร เมืองอมรขีดเส้นเกณฑ์ชีวัน
๏ ฐานันดรศักดิ์ชั้นนั้นเสมอ สองเลิศเลอศุภลักษณ์ประจักษ์มั่น เกียรติเดชาพาราเลิศเทียมทัน ทั้งเขตขัณฑ์การปกครองสองบุรินทร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๕- ธนุ เสนสิงห์
๏ เมื่อ “สีหนรคุปต์” นั้นกำหนด วันอภิเษกสมรสดั่งถวิล แต่งประดับประดาทั่วธานินทร์ แลโศภินเจิดจ้าทั้งธานี
๏ เชิญราชกษัตริย์ท้าวเจ้าแว่นแคว้น ทุกดินแดนที่สัมพันธ์มั่นศักดิ์ศรี มาร่วมงานอภิเษกสมรสพิธี ด้วยปีติยินดีโดยทั่วกัน
๏ แลมีบรรหารให้มหาอำมาตย์ ถือพระราชสารพิเศษสรรค์ ทั้งเครื่องบรรณาการสานสัมพันธ์ ไปสู่ “พรหมนคร” นั้นโดยทันใด
๏ ทูลราชา ราชินีทรงรับรู้ แลทูลเชิญมาสู่พิธีใหญ่ พร้อมทั้งเล่าเค้าความตามเป็นไป ทั้งสองพระองค์ให้ซึ้งใจความ
๏ ตั้งแต่คราวป่าวร้องประลองฤทธิ์ ทั่วทุกทิศอภิชนมาล้นหลาม ยกโลหะธนูทุกผู้ทุกนาม มิได้ตามที่หวังตั้งจิตไว้
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๖- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ “สมุทรโฆษ” ลองฤทธาในครานั้น เหมือนสามัญธนูดูรู้ได้ ยกครั้งเดียวเชี่ยวชาญเรื่องการใช้ เชื่อแน่ไซร้คู่บุญญาบารมี
๏ เมื่อได้เข้าเลือกคู่ดูเหมือนว่า สองชีวาเคยผูกพันบรรพ์วิถี มิลังเลต่อกันรับทันที เหตุฉะนี้จึงสุขสมสยมพร”
๏ ครานั้น “องค์พินทุทัต” มิขัดข้อง การปรองดองพันธะอนุสรณ์ สมานรัฐประชาสองนาคร คือบวรแห่งวัตรพิพัฒน์คุณ
๏ พระบุตรามาสมหมายนางในฝัน ได้ครองกันปานเทวามาเกื้อหนุน อภิเษกสมรสอยู่เป็นคู่บุญ สืบสกุลขัตติยะกษัตรา
๏ ด้วยยินดีมีหมายกำหนดการ ไปร่วมงานปรองดองสองวงศา เตรียมจัดกองพหลพลโยธา เครื่องบรรณาการใหญ่สานไมตรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๗- ธนุ เสนสิงห์
๏ เสด็จไปในวาระศุภฤกษ์ พระเกียรติเกริกกุศลมงคลดิถี เมื่อถึงยัง “รมยธานี” จึงองค์ “สีหนรคุปต์” มาคอยรับ
๏ ทรงโอภาปราศรัยใฝ่สมาน เมื่อปฏิสันถารกันเสร็จสรรพ เชิญเสด็จปราสาทศรีที่ประทับ งามระยับศิลป์สรรค์พรรณราย
๏ เตรียมพระกระยาหารชั้นเลิศสรร พระสุธารสน้ำจัณฑ์อันหลากหลาย รับแขกวังด้วยสังคีตรำกรีดกราย กรสอดส่ายร่ายลีลากินรี
๏ ร่วมสังสรรค์สนทนาปราศรัย ราชาชัยได้ปรองดองสองสุขี รวมทั้งสองพระมารดาแสนยินดี มิตรไมตรีเหนียวแน่นมิแคลนคลอน
๏ เมื่อถึงวันอภิเษกสมรส ก็ปรากฏแขกเหรื่อเหลือสลอน ราชบุตร องค์ราชา นรากร ภราดร ญาติกามาพร้อมกัน
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๘- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ ราชพิธีมีบูชาเทพเจ้า บวงสรวงเหล่าเทวะทั้งสวรรค์ พิธีพราหมณ์ตามจำนงองค์ราชัน เหมือนดังบรรพกาลเนิ่นนานมา ๏ เสร็จพิธีมีวาระเฉลิมฉลอง ไท้ทั้งผองญาติพงศ์สองวงศา “สมุทรโฆษ” “พินทุมดี” เทิดวันทา พระบิดรมารดาสองธานี
๏ รักราบรื่นชื่นฤดีมีสุขแสน ดุจครองแมนแดนฟ้าสง่าศรี เสวยสุขทุกทิวาและราตรี ก่อนถึงวันอันควรที่คืนบุรินทร์
๏ ขึ้นกราบทูลพระบิดา “พินทุทัต” มีภาระต้องปฏิบัติที่ในถิ่น ก่อนจะกลับคืนหลังยังธานินทร์ การทั้งสิ้นมากมายหลายขั้นตอน
๏ บำบวงเทวะสถานบนบานไว้ ทั้งเทพไทในวนาเมื่อคราก่อน หลังนำ “พินทุมดี” เดินดงดอน แล้วจักย้อนคืน “พรหมนครา”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๕๙- ธนุ เสนสิงห์
๏ “พินทุทัต” อนุญาตดังมาดหมาย พร้อมถวายพระพรชัยให้หรรษา แล้วนิวัตคืนยังวังราชา เมื่อสัมฤทธิ์พระกิจจาแห่งราชัย
๏ “สมุทรโฆษ” “พินทุมดี” มีภาระ แต่ยังจะมิแรมร้างไปทางไหน ขอเคียงคู่ชู้ชมสมฤทัย เพลินอยู่ในสวาทหวานหลายวารวัน ๏ ถึงเวลาใช้อามิสติดค้างไว้ ของเซ่นไหว้ครบดังคิดมิผิดผัน ทุกเทวะสถานในการณ์นั้น นางกำนัลหลายคนช่วยบนบาน
๏ ราชทรัพย์นับให้ไปจัดหา แก้บนก่อนเคยวอนว่าสิ้นทุกศาล เป็นการมอบตอบแทนคุณบุญบันดาล มิเป็นการเมินหมางให้ค้างคา
๏ แล้ว “สมุทรโฆษ” “พินทุมดี” จากธานีออกไปในแดนป่า เพื่อบำบวงปวงรุกขเทวดา ผู้นำพาพบคู่ชมสมฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๐- สมุทรโฆษคำกลอน ๏ เหล่าพหลล้นหลามตามเสด็จ ความสำเร็จแก้บนบานเป็นงานใหญ่ พร้อมทั้งพราหมณ์ราชครูผู้เข้าใจ การพิธีมีฉันใดไม่ผันแปร
๏ สู่แดนดงตรงไปมิได้ช้า ถึงชัฏลึกที่พฤกษาป่าเก่าแก่ ไม้ใหญ่สูงเสียดฟ้าตาชะแง้ ลำเนาแลเข้าตำรามหาพราหมณ์
๏ จึงตั้งศาลบวงสรวงสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ผู้ทรงฤทธิ์ในพิภพจบโลกสาม ท่านพิทักษ์รักษ์ประเทศป้องเขตคาม แลอ้างความเป็นมาคราก่อนนั้น
๏ เทพองค์ไหนได้อุ้มสมกษัตริย์สอง เป็นคู่ครองดังใจที่ใฝ่ฝัน ซึ้งฤดีที่ช่วยดลผลอนันต์ อภิวันท์มารับมอบตอบแทนคุณ
๏ พิธีกรรมนำเน้นการเซ่นไหว้ แทนคุณไท้หมายเชิดชูผู้เกื้อหนุน มิมองข้ามความเมตตารักการุณย์ เอกอดุลย์จริยานรากร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๑- ธนุ เสนสิงห์
๏ เมื่อสำเร็จเสร็จสรรพคืนกลับหลัง สู่เวียงวังอีกครั้งหนึ่งกึ่งพักผ่อน ค่อยชมนกชมไม้ไม่รีบร้อน มุ่งหมายจรสู่วนอุทยาน ๏ เพลานี้ที่ริมหิมวันต์ พงพีอันกว้างใหญ่แสนไพศาล พิทยาธร “รณาภิมุข” สราญ กับภรรยายุพาพาลรักบูชา
๏ เที่ยวชมห้วงละหารธารสวรรค์ ขุนคีรี สีสันพันธุ์บุปผา ทวิบาท จตุบาทดาษดา เพลินพนาแนวเนินอยู่เนานาน
๏ จวนสายัณห์ผันจรร่อนเวหา อุ้มภรรยาคู่ชื่นคืนถิ่นฐาน เผอิญพบพิทยาธรผู้ใจมาร นาม “รณบุตร” ผ่านสวนทางมา
๏ “รณบุตร”สะดุจตาภรรยาสาว เด่นเช่นดาววาววามงามนักหนา เกิดกระสันสวาทบาดอุรา อยากจะคว้ามาชมสมฤทัย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๒- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ เมื่อตัณหาขึ้นหน้าหมายได้เมียเขา หลงลืมตัวมัวเมากามวิสัย ใจมืดมนต้นเหตุแห่งเภทภัย คือเหตุใหญ่ฆ่ากันตายในโลกนี้
๏ อีกการหลงทะนงตนเหนือคนอื่น ย่ำเขาตรมขมขื่นสิ้นศักดิ์ศรี เมื่ออีกฝ่ายเขาไม่ยอมพร้อมราวี เกิดคดีชิงชัยในโลกา
๏ อีกโลภมากอยากได้ลาภหลายล้น ถึงจี้ปล้นล้างผลาญการเข่นฆ่า อยากมีคุณบุญหนักศักดินา แย่งยศถาเขตขัณฑ์กันทั่วไป
๏ ครานั้น “รณบุตร” ร้ายหมายอมิตร ทักแบบท้าว่า “ถือสิทธิ์เหนือไฉน เมื่อพบข้ามิคารวะจะหลีกไกล คงยังไม่รู้ฤทธาข้าดีพอ
๏ แม้นรักตัวกลัวตายอย่าได้ช้า มอบภรรยามาให้ค่อยไปต่อ มิเช่นนั้นพระขรรค์ข้าไม่รารอ จักเชือดคอเจ้าให้ขาดถึงฆาตพลัน”
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|