เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ประกาศ!! ประกาศ!! ประการแรกที่เปลวเพลิงทำการรวบรวมกลอนของ คุณจินตนา ปิ่นเฉลียว ขึ้น เนื่องจากโดยส่วนตัวมีความชื่นชอบในแนวการเขียนของท่านเป็นอย่างมาก เรียกว่าเป็นต้นแบบของเปลวเพลิงก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งผลงานกลอนแต่ละชิ้นนั้นมีสำนวนที่คมคายเป็นเอกลักษณ์ ที่ไม่ว่าใครได้อ่านก็สามารถรับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่ท่านได้กลั่นกรองออกมาอย่างหลากหลาย ประกอบกับในปัจจุบัน กลอนต่างๆของท่าน หาอ่านได้ยากมากแล้ว เปลวเพลิงเองจึงมีความคิดอยากให้ผู้ที่มีใจรักกลอนรุ่นใหม่ๆ ได้เสพสุนทรียรสและความเป็น "จินตนา ปิ่นเฉลียว" ให้เป็นที่รู้จักสืบไป จึงใคร่ขออนุญาตใช้พื้นที่แห่งนี้ในการเผยแพร่ผลงานของคุณจินตนา ปิ่นเฉลียว ให้ทุกท่านที่สนใจได้อ่านกันครับ ..................................................................... เปลวเพลิง ปล.ขอขอบคุณรูปภาพจาก วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
รุ่งอรุณแห่งหัวใจ พอแดดพริ้มยิ้มพรายกับชายฟ้า โลกก็จ้าแจ่มหวังด้วยรังสี หยาดอรุณอุ่นหล้าเหมือนอารี แพรรพีห่มภพอบหนาวคลาย เพียงจะพลิกแผ่นฟ้าลงมาฝัน กับแสงอันอ่อนอุ่นอรุณฉาย เราคนท้อรอหวังซังกะตาย หวังชีพพรายอุ่นบ้างอย่างอรุณ ทุกวันนี้แรงหนาวปวดร้าวนัก หนาวทุกข์หนักเน้นไข้โรคภัยหนุน หนาวความชั่วตัวบาปคราบเนรคุณ ความอบอุ่นแห่งใจนั้นไม่มี ถ้าความรักความหวังดังแสงฉาน นานเท่านานแสงจะฝ่าลงมานี่ หวังลำแสงแห่งเมตตาและอารี พลิกราตรีมืดหมองให้ผ่องพรรณ และเหนือสิ่งอื่นใดใจมนุษย์ ขอจงจุดแสงอุ่นละมุนฝัน แสงแห่งรักและอภัยเห็นใจกัน แสงคุณธรรม์ขจัดชั่วจากหัวใจ อ้าอรุณอุ่นหล้าทิวาจรัส สารพัดภพผ่องครรลองไสว เรารอคอยอรุณแจ้งแหล่งฤทัย ซึ่งเกิดได้เมื่อมนุษย์หยุดกรรมเลว .......................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
