เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
"รุ่งทิวาฟ้าสาง"
รุ่งทิวา ฟ้าสาง สว่างแล้ว เสียงเจื้อยแจ้ว แว่วดัง ฟังไก่ขัน ลุกเก็บมุ้ง หมอนข้าง วางเรียงกัน รีบแปรงฟัน ล้างหน้า ผ้าเช็ดตัว
กระดังงา ส่งกลิ่น ประทินหอม พวงพะยอม หอมไกล ฟุ้งไปทั่ว มะลิขาว พราวพริ้ม อยู่ริมรั้ว รีบหวีหัว จูงควาย ไปปลายนา
นกเขาคู กู่ร้อง มองหาคู่ จู้ฮูกกรู ร้องเรียก พร่ำเพรียกหา นกกระยาง ริมนอง จ้องหาปลา ชำเลืองตา แลมอง เดินย่องไป
สุริยา งามผ่อง ต้องขอบฟ้า ลมโชยมา รวงข้าว พราวไสว จวนใกล้เกี่ยว เรืองรอง ผ่องอำไพ ผูกควายไว้ เล็มหญ้า นภางาม
เสียงนกกวัก หาคู่ อยู่ริมหนอง ส่งเสียงร้อง อยู่ในพง ดงผักหนาม กวักกวักกวัก ร้องกู่ อยู่ทุกยาม ฟ้าสีคราม งามเด่น เป็นสุขใจ
เฒ่าธุลี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ดารกะ, รพีกาญจน์, ❀ Sasi ❀, ศิลาสีรุ้ง, ระนาดเอก, วรรณดี, พิกุลแก้ว, คอนพูธน, กวี ชาว บ้าน, พิณจันทร์, พิม วรรณพร, masapaer, ธนุ เสนสิงห์,
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
❀ Sasi ❀
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
แสงสุรีย์คลี่สาดพาดโค้งคุ้ง ทาบถิ่นทุ่งบ้านสวนนวลไสว เย็นอากาศพัดพลิ้วทิวพงไพร ละอองไอสายฝนหล่นโรยริน
บรรเทาทุกข์ปลุกป่าพาเริงรื่น โชกชุ่มชื้นเพราะว่าชลาสินธุ์ กรุณาปรานีชุบชีวิน ชโลมดินฟื้นฟูมิดูดาย
กลิ่นโมกหอมดอมดมจะฉมชื่น ดอกขาวดื่นบานรับกับแสงฉาย ดอกไม้สวนควรเคียงเพียงพราวพราย แค่เรียงรายตามดงป่าคงค่าพอ
ละอองดิน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ระนาดเอก, ศิลาสีรุ้ง, เฒ่าธุลี, วรรณดี, กวี ชาว บ้าน, พิกุลแก้ว, คอนพูธน, พิณจันทร์, พิม วรรณพร, masapaer,
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
|
รพีกาญจน์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1596
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
เก็บแคขาวพราวดื่นบนพื้นหญ้า ล้างสองคราลวกจ้ำน้ำพริก หน่อ- ซอยแกงกับชะอม บ่มมะกอ กระดาษห่อพอห่ามผ่าตามยาว
ตัดต้นตูนจอเปรี้ยวเป็นปล้องปล้อง ผักกุ่มดองสองไหในโรงข้าว กล้วยหนึ่งหวีชี้นับผลจับซาว(ยี่สิบ) ยอดอาหารหวานคาวชาวบ้านนา
ยังสบายหลับหลากไม่อยากตื่น จำต้องฝืนตัดใจอาลัยหา ที่นอนนิ่มหมอนนุ่มดุ่มเดินมา ถึงศาลาไม้ออกเปิดคอกวัว
ต้อนลัดเลาะกอไผ่ไต่คันเหมือง ทุ่งข้าวเหลืองงามตาฟ้าสลัว เสียงลมหวนครวญครางช่างน่ากลัว นานเพียงชั่วเดี๋ยวเดียวเลี้ยวหายไป
