Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ >> สมุทรโฆษคำกลอน
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: สมุทรโฆษคำกลอน  (อ่าน 83719 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 2 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #60 เมื่อ: 18 กันยายน, 2561, 01:32:28 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
  
-๖๓-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ “รณาภิมุข” นั้นพลันตอบโต้
         “หยุดยโสเอ่ยย้ำคำเย้ยหยัน
          เราก็ศิษย์มีครูอยู่เหมือนกัน
          ชาติพันธุ์มิได้ต่างห่างวรรณวงศ์

          ๏ มาขอเมียเสียง่ายง่ายกระไรหนา
          หรือหลงผิดเลิศฤทธาพาเหลิงหลง
          จึงเหยียบย่ำหยามหยันกันโดยตรง
          แม้นตกลงปลงให้เหมือนไร้ใจ”
        
            ๏ “รณบุตร” หมายฉุดคร่ามิช้าอยู่
          เริ่มต่อสู้บนเวหาถลาใส่
          ตีฉะฉาดฟาดฟันตะบันไป
         “รณาภิมุข” ก็มิใช่ไร้ฝีมือ
    
           ๏ รับกันไว้ได้ถ้วนกระบวนท่า
          แต่ถอยล่าหาหลักรักษาชื่อ
          ป้องที่รักจากคนพาลใจมารยื้อ
          หนักอกคืออุ้มนางพลางณรงค์

          ๏ เสียกำลังทั้งมิคล่องการป้องปัด
          จักฟาดฟัดมิได้ดังตั้งประสงค์
          ต้องถอยล่าหาหลักพะวักพะวง
         “รณบุตร” เห็นจุดปลงคู่ประยุทธ์



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์, รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~

ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #61 เมื่อ: 18 กันยายน, 2561, 01:33:29 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๖๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ ทะลวงฟันมั่นหมายกายคู่รบ
        ก็เลี่ยงหลบปัดป้องไปไม่สิ้นสุด
        กลับหมายฟันภรรยาบ้าประทุษ
        เยี่ยงมนุษย์ทั่วไปทำไม่ลง

          ๏ เลี่ยงก็ขัดปัดมิได้เอากายป้อง
        ด้วยรักน้องนิ่มนุชสุดใหลหลง
        จึงถูกคมพระขรรค์ฟันโดยตรง
        ร่วงสู่พงพับกับพื้นพสุธา

          ๏ แล้วศัตรูผู้เป็นปรปักษ์
    ชิงคนรักจากไกลไปซึ่งหน้า
        ทั้งเจ็บแค้นแสนทุกขเวทนา
        วอนวาจาพึ่งแม่พระธรณี

         ๏ พระบุตราครานั้นจรัลผ่าน
        เห็นเหตุการณ์ทั้งผองเศร้าหมองศรี
        ช่างใจดำทำได้ร้ายสิ้นดี
        คิดแย่งชู้คู่ชีวีบั่นชีวา

        ๏ เข้าโอบอุ้มอภิบาลดวงมานห่วง
        สั่งหมอหลวงทั้งหลายให้รักษา
        เลิศโอสถกำหนดหมายใช้เยียวยา
        หลายเพลาจึงฟื้นคืนพลัง



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์, รอยทรายบนสายลม
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #62 เมื่อ: 19 กันยายน, 2561, 05:03:16 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๕-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ โอ้ “รณาภิมุข” ทุกข์เหลือที่
          ดวงฤดีพังภินท์สิ้นความหวัง
          ดุจกลางทรวงไร้ดวงแดแม้ชีพยัง
          แล้วจึงตั้งสติพินิจการณ์

          ๏ “ความสุขสันต์พลันสลายกลายเป็นเศร้า
          เพราะใจเรามีความหลงติดสงสาร
          หมายเชิดชูบูชาเมียที่จิตมาร
          พบคนพาลชิงสวาทเห็นธาตุแท้