สังคมป่วย ญาติฉันป่วยเต็มทีเข้าตรีทูต หมอยังพูดปลอบว่า "รักษาหาย การแพทย์เราก้าวหน้าอย่าโวยวาย เจ็บจวนตายยังรอดได้ปลอดภัย" ก็สู้เชื่อคำหมอรอดูผล ไม่นานคนป่วยฟื้นลุกขึ้นไหว ไม่กี่วันพลันหายสบายใจ ฉะนั้นใครก็ขานการแพทย์ดี เดี๋ยวนี้คนป่วยหนักไม่ยักหวั่น หาหมอทันก็เห็นไม่เป็นผี แต่การป่วยอย่างหนึ่งซึ่งเต็มที จะกี่ปีกี่วันไม่บรรเทา มันเกิดแก่สังคมสะสมชั่ว ล่อกันนัวทุกโรคน่าโศกเศร้า สมเพชจิตคิดมิตกเจ็บอกเรา หมอใดเล่าจะประทังโรคสังคม โลกคลั่งความก้าวหน้าพาให้ทรุด โรคมีบุตรไม่มีพ่อก่อให้ล่ม โรคเห็นแก่ตัวผลาญให้ซานซม โรคโง่งมทำให้เฉื่อยไปพลัน และยังมีโรคอื่นนับหมื่นแสน โรคแร้นแค้นค่าครองชีพบีบมหันต์ โรคโกงกดคดกินไร้ศีลธรรม์ โรคทั้งนั้นเกาะฝังแก่นสังคม เข้าขั้นตรีทูตแล้วเพื่อนแก้วเอ๋ย หากหมอเฉยคงดับชีพลับล่ม หมอคือใคร...? ก็คือ "เรา" เฝ้าระดม สังคมล้มแน่ถ้าเรารามือ ................................................. จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ฝันร้ายของเรา ในม่านคลี่สีดำค่ำคืนนี้ ใต้ตาหรี่หลับฝัน ฉันและเพื่อน จำได้ไหมวันวานที่ผ่านเยือน ซึ่งเสมือนฝันร้ายอายอาดูร คล้ายเคลิ้มฝันในโลกโศกสาหัส เสาะสัมผัสสันติภาพที่สาบสูญ เมื่อความอยากบากหน้ามาเพ็ดทูล โลกก็พูนภัยปรี่กลียุค บาปแห่งความเห็นแก่ตัวชั่วบัดซบ ท่วมทำนบมโนธรรมอำพรางสุข ความเหลื่อมล้ำสังคมโสมมคลุก คือข่ายทุกข์ครอบทั่วตัวประชา ความแน่นของผองคนล้นพื้นที่ เกิดชิงดีฟาดฟันด้วยตัณหา เหยียบกันขึ้นยืนหยัดเพื่ออัตตา แย่งแม้อากาศใช้หายใจกัน ภัยจากลำน้ำเน่าเศร้าใจหาย อากาศกลายเป็นพิษฤทธิ์มหันต์ ล้วนเกิดโดยคนก่อ วันต่อวัน ไม่นานมันก็ก่นฆ่าคนเอง นั่นคือโลกวันวานแห่งฝันร้าย กาลีรายล้อมหน้ามาข่มเหง ไฟบาปสุมรุมประชิดชวนคิดเกรง การนิ่งเขลงขลาดมันเร่งวันตาย ความร่วมมือซื่อตรงแต่ทรงศักดิ์ เชื่อไหมจักขจัดภัยได้ดังหมาย มือต่อมือ ซื่อ มั่น ล้างอันตราย ลบฝันร้ายจากนิมิตทุกนิทรา ................................................. จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
แด่...อิสระเสรี ฟ้าทั้งใสทั้งกว้างออกอย่างนั้น ไม่น่าหวั่นวิตกเลยนกเอ๋ย เหยียดปีกกว้างกวักฟ้ากล้ากว่าเคย เพื่อสังเวยเสรีที่เกิดมา จากรวงรังพรั่งพรูสู่ฟ้าใส เพียงจะไปไกลรุดจนสุดหล้า ณ ที่ซึ่งผืนดินผินพบฟ้า เกินสายตาสายใจใครอาทร บ้างจะเพลินพื้นหาวเมฆพราวพร่าง บ้างบินว้างเหว่ว้าเที่ยวหาหนอน บ้างนึกห่วงหนหลังรักรังนอน