พรานไพร
นักกลอนผู้โดดเด่น
ออฟไลน์
กระทู้: 479
นายพราน...ล่าหัวใจ
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~
กำไลมาศชาตินพคุณแท้ ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมยืนสี เหมือนใจจงตรงคำร่ำพาที จะร้ายดีขอให้เห็นเป็นเสี่ยงทาย ตาปูทองสองดอกตอกสลัก ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย แม้นรักร่วมสวมไว้ให้ติดกาย เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย
...พระราชนิพนธ์ในล้นเกล้าฯ ร. ๕...
กำไลมาศชาตินี้พี่มอบเจ้า วอนนงเยาว์อย่าถอดกอดความหมาย แม้รักร่วมสวมชิดไว้ติดกาย เมื่อรักคลายสวาทวอดจึงถอดวาง
----------------
ตำนานรักเจ้าจอมหม่อมสดับ ผู้อาภัพรักสั้นถูกคั่นขวาง เมื่อราชันสวรรคตหมดหนทาง ปล่อยหม่อมนางเดียวดายสลายจินต์
กับองค์พ่อปิยะมหาราช บรมนาถลือนามสยามถิ่น ทรงสลักอักษรท่อนกวินท์ ประทับผินบนกำไลให้เจ้าจอม
ผู้เลอโฉมที่สุดในยุคนั้น นามว่า"สั้น"นงนุชสุดถนอม อายุเพียงสิบเจ็ดพระเด็ดดอม ดุจแรกหอมโกสุมกุมพระทัย
หลังเปลี่ยนนามเป็น"สดับ"รับตำแหน่ง คอยจัดแจงจาริกาเวลาไหน แทบยุคลบาทเคียงอยู่เวียงใน "นางร้องไห้"คนสุดท้ายผู้วายชนม์
เป็นเจ้าจอมรองสุดท้ายปลายสมัย ขวัญพระทัยจักรีนารีผล รองจากราชินีศรีปพน นันธมนโสภากว่านางใด
...จบตอนที่ ๑ (มี ๓ ตอน)
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : หญิง, ระนาดเอก, ศิลาสีรุ้ง, ❀ Sasi ❀, masapaer, พิณจันทร์, .:+: น า ง แ ก้ ว จ อ ม ข วั ญ :+:., โซ...เซอะเซอ, พิม วรรณพร, ชลนา ทิชากร, รพีกาญจน์, สิริวตี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรานไพร
นักกลอนผู้โดดเด่น
ออฟไลน์
กระทู้: 479
นายพราน...ล่าหัวใจ
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~
(ขอบคุณภาพประกอบจากเนต..)
ผู้คิดสูตร"พริกลงเรือ"เมื่อครานั้น ตราบทุกวันนิยมสมสมัย จากตำรับชาววังโด่งดังไกล น้ำพริกไทยเลิศรสคนจดจำ
ก่อนประพาสยุโรปครั้งที่สอง ประทานทองวลัยให้งามขำ สลักกลอนอ่อนหวานขานลำนำ ดุจจะย้ำคำรักปักใจนาง
มิอาจตามเสด็จไปเตร็ดเตร่ โอ้ละเห่ใจน้องต้องหม่นหมาง พระลิขิตจดหมายส่งปลายทาง ยามแรมร้างห่างจอมตรอมพระทัย
หลังนิวัติเขตคามสยามถิ่น ประทานสิ้นจินดาค่าสมัย เป็นทุนทรัพย์เลี้ยงตนตราบพ้นภัย ดุจบอกใบ้ภูมินทร์จะสิ้นชนม์
อีกสามปีให้หลังดังวิโยค สยามโศกทั้งชาติอนาถผล เมื่อปิยะราชานิราตน ทิ้งสกนธ์ครรไลสู่ไตรตรึงษ์
ปล่อยเจ้าจอมหม่อมน้องต้องร่ำหา หลั่งน้ำตาเป็นโลหิตเพราะคิดถึง ด้วยความรักภักดีที่สุดซึ้ง หม่อมนางจึงครองโสดมิโปรดใคร
ถวายคืนเครื่องเพชรมิเด็ดหวง กันทั้งปวงครหาว่าเหตุไหน เหลือสิ่งเดียวที่หวงดั่งดวงใจ คือกำไลมาศทองคล้องใจนวล
..จบตอนที่ ๒..