          ๏ รักนารีผู้มีใจไม่คงมั่น
          ความผูกพันอันใดไม่แยแส
          ชอบเปลี่ยนชายมิหมายอยู่กับผู้แพ้
          เจ็บดวงแดกว่าแผลกายหลายเท่านัก”

          ๏ วอนวาทะ “สมุทรโฆษ โปรดฟังฉัน
          รับพระขรรค์อันมอบให้ใจแน่นหนัก
          แทนบุญคุณยิ่งใหญ่ด้วยใจภักดิ์
          และความรักท่านที่งามด้วยน้ำใจ

           ๏ เมื่อท่านถือพระขรรค์เทพสรรค์นี้
          เกิดฤทธีเดชาเหินฟ้าได้
          แม้นหมายจรนครเขตประเทศใด
          เหาะเหินไปตามถวิลจินตนา”



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, รอยทรายบนสายลม, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #63 เมื่อ: 19 กันยายน, 2561, 05:04:21 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน



-๖๖-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ พระบุตราว่าแย้งสำแดงนั้น
       “ของสำคัญมอบให้ไฉนหนา
        ควรเป็นของครองอยู่คู่กายา
        ในภายหน้าท่านต้องไว้ป้องตน”

        ๏ “รณาภิมุข” ว่า “ครานี้ไซร้
        ซึ้งฤทัยเมื่อตรองความตามเหตุผล
        รักและชังตั้งใจตัดขาดกมล
        หมายนักพรตกำหนดพ้นกามโลกีย์”

        ๏ “สมุทรโฆษ” ยังมีข้อต่อคำถาม
        “ฉงนความผันแปรไปไวเหลือที่
        ผู้มากในเสน่หายอดนารี
        ถึงยอมพลีร่างให้ป้องกายนาง”

        ๏ “เรารักหลงอนงค์นาฏอย่างมาดมั่น
        ก็รับกันโดยดีมิอางขนาง
        เมื่อตรองการณ์เป็นกรรมที่อำพราง
        ตาสว่างสิ้นเขลาเลิกเมาใจ

        ๏ อันฝีมือชื่อชั้นการต่อสู้
        มันเป็นผู้เหนือกว่าก็หาไม่
        มีภรรยาเป็นภาระช่างกระไร
        ความว่องไวปัดป้องมิคล่องตัว



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, รอยทรายบนสายลม, โซ...เซอะเซอ, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #64 เมื่อ: 19 กันยายน, 2561, 05:05:42 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน



-๖๗-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ซึ้งอุรานารีนี้ไฉน
          ดูท่าทีดีใจได้เปลี่ยนผัว
          แลดวงเนตรสังเกตได้ใฝ่พันพัว
          โดนชิงตัวไร้วาจากล่าวอาลัย

          ๏ เห็นผัวเอียงเพลี่ยงพล้ำจนย่ำแย่
          เมียถีบแพทิ้งเพื่อพึ่งเรือใหม่
          เสียแรงเราเอากายป้องต้องช้ำใน
          เหมือนเปลไกวใจแม่มิแน่นอน

          ๏ คล้ายฝูงสัตว์จตุบาทชาติกักขฬะ
          ผู้ชนะเป็นใหญ่แห่งไกรสร
          เมื่อแพ้พ่ายตัวเมียไม่อนาทร
          ร่วมสมจรคู่ใหม่ผู้ชัยชาญ”

          ๏ ครั้นจบคำร่ำลามิช้าอยู่
          จรลีปรี่สู่หมู่ไพรสาณฑ์
         “สมุทรโฆษ” มิอาจขัดหรือทัดทาน
          มอบดวงมานซึ้งจาคะเอกอดุลย์

           ๏ น้อมคำนับรับพระขรรค์อันสูงค่า
          คำนึงคิดกฤษฎามาเกื้อหนุน
          วาสนาชะตาดลด้วยผลบุญ
          รำลึกคุณแล้วลองเหินเดินเมฆี