บ้างหาคอนเคียงใจไม่พบเลย แม้ไม่แน่ใจว่าฟ้าจะกั้น ธนูอันร้ายล้นมือคนเผย ไม่แน่ว่าจะคืนรังได้ดังเคย ปีกก็เสยเสียดฟ้าอย่างท้าทาย ทุกคราวที่บินถลาอย่างกล้ากาจ หลายตัวอาจไม่กลับบินลับหาย และหลายตัวแค่ขนหล่นกระจาย หลายตัวตาย ตัวที่อยู่ไม่รู้กลัว อิสระเสรีนั้นมีค่า เมื่อแลกกับชีวาและค่าหัว รักจะเอาปีกป้องประคองตัว ใจอย่ารัวริกหวั่นสรรพภัย เราจะเป็นเช่นนั้นเหมือนกัน-นก บินไปกกกิ่งเดือนเพื่อนฟ้าใส เจ้ามีปีก...เราก็มีอยู่ที่ใจ กลัวอะไรฟ้ากว้างออกอย่างนั้น และถึงถูกลูกธนูทะลุอก ปีกหรุบตกลงมาจะอาสัญ ก็ภูมิใจในเสรีของชีวัน ที่ไม่มีใครกั้นมันจากเรา ....................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
แด่...ความอาย ดูฟลอร์โชว์โก้แท้ อุแม่เจ้า! หญิงร้อนเร่าคนนั้น อึ๋ยย์...ขวัญหนี ย้ายสะโพกโยกทรวงดูพ่วงพี ท้าตาที่จ้องวาวสาวไม่แคร์ เตะความอายใส่บี๊บแล้วถีบส่ง เอนเอวองค์เอาผ้าออกมาแก้ คนชมกราวดาวฟลอร์โชว์โก้แท้แท้ ดูในแง่ศีลธรรมแล้วช้ำใจ "มันอาชีพสุจริตหนูผิดหรือ?" หล่อนพูดซื่อเมื่อเราเข้าถามไถ่ "ไม่คิดอายชายมั่งหรือยังไง?" หล่อนยักไหล่ "ขืนอายอดตายล่ะ หนูมีแม่แก่หงำซำน้องห้า ไม่แก้ผ้าเลี้ยงเขาก็เน่าน่ะ จบปอสี่มีใครสนใจนะ ที่ไม่พะโสเภณีก็ดีแล้ว แต่นั่นแหละแม้ว่าหนูหน้าด้าน กล้าทำร่านอวดใครได้ชัดแจ๋ว ก็เพราะความจำเป็นมันเน้นแนว แต่เชื้อแถวหนูไม่มีใครโกง หนูไม่อายหรอกค่ะสมัยนี้ คนดีดีคอร์รัปชันกันออกโผง ไม่อายใครใจชั่วตัวชูโรง ถูกเปิดโปงเข้ามั่งยังไม่กลัว คนอย่างหนูถ้ารู้อายชายคงเหงา คนอย่างเขาถ้ารู้อายคงหายชั่ว ตราบคนใหญ่ไม่ยั่นกินกันนัว หนูเผยตัวอวดชายจะอายใคร?" ...................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
อ้างว้าง โอ้ว่าพื้นพสุธากว้างกว่ากว้าง ความอ้างว้างแผ่ทั่วหัวระแหง ถึงผู้คนล้นเอียดเบียดเสียดแซง ก็ยังแฝงความอ้างว้างในใจ สำหรับผู้เร่ร่อนไม่ผ่อนพัก ไร้แหล่งหลักเคหาจะอาศัย ไร้ญาติมิตรชิดเชื้อเอื้ออาลัย ถึงอยู่ในหมู่คนก็หม่นทรวง ยิ่งยามยากจากกรุงเร่งมุ่งหน้า ท่องไปเยือนเถื่อนท่าภูผาหลวง พายุจัดพัดผันหวั่นแดดวง ยิ่งฝนร่วงกรูกราวยิ่งหนาวใจ นึกถึงบ้าน-ป่านนี้-ถ้ามีบ้าน คงสำราญกับมิตรผู้พิสมัย