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พรานไพร
นักกลอนผู้โดดเด่น
ออฟไลน์
กระทู้: 479
นายพราน...ล่าหัวใจ
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~
(ขอบคุณภาพประกอบจากเนต)
มิลาออกจากตำแหน่งแต่งงานใหม่ ด้วยหัวใจคงมั่นกระสันหวน เพื่อรักษาพระเกียรติละเมียดควร มิเรรวนป่วนใจให้สงกา
ด้วยรักแท้คงมั่นมิหวั่นไหว มอบกายใจในศาสน์ปรารถนา ถือศีลแปดดำรงคงกายา น้อมบูชากุศลส่งองค์บดินทร์
ทั้งในหลวงราชินีมีพระเมตต์ ให้เนาเขตวังหลวงห่วงโฉมฉิน เมื่อชราภาพลงประสงค์ยิน ทรงรับสิ้นอุปการ์ดุจย่าน้อย
ปีสองห้าสองหกตกวิโยค นางลาโลกโศกตรมระทมหงอย ทิ้งตำนานรักแท้ไว้แค่รอย หวังเจ้ากลอยพบภูมินทร์สิ้นเดียวดาย
เจ้าจอมสวมกำไลจนใจขาด ดังโอวาทสวามีฤดีหมาย "แม้นรักร่วมสวมไว้ให้ติดกาย" ตราบสุดท้ายลมปราณมานพลี
ตำนานรักเจ้าจอมหม่อมสดับ แสนประทับใจยิ่งมิ่งอิตถี หากใจหญิงซื่อตรงคงโสภี แต่ชาตินี้คงไม่เห็นผู้เช่นนาง
...พรานไพร...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
โซ...เซอะเซอ
นักกลอนระดับเพชรยอดมงกุฎ
ออฟไลน์
กระทู้: 3895
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
|
Re: ~ตำนานรักอมตะ ในล้นเกล้า ร.๕ฯ กับ เจ้าจอมสดับ ลดาวัลย์~
กำไลมาศ
"กำไลมาศชาตินพคุณแท้ ไม่ปรวนแปรเป็นอื่นย่อมยืนสี เหมือนใจตรงคงคำร่ำพาที จะร้ายดีขอให้เห็นเช่นเสี่ยงทาย ตาปูทองสองดอกตอกสลัก ตรึงความรักรัดไว้อย่าให้หาย แม้รักร่วมสวมใส่ไว้ติดกาย เมื่อใดวายสวาสดิ์วอดจึงถอดเอย" "...กำไลมาศ เป็นกำไลทองคำแท้จากบางสะพาน หนักสี่บาท ทำเป็นรูปตาปูโบราณสองดอกไขว้กัน ปลายตาปูเป็นดอกเดียวกัน ถ้ามองตรงๆ เป็นอักษร S (มาจากชื่อย่อของเจ้าจอมสดับ) หากพลิกข้อมือเพียงเล็กน้อยมองอีกด้านหนึ่ง จะกลับเป็นอักษร C (จุฬาลงกรณ์) สิ่งที่ทำให้กำไลทองวงนี้มีชื่อมากที่สุด ในบรรดาเครื่องประดับสูงค่าของรัตนโกสินทร์ไม่ใช่ราคา หรือการออกแบบ แต่เป็นตัวอักษรซึ่งเป็นบทกลอนพระราชนิพนธ์ ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สลักไว้บริเวณด้านบนของกำไล..." (เป็นตัวแทนความรักที่พระองค์มีให้ ต่อเจ้าจอมหม่อมราชวงศ์สดับ ลดาวัลย์)
...กำไลมาศเนื้อทองผ่องพิสุทธิ์ เปรียบประดุจรักนี้มิมีหมอง จากใจจริงยิ่งค่ามากกว่าทอง มอบเป็นของรับขวัญกัลยา ตะปูทองคล้องเกี่ยวกลมเกลียวรัก ตอกสลักรัดตรึงคะนึงหา คำผูกพันมั่นรักอักษรา ตราบชีวาวายจากมิพรากเอย...
Soul Searcher Inspired to write 27/1/2017
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|