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #65 เมื่อ: 21 กันยายน, 2561, 04:09:09 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๖๘-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ เหาะเวหนวนรอบขอบพนัส
        วกฉวัดเฉวียนไปกลางไพรศรี
        แล้วกลับคืนยังพื้นธรณี
        แสนยินดีมีพระขรรค์เทพสรรค์มา

         ๏ อยากประพาสหิมพานต์อันลึกล้ำ
        เคยยินคำบอกเล่าเพียงเขาว่า
        อัศจรรย์พันลึกพฤกษ์พนา
        นานนักหนาหมายเที่ยวเล่นเย็นฤทัย

        ๏ ยิ่งได้ชวนนวลฉวีท่องชี้ชม
        คงสุขสมยิ่งนักจักหาไหน
        ขอเหินฟ้าถลาล่องท่องแดนไกล
        ชมพงไพรคล้ายวิหกผกนภา

        ๏ จึงชวน “พินทุมดี” ศรีสมร
        คเนจรชมมฤคพรรณพฤกษา
        เลิศวิไลในวนหิมวา
        พอปรีดาค่อยนิวัตรัฐบุรินทร์

        ๏ สองตกลงปลงจิตลิขิตสาส์น
        ทูลภูบาลลาเดินทางดั่งถวิล
        เล่าความหลังตั้งแต่มาจากธานินทร์
        หมดทั้งสิ้นจนพบพิทยาธร



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #66 เมื่อ: 21 กันยายน, 2561, 04:10:07 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน


-๖๙-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ ให้พระขรรค์อันเรืองเดชวิเศษนัก
         สามารถจักเหินเมฆาถลาร่อน
         ขอทูลลาครานี้ไปไกลนคร
         ชมดงดอนค่อยคืนหลังยังเวียงชัย

         ๏ แล้วให้หมู่เสนามหาอำมาตย์
         ยุรยาตรคืนวังลำพังได้
         ทรงรับสั่ง “เราทั้งสองจักท่องไพร”
         ปวงข้าไททูลถวายพระพรลา

         ๏  สักพักหนึ่งดึงชายาเข้ามากอด
         พระกรสอดบั้นพระองค์มั่นคงท่า
         แล้วชูพระขรรค์ชัยโดยไม่ช้า
         ลอยล่องฟ้าลิ่วไปได้ดั่งจินต์

         ๏ ข้ามขุนเขาโขดเขินเนินพนัส
         ชมรกชัฏ โอฆะ กระแสสินธุ์
         ดั่งใจปองว่องไวไกลธานินทร์
         ลงสู่ดินหิมพานต์โอฬารอรัญ

         ๏ ชมบรรดาวารีที่สวยใส
         มองลงไปถึงท้องน้ำงามเฉิดฉัน
         น่าชื่นชูหมู่มัจฉานานาพันธุ์
         เห็นเวียนว่ายเล่นไล่กันล้วนเพลินแล




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #67 เมื่อ: 21 กันยายน, 2561, 04:11:33 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

 -๗๐-
สมุทรโฆษคำกลอน



          ๏ ปลาเกต กา กริม กราย แน่นสายน้ำ
        ปลากดดำกบดานธารกระแส
        ปลากระทิง หลด ไหล ไน ตุ๊กแก
        ปลากระแห กระโห้ ชะโด  พลวง

        ๏ ปลาฉลาด เทพา ปลาเนื้ออ่อน
        ถูกปลาช่อนไล่ล่าน่าเป็นห่วง
        ปลาเค้า ดุก มัดมีสีด่างดวง
        บึกใหญ่กว่าปลาทั้งปวงไร้เทียมทัน

        ๏ ปลาซิว สร้อยลอยผิวน้ำตามเป็นฝูง
        หางนกยูง  ตะเพียนมากหลากสีสัน
        กริม ตะกรับ เทโพ  ม้า ปลานวลจันทร์
        อีกส่วนนั้นหลบเร้นในหมู่ใบบัง  