หลังคาคุ้มครองหัวไม่กลัวภัย อุ่นด้วยไฟ ด้วยรักที่พักพิง นี่เดินเดียวเปลี่ยวกายกลางสายฝน ฟ้าคำรณหม่นมัวน่ากลัวยิ่ง หนาวแสนหนาวร้าวในดวงใจจริง อยากจะวิ่งจนตกโลกไปตาย ถ้ามีหวังว่าวันหนึ่งจะถึงบ้าน ใจสะท้านคงทุเลาเศร้าสลาย นี่กี่ปีจึงจะมีที่พักกาย ได้แต่หมายแล้งลมมานมนาน ถ้ามีบ้านมีผู้อยู่รับขวัญ ขวัญที่มันเพริดหลงคงสุขศานต์ ถึงเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้ำหลังกรำงาน ยังมีบ้านคอยรับกลับมานอน แต่สิ้นไร้ไม้ตอกออกอย่างนี้ ก็ฝันค้างอย่างทุกทีที่เร่ร่อน แม้แต่ว่าวันซึ่งถึงม้วยมรณ์ หลุมศพตอนสิ้นใจ คงไม่มี .................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
แด่...ครูกวีที่ยิ่งใหญ่ ถ้าขอพรใดได้ดังใจคิด ใคร่ขอมีชีวิตเป็นอิสระ เพื่อเขียนร้อยกรองแก้วแพรวพจนะ และแน่ละ…เทิดท่าน "ภู่" เป็นครูกลอน ด้วยเลื่อมใสในวจีกวีเอก เหมือนท่านเสกมนต์สลักทุกอักษร ไพเราะรสพจน์พิรามหวามอาวรณ์ "ศรีสุนทรโวหาร" ท่านเลิศนัก สองร้อยปีที่ผ่านแม้นนานแสน ยังจำแม่นเก้านิราศประกาศศักดิ์ ซาบซึ้งพระอภัยมณีที่น่ารัก นิทานพรักพร้อมเห่เสภาพราว "อย่างหม่อมฉันอันที่ดีและชั่ว ถึงลับตัวแต่ชื่อเขาลือฉาว" กาลเวลาพิสูจน์ผ่านมานานยาว คนยังกล่าวถึงท่านภู่อยู่ลั่นลือ ถ้าแม้ขอพรได้ดังใจคิด ใคร่ขอเป็นเช่นศิษย์ด้านหนังสือ กราบ "ครู" ด้วยใจสมองและสองมือ จำหลักชื่อท่านภู่ไว้บูชา .................................................. จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ภัทรมหาราชสดุดี ณ ถิ่นอันกันดารดอนและร้อนเร่า องค์ล้นเกล้าฯ เสด็จดลทุกหนแห่ง ณ ที่ทุกข์ขุกเข็ญเย็นและแล้ง ทุกคนแจ้งในมหาเมตตาคุณ ทุกวันนี้ที่ไทยไม่วิบัติ เพราะร่มฉัตรป้องปกพสกสุนทร์ โลกเหมือนถูกทุกขภัยไหม้เป็นจุณ ไทยอบอุ่นด้วยมหาบารมี ขอเดชะฝ่าละอองธุลีพระบาท ชนทั้งชาติชื่นเพราะองค์พระทรงศรี เหลือจะจารวัจนะสดุดี ทอดชีพพลีถวายพระองค์...ทรงพระเจริญ ............................