..จริงจริงล้อเล่น..
(กลอนกลบท ระลอกแก้วกระทบฝั่ง)
.
ห่วงแต่ว่า ห่างตาไว้ เข้าใจผิด
เคยเอื้อจิต ควรอวยจินต์ หมดสิ้นขม
วอนสงสาร วางส่งสาย ดุจสายลม
คำจินต์สม เคียงจิตแสง เป็นแรงใจ
.
หากฝันใฝ่ หันฝันฝาก ก็ยากแสน
เป็นตัวแทน ไปตามทวง เป็นห่วงไหม
หากเจ้าของ ห้องจิตขุ่น เจ็บอุ่นไอ
คงสั่นไหว คิดแสวง เหน็บแหนงอาย
.
แค่มองเห็น คนเมียงหา สายตาบอก
สองเราหยอก ส่งร่วมอยู่ ดูหลากหลาย
แม้นประสบ มาประสาน งานเรียงราย
มองความหมาย เมินเคียงมี ดั่งที่ทำ
.
เพียงคำหมอง พ้อคำมี ฤดีเก่า
ยังหันเฝ้า อยู่ห้องฝัน เพียงขมขำ
เคยที่ไหน เคียงทนาน นงคราญจำ
นวลคอยย้ำ นำเคียงเย้ย เอ่ยตามทวง
.
แค่คิดว่า ควรคิดไว้ จำใจจาก
คงฝันใฝ่ แค่ฝันฝาก ยากเขาหวง
อยุดอยู่นิ่ง หยุดยิ่งนึก ศึกแดดวง
เลิกห่วงหา ลาแห่งหน มิสนเลย
.
ลาแล้วนะ ละเลยนงค์ สิ้นสงสัย
จากคนไกล ใจเคียงเกิน ขอเดินเฉย
สุดหวงแหน สิ้นห่วงหา คำมาเกย
แค่เพียงเอ่ย คำเพ้ออื่น ชายยืนมอง.
.
พิณจันทร์
๒๙ เมษายน ๒๕๕๘
..........
“กลอนกลบทละลอกแก้วกระทบฝั่ง"(ABC ABC XXX...DEF DEF XXX)
กฏเกณฑ์บังคับ
นิยมเขียนเป็น “กลอนเก้า” โดยใช้จังหวะแบ่งวรรค ๓/ ๓ / ๓
เขียนสัมผัสอักษร๒ชุดๆละ๓พยางค์
ไม่ต้องมีสัมผัสสระ ตรงพยางค์ ๓ ๔ และ ๖ ๗ (หากมีสัมผัสสระตรงนี้จะมีชื่อเรียกว่า “กบเต้นต่อยหอย” ทั้งสองแบบนี้สามารถนำมาเขียนผสมกันได้)
*************
**พิณจันทร์ ฝึกหัดเขียนค่ะ***