           ๏ แนวพนาป่าอุดมสมบูรณ์สัตว์
        สารพัด  แรด ช้าง กวาง ละมั่ง
        สิงโต เสือกินเนื้อผู้อยู่ลำพัง
        สัตว์ใหญ่น้อยคอยระวังเตลิดไกล

        ๏ พวกกินพืชสัมพันธ์กันใกล้ชิด
        มองเป็นมิตรรวมหมู่อยู่กันได้
        เหล่าลิง ค่าง บ่างโหนบนต้นไม้
        กระรอก กระแต ไก่ นางอาย ชะนี



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #68 เมื่อ: 22 กันยายน, 2561, 03:47:26 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 -๗๑-
ธนุ เสนสิงห์
 

          ๏ มากหลายหมู่อยู่อย่างมิตรไม่คิดล่า
         เก้ง ควายป่า ตัวนิ่มขด ชะมด หมี
         ตุ่น  กระต่าย  กระซู่ เม่น กูปรี
         อีกมากที่เร้นกายอยู่ไกลเกิน

          ๏ ยามชมไพรไปเจอทางก้าวย่างยาก  
         เมื่อลำบากย่างกรายใช้เหาะเหิน
         ลอยเวหาฟ้ากว้างพลางมองเพลิน
         ข้ามเขาเขินเนินผาสารพัน

           ๏ แล้วแวะลงสรงสระอโนดาต
         แลพิลาสละลานธารสวรรค์
         มากจงกล อุบล ปัทม์ สัตตบรรณ
         อัศจรรย์ปานดลด้วยมนตรา  

         ๏ น้ำสะอาดเย็นใสหนึ่งในโลก
         ท้องธารโบกดินและหินปิ่นคุณค่า
         โอบล้อมอยู่ด้วยยอดภูมหึมา
         อัศจรรย์ทั้งนั้นห้านคินทร

         ๏ แสงรพีคีรีป้องยากส่องถึง
         นับเป็นหนึ่งร่มรื่นนักน่าพักผ่อน
         นาคราช เทวินทร์ ยักษ์ กินนร
         ใช้สาครนี้ลงสรงกายา

 



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #69 เมื่อ: 22 กันยายน, 2561, 03:50:15 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๗๒-
สมุทรโฆษคำกลอน



            ๏ จากนั้นสู่หมู่พนมชมทิวทัศน์
         แม้เหล่าสัตว์ร่วมพันธุ์พงศ์สืบวงศา
         แต่ต่างถิ่นดินแดนธรรมดา
         ดูแปลกตาสีสันแปรผันไป

          ๏ บริบทงดงามตามธรรมชาติ
         แปลกประหลาดแต่จริงและยิ่งใหญ่
         ทั้งพรรณพฤกษ์ มฤคา ผกาไพร
         ดูทางใดจำเริญเพลินอุรา

         ๏ บนเนินไพรมองได้เด่นเห็นถนัด
         สารพัด ม้า ช้างกลางทุ่งหญ้า
         เหล่าเก้ง กวาง ต่างพันธุ์กันนานา
         พวกที่เริงเหลิงนภาทิชากร

         ๏ กลางธารไหลเวียนว่ายอยู่หมู่มัศยา
         โพระดก กระโงก กาถลาร่อน
         ดูหลายหลากปักษาพนาดร
         กลุ่มจับปลากลางสาครบินว่อนวน

         ๏ พวกกินผลพฤกษาผลาหาร
         เกาะกิ่งก้านโยกย้ายอยู่ปลายต้น
         เป็นพ่อแม่คอยแลลูกวัยซุกซน
         คละปะปนพวกลิงค่างบ่างชะนี




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #70 เมื่อ: 22 กันยายน, 2561, 03:51:42 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๓-
ธนุ เสนสิงห์