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ความเรียงเรื่องตีน จากใจอันกตัญญุตาปสาทะ คารวะตีนที่มีไว้ก้าว โลกเจริญเดินหน้ามานานยาว ก็ด้วยชาวโลกได้ใช้ตีนเดิน มันสำคัญแค่ไหนใครก็รู้ แต่มีผู้ว่าร้ายให้ขัดเขิน ถ้ามันคิด... คงพลอยน้อยใจเกิน คนประเมินค่าตีนสิ้นราคา โถ! ของดีมีค่าหาว่าต่ำ ตีนด้านดำดั้นด้นอดทนฝ่า ไม่ออเซาะเจ็บไข้ให้เยียวยา ยังไม่เห็นคุณค่าน่าน้อยใจ คำด่าทอก็เอาตีนเข้าเปรียบ ค่าเปรียบเทียบ "ไอ้ส้นตีน" ยินเสียวไส้ งานใดถ่อยด้อยค่าก็ด่าไป ว่าเหมือนใช้ตีนทำ ช้ำเต็มที เราตีนหนาหน้าบางเพราะห่างสุข ใช้ตีนทุกเวลาทำหน้าที่ จงรักมันหมั่นย่างสู่ทางดี เลี้ยงชีวีโดยซื่อด้วยมือตีน ใช่แค่เราชนชั้นปัญญาหย่อน พึงสังวร ปัญญาชน, คนมีศีล เดินขบวนตีนใช้เข้าป่ายปีน ฝรั่ง, จีน, แขก, เป็นกันเช่นนี้ จึงขอเขียนคารวะ "ตีน" สะอาด ที่ด้านดาดเดินกรำงานดำปี๋ ที่ไม่ข้ามคนล้มข่มคนดี และตีนที่บางกว่าหน้าบางคน ........................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ยักษ์ใหญ่-ตื่นเถิด ตอนที่ ๑ ปฐมกถา ถ้ายกโลกลงวางดูข้างหน้า เห็นไหมว่าทวีปใดแผ่ไพศาล หกสิบล้านตารางไมล์ในประมาณ “เอเชีย” ทวารเปิดสู่บูรพา ความยิ่งใหญ่คล้ายยักษ์ส่อศักดิ์ศรี น่าจะมีอำนาจฉกาจกล้า หยิ่งในความทรงพลังอหังการ์ อนิจจา-ยักษ์นั้นไร้อันตราย ขณะที่เพื่อนทวีปรีบเดินรุด ขุนยักษ์หยุดยั้งตนไม่ขวนขวาย ตระหนักในภัยครอบอยู่รอบกาย แต่ดูดายเหมือนดังไม่กังวล ขุนยักษ์แทนนามธรรมแห่งอำนาจ ซึ่งสามารถ ศักดิ์สิทธิ์ สฤษฎิ์ผล ด้วยสามัคคีดังพลังพล แต่ยักษ์ตนนี้อ้อนอ่อนแอนัก แดนเอเชียชื่อว่ามหาทวีป ภัยเริ่มบีบเบียดจนผลประจักษ์ เชิญชมบทบาทแสดงแห่งขุนยักษ์ จะทิ้งศักดิ์หรือสู้ มาดูกัน ..................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ยักษ์ใหญ่-ตื่นเถิด ตอนที่ ๒ ยักษ์ที่ไม่ยอมตื่น ใต้แผ่นฟ้าแห่งบูรพาทิศ ซึ่งโศภิตด้วยรพีผ่องสีฉัน ขุนยักษ์ทอดนิทรามานานครัน เนิ่นนิรันดร์ไม่ฟื้นพลิกตื่นเลย เหยียดร่างพาดพสุธาหลับผาสุก ซบหน้าซุกซอกแขนแทนเขนย หิมะพรม ลมหมุน คุ้นจนเคย หนาวร้อนเฉยชินชามาชั่วกัลป์ ขุนยักษ์แห่งเอเชียเพลียและล้า ไร้กำลังวังชามาสร้างสรรค์ ใหญ่โครงสร้าง ร่างที่แท้ก็แค่นั้น หลับนิรันดร์จนใครไม่รู้ฤทธิ์ อนาถเอยโอ้อสูรผู้พูนเดช น่าสังเวชเสียนิยามความศักดิ์สิทธิ์ ระเบิดเปรี้ยงเสียงปืนครืนทุกทิศ ไม่ปลุกนิทราบ้างหรืออย่างไร? เมื่อเทพีแห่งธารพล่านพิโรธ หลั่งความโหดแห่งธาราลงบ่าไหล กี่ชีวิตปลิดหายล้มตายไป ขุนยักษ์ไม่นำพาลืมตาดู ก้องปืนกราด หมาดเลือด ความเดือดแค้น การแก้แทน ทรยศ เศร้า อดสู คือโศกนาฏกรรมสรรพโลกรับรู้ ขุนยักษ์ผู้ยิ่งใหญ่ไม่ยินยล ยึดพื้นที่ค่อนพิภพหลับซบซ่อน ทรัพยากรกองใต้ทรายเกลื่อนกล่น ใครจะปลุกยักษ์ใหญ่ให้ตื่นตน ในเมื่อคนทั้งมวลล้วนกลัวยักษ์ ......................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ยักษ์ใหญ่-ตื่นเถิด ตอนที่ ๓ เอเชียอาคเนย์ทำเลเลือด ซอยพื้นที่แผ่นไผทกว้างไกลนั้น แบ่งเขตขัณฑ์เผ่าผู้อยู่ตั้งหลัก ตะวันออกกลาง ไกล ใกล้ พำนัก แบ่งพวกพรรค แบ่งกลุ่ม คุมเชิงกัน ฟ้องความเป็นปุถุชนก่นกิเลส มวลประเทศรบแย่งสู้แข่งขัน ชิงแผ่นดินหมิ่นเกียรติเหยียดเผ่าพันธุ์ ลัทธิอันแตกต่างกีดขวางคน ย่านเอเชียอาคเนย์ทำเลเลือด ดินแทบเดือดด้วยภัยไปทั่วหน ระเบิดเปรี้ยงเสียงปืนสะอื้นปน ผู้ยินยลสยองขวัญคอยวันตาย แม้เมืองเดียวยังต้องแบ่งสองฟาก เหนือ-ใต้พรากพี่น้องเป็นสองฝ่าย ชาติเดียวกันบั่นล้างกันวางวาย ลัทธิร้ายรอนค่าปรัชญาเดิม แม้เริ่มเพลงสันติภาพพลิ้วอาบภพ ก็เพียงกลบกลองศึกที่ฮึกเหิม สัญญาหยุดยิงคือสื่อเชื้อเติม คนก็เริ่มชินการผลาญกันเอง แต่ลัทธิที่ตรึงครึ่งทวีป ยังเบียดบีบอิสราคร่าข่มเหง ความอดอยากย่อยยับยังขับเพลง ทุกข์ประเลงเสียงเห่กล่อมเอเชีย และสันติที่ซื้อด้วยมือมิตร ซึ่ง (ไม่) สัมฤทธิ์ดังใจผู้ไกล่เกลี่ย ใช่เกิดจากพลังรักษ์ของยักษ์เพลีย ผู้นอนเปลี้ยอยู่กระนั้นอนันตรัย ......................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ยักษ์ใหญ่-ตื่นเถิด ตอนที่ ๔ นครวัด-นครธม-พนมเปญ สุริยะวรมันจะกันแสง ศิลาแลงทุกก้อนก็กร่อนไหว พระบาทไชยวรมันผู้บรรลัย จะร่ำไห้โหยสะอื้นด้วยปืนกวน "ตัวกูผู้ทรงสิทธิศักดิ์ อาณาจักรกัมพุชภาศวร นครวัดนครธมสมควร สฤษฏิ์ล้วนด้วยฤทธิ์มหิศรา ศิลาเท่าเหย้าเรือนเขยื้อนยาก ฉุดลากชะลอผ่านด่านป่า มือคนก่นสลักลักษณา เป็นสุสานศิลาบูชากู นครธมก่อนล่มก็ไพโรจน์ ชวยโชติสิทธิศักดิ์อักขู โลเกศวรเพ่งเล็งดู คือปูชนีย์อ่าบายน แต่เนิ่นนานกาลก่อนกูนอนนิทร สุขสถิตเทียมเทพเสพกุศล เหวย ไอ้ขอมใหม่ใจวิกล คำรนปืนเป่าปลุกกู