ดั่งต้องมนต์คนธรรพ์ผู้ขานขับ
กวีรับเพลงคู่ดูแคล่วคล่อง
หลงมนต์คำสิ้นท่าเพราะคะนอง
เสพร้อยกรองเริงร่าเพราะท้าทาย
หลงระเริงติดตรึงถึงอดีต
ตามสังคีตคนธรรพ์กรีดลั่นสาย
นิมิตเห็นรักแท้แค่ผ่านกลาย
และละลายไร้เงาช่างเศร้าใจ
ทุกสังคีตของท่านนั้นบาดลึก
เร้ารู้สึกถึงมานจนสั่นไหว
เปิดผนึกอารมณ์ที่ข่มไว้
ปล่อยเสรีโผไปเก็บไม่ทัน
พิณนรี
เพราะเสกมนต์พ่นเป่าเคล้าอักษร
เป็นบทกลอนชวนให้หัวใจฝัน
หากหลงแล้วหรือจะรอดพลอดรำพัน
มาช่วยกลั่นกรองกลประพนธ์ความ
ว่ารักเอย หอมหวน อบอวลนัก
ครั้นประจักษ์ซึมซาบด้วยวาบหวาม
เหมือนทั้งโลกสวยสดช่างงดงาม
ผูกรูปนามแนบในหัวใจครอง
พรมสังคีตประณีตคำส่งนำสื่อ
เพื่อจะยื้อใจนุชสุดสนอง
เอาสายใยใจนำค้ำประคอง
หมายให้น้องคิดถึงเพียงหนึ่งเดียว
นะจ๊ะ พี่มนต์
แม้สังคีตพลิ้วพรมตามลมพัด
คล้ายถูกมัดดั่งลมทำชมเกี้ยว
เคลิ้มร้อยรสพจนารถผู้ปราดเปรียว
เกินจะเลี้ยวหลบลี้ไปที่ใด
หลงคารมคมกลอนอ้อนฉอเลาะ
ด้วยเสนาะมนต์คำทำหวั่นไหว
หลงคำหรือหลงคนก็จนใจ
หรืออะไรนั้นก็ขอชื่นชม
น้องดาว
เขียนเก่งจังค่ะ แหมเข้าคู่กันดีชะมัดกับคุณโซล