           ๏ แล้วดำเนินเหินลมชมบรรพต
          เหนือกำหนดยอดรายกลางไพรศรี
          บางปลายล่วงทะลวงไปในเมฆี
          เนินคีรีมีปราสาทราชวัง

          ๏ รู้ไกรลาสนิวาสสถานอันกว้างใหญ่
          การลงไปจนถึงมิพึงหวัง
          วงศ์กินนรแต่ก่อนผู้อยู่ลำพัง
          ถือศักดิ์ดังเทวัญอันเรืองไกร

           ๏ มิมีความสัมพันธ์กันมาก่อน
          เข้านครเหมือนล่วงล้ำหางามไม่
          พึงควรเพียงแต่ชมพนมไพร
          จึงตัดใจวนกลับหลังยังหิมวา

          ๏  ข้ามนิเวศเขตห้าร้อยสิงขร
          ศิขรินนคินทรซ้อนแนวผา
          ภูพนมบรรพตงดงามตา
          พบคูหาวิจิตรพิสดาร

          ๏ ผนัง เพดานมีมณีดาด
          พื้นปูลาดด้วยจินดามหาศาล
          ดั่งทิพย์ท้องพระโรงโล่งโอฬาร
          กลางสถานมีพระแท่นไพฑูรย์ทอง



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
โซ...เซอะเซอ, รพีกาญจน์, Wirin
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #71 เมื่อ: 24 กันยายน, 2561, 04:19:38 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน

-๗๔-
สมุทรโฆษคำกลอน



         ๏ สองพระองค์ลงพักอิริยาบถ
        ลมโชยชื่นรื่นรสหมดจิตหมอง
        ทอดบรรทมชมเพดานอันรังรอง
        แล้วทั้งสองม่อยหลับประทับทรวง

        ๏ ครานั้นมีพิทยาธรตนหนึ่ง
        ผ่านมาถึงสถานอันใหญ่หลวง
        ไม่นานนักเคยพักนั่งเหมือนรังรวง  
        อยากจะทวงพระแท่นที่บรรทม

        ๏ แลเห็นพระขรรค์วางข้างหัตถา
        ริษยาจะยื้อแย่งแกล้งให้สม
        ลักพระขรรค์พลันเหินฟ้าด้วยอาคม
        ลอยตามลมจากไปมิใยดี

        ๏ “สมุทรโฆษ” ตื่นองค์ทรงไขว่คว้า
        ข้างกายาพระขรรค์ไม่อยู่ในที่
        ต้องลุกขึ้นตื่นฤทัยไห้โศกี
        เหมือนชีวีถูกทิ้งขว้างกลางพงไพร

        ๏ แม้นหวนคืนผืนดงเหมือนหลงป่า
        จักฟันฝ่าก้าวย่างหนทางไหน
        ต้องลำบากตรากตรำย่ำย่างไป
        พนาลีมากมีภัยสารพัด



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, Wirin, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #72 เมื่อ: 24 กันยายน, 2561, 04:20:51 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๗๕-
ธนุ เสนสิงห์



            ๏ เรามาไกลเกินกว่าหาทางกลับ
          แสนลึกลับครรลองล้วนข้องขัด
          สุดจะคิดจำทิศาพานิวัต
          ก้าวเลาะลัดดั้นด้นไปอย่างไรกัน

          ๏ ในครานั้น “นางพินทุมดี”
          เห็นพักตร์พระสวามีสีเปลี่ยนผัน
          จึงสอบถามความเป็นมาปัญหานั้น
          พระเผยคำจำนรรจ์ที่พรั่นพรึง

          ๏ “เราเหินฟ้ามาไกลไม่ยั้งคิด
          ลืมพินิจระยะทางย่างกลับถึง
          มีพระขรรค์พานเริงใจไม่คำนึง
          ฉะนั้นจึงเหาะมาห่างธานินทร์