ย่างเดือนนี้สิบสี่เย็นไม่เห็นฝน หรือเบื้องบนอาเพศเหตุไฉน ที่อื่นท่วมนองเนืองทั่วเมืองไทย แต่บ้านนอกคอกไกลไม่ตกเลย
รุ่งทิวาฟ้าสางที่กลางสวน หอมตรลบอบอวลลำดวนเผย ไร้กลิ่นโคลนปนฟางเช่นอย่างเคย วัวเจ้าเอ๊ยผอมโซติดเชื้อตาย
รพีกาญจน์
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : ระนาดเอก, ศิลาสีรุ้ง, ❀ Sasi ❀, เฒ่าธุลี, วรรณดี, กวี ชาว บ้าน, พิกุลแก้ว, คอนพูธน, พิณจันทร์, พิม วรรณพร, masapaer
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & YouTube ครับ ♥
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
แสงสุรีย์คลี่สาดพาดโค้งคุ้ง ทาบถิ่นทุ่งบ้านสวนนวลไสว เย็นอากาศพัดพลิ้วทิวพงไพร ละอองไอสายฝนหล่นโรยริน
บรรเทาทุกข์ปลุกป่าพาเริงรื่น โชกชุ่มชื้นเพราะว่าชลาสินธุ์ กรุณาปรานีชุบชีวิน ชโลมดินฟื้นฟูมิดูดาย
กลิ่นโมกหอมดอมดมจะฉมชื่น ดอกขาวดื่นบานรับกับแสงฉาย ดอกไม้สวนควรเคียงเพียงพราวพราย แค่เรียงรายตามดงป่าคงค่าพอ
ละอองดินแสงสุรีย์ เรืองรอง ส่องฟากฟ้า รุ่งอุษา ไก่ขัน กันเสียงจ้อ โอ้กอิโอ้กโอ้ก ส่งเสียง เอียงโก่งคอ ไม่รีรอ ผ้าขาวม้า มาคาดพุง
สกุณา เริงร่า ฟ้าวันใหม่ แบกคันไถ ไล่ควาย ไปท้ายทุ่ง ข้าวกลางวัน ซุกไว้ ในกระบุง เก็บผักบุ้ง กลางนา ค้อยว่ากัน
ช่อดอกรัก สีขาว พราวไสว ต้องลมไกว อร่าม งามเฉิดฉัน อยู่บ้านนา ป่าดอย คอยแสงจันทร์ ยามตะวัน ลับฟ้า นะภาพราว
เฒ่าธุลี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, วรรณดี, ศิลาสีรุ้ง, ❀ Sasi ❀, กวี ชาว บ้าน, พิกุลแก้ว, คอนพูธน, ระนาดเอก, พิณจันทร์, พิม วรรณพร, masapaer
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
เก็บแคขาวพราวดื่นบนพื้นหญ้า ล้างสองคราลวกจ้ำน้ำพริก หน่อ- ซอยแกงกับชะอม บ่มมะกอ กระดาษห่อพอห่ามผ่าตามยาว
ตัดต้นตูนจอเปรี้ยวเป็นปล้องปล้อง ผักกุ่มดองสองไหในโรงข้าว กล้วยหนึ่งหวีชี้นับผลจับซาว(ยี่สิบ) ยอดอาหารหวานคาวชาวบ้านนา
ยังสบายหลับหลากไม่อยากตื่น จำต้องฝืนตัดใจอาลัยหา ที่นอนนิ่มหมอนนุ่มดุ่มเดินมา ถึงศาลาไม้ออกเปิดคอกวัว
ต้อนลัดเลาะกอไผ่ไต่คันเหมือง ทุ่งข้าวเหลืองงามตาฟ้าสลัว เสียงลมหวนครวญครางช่างน่ากลัว นานเพียงชั่วเดี๋ยวเดียวเลี้ยวหายไป
ย่างเดือนนี้สิบสี่เย็นไม่เห็นฝน หรือเบื้องบนอาเพศเหตุไฉน ที่อื่นท่วมนองเนืองทั่วเมืองไทย แต่บ้านนอกคอกไกลไม่ตกเลย
