share
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1807
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
กาพย์ฉบัง ๑๖
....กาพย์ฉบัง ฟังเสนาะ เพราะพริ้ง...........เสนอแนะ ยึดอิง ...........จังหวะ จะโคน โดนใจ
....สรรคำ กระชับ ฉับไว......................สำเนียง เสียงใส ...........เนื้อหา สาระ ครบครัน
....แต่อย่า อย่าลืม เลือนกัน..................ควร"คำ นำ"นั้น ............เกริ่นบอก บ่งเรื่อง เมลืองวาม
....กาพย์จบ ครบถ้วน กระบวนความ.........บทสรุป จงงาม .............แง่คิด สะกิด ติดตรึง
....ให้ประทับ จับจิต ซาบซึ้ง.................ครุ่นคิด คำนึง ...............แม้ผ่าน พ้นกาล นานปี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ศิลาสีรุ้ง, ระนาดเอก, ธนุ เสนสิงห์, หญิง, ดารกะ, masapaer, พิณจันทร์, บางม่วง, วรรณดี, ❀ Sasi ❀, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, Wirin
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
share
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1807
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
๐ กาพย์ฉบังคงเหลือรวยริน กลุ่มกลอนพาทิน มุมน้อยเสงี่ยมเจียมตน ๐ คนรุ่นใหม่มิไฝ่ฝน มองผ่านมองพ้น รอวันคืนลับโรยลา
ศิลาสีรุ้ง
ขอแสดงความเห็นครับ - ไม่แค่ กาพย์ฉบัง ดอกครับ ร้อยกรอง เกือบทั้งหมดก็ว่าได้ ผมคิดว่าสาเหตุอย่างน้อยอาจเพราะ
๑ เน้น "รูป" มากกว่า "เสียง" คนทั่วไป (สมัยก่อน น้อยคนเขียนได้) เขา"ขับร้อง"กันอย่างสนุกสนาน
...ร้อยกรอง เฉกเช่น ดนตรี เริ่มที่ จังหวะเหมาะ เสนาะเสียง ให้อารมณ์ ขมโศกสุข เพียบเครื่องเคียง ร่ำร้อยเรียง เพียงสบายสบาย คลายเหงากัน
๒ เน้นกฎเกณฑ์เกินไป (หากเป็นการแข่งขัน ก็รับได้ครับ) ทำให้ผู้แต่ง "เกร็ง" ๓ ติดกรอบ มีไม่กี่แนว เช่น แนวรัก ชมธรรมชาติ การเมือง
....อย่าหยุดเพียงร้อยเล่น.......ภาษา พลิ้วพลิกรูปลักษณา.............ยากล้น เติมแต่งเพิ่มปัญญา...............ควรเหมาะ เชิญร่วมรุกก้าวพ้น................ร่ายซ้ำแนวเดิม...เดิมนา
....เติมแต่งแต่รักเศร้า...........เหงาตรม เย้าหยอกหลอกหลงลม.........เล่ห์ลิ้น ฤๅเรื่อยเรื่อยแวะเวียนชม........ธรรมชาติ เลือดพล่านแทบฆ่าสิ้น...........แบ่งข้างการเมือง
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : บางม่วง, หญิง, ระนาดเอก, ปรางค์ สามยอด, ศิลาสีรุ้ง, ดารกะ, masapaer, พิณจันทร์, วรรณดี, ❀ Sasi ❀, ธนุ เสนสิงห์, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ศิลาสีรุ้ง
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1070
|
Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
ครับ สวัสดีครับท่าน share ครับ
อะไรทั้งหลายก็อยู่ที่ผู้บริหารประเทศ จากรัฐบาล ไปกระทรวงวัฒนธรรมโดยตรง ไปกรม ที่เกี่ยวข้อง แต่แค่ชำเลืองดูนิดเดียว
แต่ไม่มาส่งเสริมจริงจัง แจกคำขวัญทุกปี ดูตามสื่อสาธารณะ เช่น ประกวดโน่น นี่ นั่น มีวัฒนธรรมต่างชาติมากมาย สื่อการสอนที่มีก็ละเลย ใครสนใจก็ต้องเหนื่อย แม้แต่ ผู้อยากจะทำ แต่สปอนเซอร์เจ๊ง ก็ต้องเลิก
แต่ก่อนๆผมฟังการอ่านกลอนจากวิทยุภาคกลางคืนประจำ สมัยยุดของกลุ่ม ท่าน ส.เชื้อหอมเฟื่องฟูนั้นละครับ ครับโลกไม่หยุดนิ่ง เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ..มุมของนักกลอนถึงจะกว้างใหญ่ แต่มันก็เล็กจังเลย และโดนเบียดเล็กลงไปเรื่อยๆ จากอิทธิพลหลายรูปแบบครับ
ขอบคุณครับ
ศิลาสีรุ้ง 20 ส.ค. 57
[/color] .
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
share
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1807
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: กาพย์ฉบัง ๑๖
โอ้ อย่าเพิ่งท้อสิครับ
ที่ผมเปิดประเด็น ข้อปัญหา เพื่อเชิญชวนเพื่อนรักนักกลอน มาขยับเพิ่มแนวทางใหม่ ๆ ครับ
๑ "ร้อยกรองประลองคิด" ผมนำปริศนา "ร้อยกรอง" ไปเสนอใน Pantip แม้จะไม่ทราบจำนวนคนที่เข้าอ่าน แต่พบว่ามีคนใหม่ ๆ เข้ามาร่วมแบ่งปันครับ
๒ ผมเองแม้เล่นเครื่องดนตรีไม่ได้ แต่เคยเป็น นักขับโบสถ์ ทำให้ ประมาณปี ๒๐๐๓ ผมลองขับร้อง ร้อยกรอง ที่ผมแต่ง(เกี่ยวกับศาสนา) แรก ๆ ปัญหามากพอควร แต่พอมีโปรแกรม เขียนโน้ตเพลง ได้ 555 ฉลุยเลยครับ
อย่าง กาพย์ฉบัง หรือ กลอนหก ใส่ทำนองเพลงสากลได้ไม่เลวเลยครับ เนื่องจากลักษณะการอ่านเป็น ๒ - ๒ - ๒ หรือ ๓ - ๓ เมื่อนำไปใส่ทำนอง waltz หรือ quick waltz ก็ทำได้ง่ายมาก ๆ ส่วน โคลง ค่อนข้างยาก แต่ ฉันท์ นี่ยังไม่สำเร็จเลย 555
ผมชอบชื่อ web นะครับ "อารมณ์กลอน" ใช่เลยครับ ร้อยกรอง ดนตรี ต้องเน้นที่ "อารมณ์" ไม่ใช่ รูปแบบ
ขอบคุณครับ
เพื่อน ๆ ท่านอื่น เชิญร่วมแสดงความคิดเห็นด้วยสิครับ
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, ศิลาสีรุ้ง, masapaer, พิณจันทร์, บางม่วง, วรรณดี, ❀ Sasi ❀, ธนุ เสนสิงห์, รพีกาญจน์, โซ...เซอะเซอ, จั่นเจา
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|