          ๏ ยามสนิทนิทราในครานี้
          อาจเจ้าที่เขาป่ารักษาถิ่น
          เกิดขัดเคืองเรื่องใดไม่ซึ้งจินต์
          แท้มิหมิ่นทั้งปวงที่ล่วงล้ำ

         ๏ ชิงพระขรรค์อันเหมือนว่าพาหนะ
          เกิดภาวะชีวีที่ตกต่ำ
          ให้ระหกระเหินเดินตามกรรม
          คงชอกช้ำเกินจักรักษ์ชีวิน



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, Wirin, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #73 เมื่อ: 24 กันยายน, 2561, 04:22:48 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน
 
-๗๖-
สมุทรโฆษคำกลอน


           ๏ พี่แสนห่วง “พินทุมดี” แท้
        ชวนขวัญแม่มาจมปลักศักดิ์สูญสิ้น
        แต่เกิดมามิน่าเคยเลยเดินดิน
        สุดถวิลให้ย่ำย่างกลางพนา

        ๏ โอ้อกพี่นี้ก่อนไรไม่เคยคิด
        จะมีฤทธิ์เหาะเหินเดินเวหา
        ครั้นเมื่อได้พระขรรค์ปานเทวา
        ก็หลงฟ้าปลาบปลื้มลืมธรณี

        ๏ เมื่อหวนคิดชีวิตคนบนโลกหล้า
        เหลิงยศถาบุญหนักสูงศักดิ์ศรี
        แต่มิพ้นคนเดินดินอยู่ดี
        เมื่อถึงทีตกต่ำจึงช้ำใจ

         ๏ อันอำนาจวาสนาหาคงมั่น
        เหมือนหลับฝันตื่นมีชีวิตใหม่
        เอกสิทธิ์ฤทธามาหายไป
        กลับอยู่ในภาวะธรรมดา”

        ๏ “พินทุมดี” ยินความตามที่ห่วง
        สะท้านทรวงแต่ทำใจให้แกร่งกล้า
        แล้วเฉลยเอ่ยตอบปลอบวาจา
       “ขอพี่อย่าห่วงใยให้กังวล




ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, Wirin, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 1283



อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
« ตอบ #74 เมื่อ: 26 กันยายน, 2561, 12:17:02 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: สมุทรโฆษคำกลอน


-๗๗-
ธนุ เสนสิงห์



             ๏ อยู่แดนดินถิ่นใดไม่สำคัญ
          สถานะจะแปรผันมิมีผล
          ขอเพียงมีพี่กับน้องครองกมล
          จะทุกข์ทนเพียงไหนไม่นำพา”

           ๏  “สมุทรโฆษ” ยินคำพร่ำพจี
         ชื่นฤดีขึ้นบ้างพลางเอ่ยว่า
         “คงเป็นวิบากกรรมเคยทำมา
          ตกชะตาคราหลงกลางพงไพร
 
          ๏ พี่นำพามาทุกข์ยากลำบากแล้ว
         แม้นน้องแก้วพร้อมอยู่คู่ชิดใกล้
          เราร่วมกันสรรค์สร้างพลังใจ
          ฝ่าฟันไปจนได้ถึงซึ่งปลายทาง”
 
          ๏ สองพระองค์ทรงรำพึงคะนึงคิด
          จึงปลงจิตออกสาวเท้าย่ำย่าง
          แม้ความหวังยังเหมือนจะเลือนราง
          ชีพมิดับอับปางยังจำจร

          ๏ ความเหนื่อยยากลำบากกายมากมายนัก
          ค่ำลงพักกลางเถื่อนแถวแนวสิงขร
          เช้าขึ้นมาเดินหน้าไปในดงดอน
          แม้ร้าวรอนคงมุ่งมั่นหลายวันวาร



ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า: 1 ... 3 4 [5] 6 7   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.418 วินาที กับ 178 คำสั่ง
กำลังโหลด...