รุ่งทิวาฟ้าสางที่กลางสวน หอมตรลบอบอวลลำดวนเผย ไร้กลิ่นโคลนปนฟางเช่นอย่างเคย วัวเจ้าเอ๊ยผอมโซติดเชื้อตาย
รพีกาญจน์
ดอกแคขาว แคแดง แจงตามสี ประโยชน์มี แก้ไข้ ให้ห่างหาย ปรุงแกงส้ม แก้ไข้ ได้สบาย ทานก็งาย ไข้หัวลม นิยมทาน แคสีแดง สวยดี มีเสน่ห์ มองดูเท่ จิ้มปลาร้า เป็นอาหาร ต้มสักหน่อย พอช้ำ นำใส่จาน รสชาติหวาน เล็กน้อย อร่อยดี แคชมพู แปลกดี สีออกหวาน ผักพื้นบ้าน หาง่าย หลายหลากสี ปลูกริมรั้ว เสริมค่า บารมี เป็นวิถี ชาวบ้าน แถบชานเมืองแคสีม่วง พวงย้อย ห้อยระย้า สีแปลกตา งามหรู ดูฟูเฟื่อง ต้องแสงส่อง ผ่องงาม อร่ามเรือง มีสืบเนื่อง นานโข แด่โบราณ ดอกแคแสด แสนสวย ด้วยสีสัน ต่างเผ่าพันธุ์ นำมา เป็นอาหาร ทำแกงส้ม ผสมผัก ตักใส่จาน เมนูร้าน อร่อยหนา อย่าบอกใคร ดอกแคนา แคป่า ภาษาถิ่น นำมากิน เป็นอาหาร ทานไม่ไหว แล้วยัดใส่ หมูสับ จับตั้งไฟ รสชาติใหม่ ลองสักหน่อย อร่อยดี
เฒ่าธุลี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ : รพีกาญจน์, ❀ Sasi ❀, ระนาดเอก, กวี ชาว บ้าน, พิกุลแก้ว, คอนพูธน, วรรณดี, พิณจันทร์, พิม วรรณพร, ศิลาสีรุ้ง, masapaer
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
❀ Sasi ❀
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
อรุณรุ่งพรุ่งแจ้งแสงอุษา สกุณาร่อนร่างกางปีกผาย เริงทะยานหาญกล้าอย่างท้าทาย เพียงเดียวดายดั้นด้นผจญไป
ข้ามขุนเขาโขดเขินเหินเวหา ฝ่าแดดกล้าลม,ฝนยังทนไหว แม้เหนื่อยหนักนักสู้ อยู่ด้วยใจ เหนื่อยเพียงไหนบอกกับตัวอย่ากลัวเกรง
มิพับปีกหลีกหลบซบคอนเหย้า ฝึกฝนเฝ้าคว้าไขว่ไม่นอนเขลง อนาคตสดสวยด้วยตนเอง ต้องรีบเร่งรุกรับกับเวลา
ร่างจะลับดับไปเมื่อไหร่แน่ ขอทำแค่วันนี้ให้มีค่า มิรู้พรุ่งรุ่งขึ้นตื่นลืมตา หรือชีวาสลายไร้ตัวตน
สองปีกมั่นวันนี้มีเพียงแต่ ขอดูแลรวงรังหวังเพิ่มผล ถึงล้าแรงแข็งขืนฝืนหยัดทน จำดั้นด้นทรหดกว่าหมดแรง
ตะวันลับดับลาเวหาหาว อุราร้าวเหงาจิตติดตามแฝง ชะตากรรมย้ำเพียรเวียนทิ่มแทง ยากเปลี่ยนแปลงเหงาจางให้ห่างจร
นกจร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
♥ ขอขอบพระคุณทุกภาพจาก Internet & Youtube ค่ะ
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
อรุณรุ่ง เรืองรอง ส่องฟากฟ้า สุริยา อร่าม งามสิงขร สูงตระหง่าน ปานเปรียบ เทียบอำพร พนาดร งามเด่น เห็นแต่ไกล
ข้ามขุนเขา ถัดไป ไกลลิบลัน นกขยับ ปีกบิน สู่ถิ่นไหน ฟ้าเวิ้งว้าง กว้างนัก พักที่ใด แสนห่วงใย เจ้านก ผกโผบิน