เหม่ เหม่ ชิชะ จะมาหมิ่น ไอ้ทมิฬยุคใหม่ไม่อดสู ระเบิดเปรี้ยงปืนก้องคะนองภู มันจะหลู่ล้างพันธุ์มันให้เตียน โลเกศวรสี่พักตร์พักเพ่ง แลเล็งโลกอันหันเหียน ชั่วกัปกัลป์พันฉนำจำเนียร แปรเปลี่ยนเหตุการณ์ทุกด้านไป" จึ่งวันนี้สี่พักตร์เบือนพักตร์หมอง ทุกพักตร์ต้องตรมหม่นทนไม่ไหว โอ้ลูกขอมฆ่าขอมตรอมกระไร เพียงผิดใจเพื่อนพ้องจึงจองเวร เปรี้ยง เปรี้ยง เสียงปืนครืนปืนประหัต นครวัด นครธม ล่มเขมร แต่ละศพทบถมพนมเปญ ถึงไศเลนทร์โศกด้วยผู้ม้วยมรณ์ โอ้กัมพุชดุจมหาอาณาจักร ซากปรักพยานฤทธิ์มหิศร ทิ้งอดีตกรีดเศร้าเป็นเงาซ้อน ปัจจุบันนั้นร้อนระอุภัย สุริยะวรมันจะกันแสง ศิลาแลงสี่พักตร์ จักร้องไห้ เมื่อลูกขอมฆ่าขอมยอมยอบภัย แล้วจะเหลืออะไรไว้ภูมิใจตน? .......................................... จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เปลวเพลิง
นักกลอนผู้รอบรู้
ออฟไลน์
กระทู้: 335
เปลวเพลิงแห่งใจ เปลวไฟแห่งฝัน
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: รวมกลอนของ จินตนา ปิ่นเฉลียว
ยักษ์ใหญ่-ตื่นเถิด ตอนที่ ๕ ทะเลทรายหมาดเลือด อาทิตย์แห่งทะเลทรายฉายกราดเกรี้ยว ทิวทรายเปลี่ยวเกินจะกล้าเดินฝ่าหน แต่ร้อนแสงแรงฉาดอาจทานทน ความร้อนรนเหล่ามนุษย์เหลือหยุดมัน ควันสงครามคาวเลือดเร่งเดือดร้อน ความอาทร รัก อภัย ไกลเกินฝัน การหยุดยิงคือสัญญาเริ่มฆ่าฟัน ผู้แก้ปัญหาหดหมดหนทาง แล้วเลือดดำน้ำมันอันทรงค่า กลายเป็นอาวุธฉกาจเข้าฟาดผาง เดือดร้อนทุกหย่อมหญ้าพาระคาง เพราะสองข้างสองเผ่าเข้าราวี เลือดแดงจากปากแผลแลชุ่มฉาน ซับทรายกร้านกลับหมาดด้วยหยาดสี และเลือดดำน้ำมันอันแสนดี ก็หมาดที่ทะเลทราย อย่างทายท้า สงครามชิงแผ่นดินจะสิ้นโหด หากหยุดโกรธยอมกันแก้ปัญหา ฉากการยุทธ์หยุดได้ในพริบตา ถ้าตั้งหน้ารักสงบเลิกรบราญ แต่ผู้แพ้ไม่พร้อมจะยอมแพ้ เปิดฉากแก้แค้นคลั่งคอยสังหาร แล้วใครเล่าหัวเราะเยาะได้นาน รวยจากการยุเพื่อนเชือดเฉือนกัน? ทะเลทรายแม้นว่าพูดจาได้ คงร้องไห้แทนร่ำคำกล่าวขวัญ ทรายทุกเกล็ดเม็ดหมาดหยาดน้ำมัน และเลือดอันอาบร่างร้างวิญญาณ ........................................ จินตนา ปิ่นเฉลียว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|