มิพับปีก บินไป ถิ่นใดเล่า ผ่านขุนเขา พงไพร ใจถวิล ใจมุ่งหวัง ถิ่นใหม่ ได้หากิน ตราบชีวิน ไม่สิ้น ดิ้นรนไป
ร่างจะลับ หรือไม่ บินไปก่อน ห่างไกลคอน ร่อนเร่ ทะเลใหญ่ ฝ่าเขาสูง ดั้นด้น พ้นพงไพร กำลังใจ มั่นคง ไม่หลงทาง
สองปีกมั่น คำรง พงษ์เผ่าไว้ ด้วยหัวใจ เข้มแข็ง แกร่งเรือนร่าง ทะยานขึ้น เวหา อ้าปีกกาง ไม่เคยห่าง ว้างเว้น ตระเวนไป
ตะวันดับ ลับไป ใจยังกล้า ปีกเมื่อยล้า โผผิน ยังบินไหว อยากโผไป เคียงข้าง ไม่ห่างไกล แต่ฉันไม่ มีปีก จะหลีกบิน
เฒ่าธุลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
...นกในเมือง... แม้นมีปีกโผไปก็ใช่ที่ เขียวขจีทุ่งกว้างนำทางผิน หากแต่เสียงวันนี้ที่ได้ยิน ที่ทำกินแผ้วถางบ้านนางไพร จึงเห็นนกเหินฟ้าลอยอากาศ สาแหรกขาดมิมีที่อาศัย จึงเห็นนกทั้งหลายเกาะสายไฟ ตามเมืองใหญ่ใต้หลังคาหน้าต่างนอน ก็มิได้สุขนักที่พักนั่น สุดจาบัลย์เงื้อไม้มาไล่ถอน เจ้าของบ้านมิให้อาศัยคอน ต้องบินจรเรื่อยไปเข้าในเมือง เคยอยู่ควันหมอกขาวเมื่อดาวตก สว่างปกตะวันก็พลันเหลือง หมอกสีขาวมองไปให้ประเทือง แต่หมอกเขื่อง เหมืองรถยนต์ ช่างหม่นมัว อยากจะกลับทุ่งไพรที่ใหญ่กว้าง กลับเวิ้งว้างทางนั้นพลันสลัว ทั้งรีสอร์ทป่าจองเป็นของตัว มองถ้วนทั่วต้นไม้แทบไม่มี รุ่งทิวาฟ้าสาง...เลือนลางนัก อนุรักษ์ เท่าไหร่เหมือนไล่ผี หายสักพัก มาใหม่ ไร่ผู้ดี หมดวิธี มาไล่ นกไปเอง พิณจันทร์
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
อันมนุษย์ มนา น่าอนาถ ท่านนักปราชญ์ เปรียบไว้ ได้ตรงเผง ทั้งความดี ความชั่ว ตัวทำเอง ไม่กลัวเกรง บาปกรรม ทำย่ามใจ
มนุษย์สะ เทโว โบราณว่า มีกรุณา ปราณี ที่ยิ่งใหญ่ กายมนุษย์ ใจเทวา บุญพาไป ผู้ดีไพร่ ไร้ทุกข์ สุขอุรา
มนุษย์สะ มนุษย์โส ไม่โป้ปด ละเลิกลด งดเว้น ไม่เข่นฆ่า กายมนุษย์ ใจมนุษย์ สุดบูชา มีศีลห้า คุณธรรม ประจำใจ
มนุษย์สะ เปโต โบราณว่า เที่ยวรีดนา ทาเร้น เป็นการใหญ่ กายมนุษย์ ใจเปรต เหตุจัญไร ชอบรีตไถ ไปทั่ว ไม่กลัวกรรม
มนุษย์สะ เดรัจฉาน ปานเยี่ยงสัตว์ ชอบรอบกัด เรื่อยไป ใจถลำ กายมนุษย์ ใจสัตว์ กัดประจำ บาปธรรม กำซาบ อาบดวงใจ
เที่ยวแย้งที่ หากิน ถิ่นไพรรก ฝูงวิหค นกกา ป่าน้อยใหญ่ ถูกถางเลี่ยน เตียนหาย สลายไป หมู่นกไพร ไรคอน นอนกลางกรุง
ชอบแย้งคู่ ตุนาหงัน กันสังวาส แย้งอำนาจ บาตรใหญ่ กันให้ยุ่ง เที่ยวเข่นฆ่า เลือดอาบ คราบคละคลุ้ง เหมือนเหลือบยุง มุ่งร้าย ขายบ้านเมือง
เฒาธุลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
.....สาธุ..... สาธุธรรม วิสาขะ ไหว้พระเถิด สิ่งประเสริฐ ทำไป ให้กระเตื้อง ทำความดี พาชีวิต ให้ประเทือง ดีต่อเนือง ก็เจริญ ดำเนินตน มิเบียดเบียน ผู้อื่น ดาษดื่นสอน สติจร มุ่งมั่น ทุกวันสน ทำความดี เกื้อหนุน จุนเจือคน ญาติพี่น้อง ทุกหน..หมองหม่นแล โบราณท่านกล่าวไว้ในมนุษย์ บริสุทธิ์ แรกเกิด ประเสริฐแน่ หากเติบโตในถิ่นตีนมือแป คงย่ำแย่ทำอะไรก็ไม่เป็น หากแม้นมีมานะถ้าขยัน อยู่ไพรวัลย์อยู่ไหนก็ได้เห็น ความพอเพียงพอดีก็อยู่เย็น กายใจเข็ญเข้าวัดขจัดมาร ถึงวันพระละเว้นประเด็นชัด ห้ามฆ่าสัตว์หากินทุกถิ่นฐาน ห้ามโกหกลักทรัพย์บริวาร ทำบุญทานแบ่งไปเหลือใช้กิน วิสาขะพระใหญ่กราบไหว้เถิด ล้างบาปเกิดทางใจให้หมดสิ้น ต่างชีวิตต่างคนมีมลทิน ทำบุญทานเป็นอาจินต์ทุกถิ่นเทอญ พิณจันทร์ ๓๑ พฤษภาคม ๒๕๕๘
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
มีเจ้าชาย องค์หนึ่ง ซึ้งสูงส่ง เกิดในวงศ์ มั่งคั่ง ดังหงส์เหิน เห็นชนชั้น สูงต่ำ เหลื่อมล้ำเกิน ฝูงชนเมิน คนจน บนเส้นทาง
ทรงสละ บัลลังก์ หวังหาเหตุ เพราะอาเพศ ใดกัน ใครสรรค์สร้าง เทพเจ้า องค์ใด ใครจัดวาง จึงแตกต่าง ห่างชั้น กันเสียจัง
มีเกิดแก่ เจ็บตาย วายสังขาร จึงคิดอ่าน วิธี ที่หยุดยั้ง ไม่ต้องแก่ เจ็บตาย กายผุพัง แล้วจึงนั่ง บริกรรม ธรรมญาณ
ญาณหยั่งรู้ ความจริง สิ่งประเสริฐ ถ้าไม่เกิด ไม่แก่ตาย วายสังขาร สำเร็จเป็น พระพุทธ ชนะมาร จวบนิพพาน ผ่านพ้น จนวันนี้
วิสาขะ บุณณมี ปีกำเนิด ธรรมบังเกิด เจิดจรัส รัศมี จนนิพพาน พ้นผ่าน นานหลายปี จวบพอดี เพ็ญเดือนหก ตกทอดมา
สร้างกุศล ผลบุญ หนุนนำเนื่อง ช่วยประเทือง ความสุข ทุกทั่วหน้า หากชีพวาย กายลับ ดับชีวา บุญนำพา พบสวรรค์ วิมานเมน
เฒ่าธุลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
...สาธุ.... กราบสาธุ ธรรมะ สละปล่อย มิใช่น้อย ลาภยศปรากฏแสน การปล่อยวาง ทุกสิ่ง ละทิ้งแดน สิ่งหวงแหน ไม่มีที่ทุกคน ท่องเที่ยงค้นอัตตาคำว่าสุข ทั้งลองทุกข์ตัวเองข่มเหงหม่น ทั้งอดข้าวอดน้ำ ทรมาณตน หวังหลุดพ้นความทุกข์หาสุขมี แต่ก็หามิเป็นเช่นนั้นไม่ เมื่อจิตใจครุกกรุ่นว้าวุ่นหนี การปล่อยวาง นั่นแท้แลทางดี ในทุกที่มีสุขอยู่ทุกทาง ปฏิบัติตนอย่างไรถึงได้สุข ปล่อยวางทุกข์อย่างไรถึงได้ส่าง พระท่านสอนให้เดินในสายกลาง ทุกทุกอย่างชั่วดีมีมากมาย ความพอดี พอไหว ทำได้นั่น มิบากบั่น เกินไปจนใจหาย รู้จักพอก็งามอร่ามกาย รู้จักอายความชั่วต้องกลัวเกรง กราบสาธุ ครูบาท่านพาเขียน เหมือนได้เรียนธรรมะลดละเก่ง ผิดถูกใดให้เขียนเพียรบรรเลง ขอขอบคุณครูกระเตงตนเองเอย พิณจันทร์ ........ ขอบคุณค่ะ ความรู้เรื่องธรรมนั้นยังห่างไกลแม้อายุอยู่ในวัยเข้าวัดแล้วค่ะ
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
จบสิบนิ้ว ประนม ก้มลงกราบ ฝ่ามือทาบ พึมพำ คำเอื้อนเอ่ย หมอบกราบกราน ด้วยใจ สิ่งใดเคย ล่วงเกินเลย ยกโทษ โปรดปราณี
ชาตินี้ทำ กรรมดี หนีกรรมชั่ว ไม่เกลือกกลั้ว มัวเมา เหล้าบุหรี่ ไม่ฆ่าสัตว์ ตัดชีวิต ปลิดชีวี ก่อกรรมดี เรื่อยมา น่าน้อยใจ
โชคชะตา กลั่นแกล้ง แล้งเหลือหลาย ข้าวแห้งตาย ขาดฝน หล่นลงใส่ คนเคยรัก ภักดี หนีจากไป มีแฟนใหม่ ไกลห่าง รักร้างรา
ลูกคงทำ กรรมไว้ ในชาติก่อน กรรมเก่าย้อน สนอง จ้องผลานพร่า ให้ชีวิต ย่อยยับ อับชะตา วาสนา ตกต่ำ ช้ำชีวี
ขอกุศล ผลกรรม ที่ทำใหม่ ช่วยชดใช้ กรรมเก่า เศร้าหมองศรี จะพรากเพียร เร่งทำ แต่กรรมดี หลบหลีกหนี กรรมชั่ว มั่วอบาย
จบสิบนิ้ว ขึ้นชู อยู่เหนือหัว ไม่เกลือกกลั้ว กรรมขั่ว กลัวเหลือหลาย โปรดเมตตา โอนอ้อน ช่วยผ่อนคลาย สิ่งชั่วร้าย หายไป ไร้ราคี
เฒ่าธุลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
พิณจันทร์
ผู้ดูแลบอร์ด
ออฟไลน์
กระทู้: 1304
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
....ปล่อยวาง.... สาธุธรรมกราบลงหน้าองค์พระ ตั้งมั่นละเลวมั่วความชั่วหนี แม้นเพียงแค่แลเห็นเป็นพาที ดวงฤดีลูกนั้นมุ่งมั่นจร อุบาสิกา คือแม่ ท่านแก่วัด ปฏิบัติใจกายมิถ่ายถอน ใบคุณงามความดี วัดบวร พระท่านสอนแม่ทำงามล้ำเดิน (..ฮ่าๆ ภูมิใจแม่ค่ะ..) แม่ก็ยังมองเห็นลูกเป็นอยู่ ด้วยท่านรู้ลูกนั้นทุกวันเหิน มิได้ใส่บาตรพระน่าจะเมิน นานเหลือเกินเพลินใจมิใส่เลย (..ฮ่าๆ จริงค่ะ..) จึ่งได้ยินคำแม่ดูแลลูก บุญมีปลูกไว้แล้วยังแผ้วเฉย จะรอให้บุญมีหมดที่เกย แล้วจะเอ่ยขอใครจะให้เรา อยากจะได้บุญล้ำจงทำเถิด หากว่าเกิดชาติใหม่ใช้บุญเก่า แม้นมิรู้เกิดไหมก็ได้เนา ทุกข์บรรเทาสุขใจเมื่อได้ทำ ถึงวันพระละบาปมาทาบจิต ใช้ชีวิตปล่อยวางทางระส่ำ รู้ชั่วดี ธรรมะ ลดละกรรม ดีน้อมนำ ล้ำทาง อย่าสร้างเวร พิณจันทร์ ๓ มิถุนายน ๒๕๕๘ *********** พอแล้วค่ะอา จบเหอะ ไม่มีอะไรจะขาย ขายเรื่องตัวเองแล้ว ฮ่าๆ เมื่อนานมาแล้วค่ะ นานมากจริงๆ แม่พิณจันทร์ ท่านเข้าวัดปฏิบัติดี เจ้าคณะอำเภอ(สมัยนั้นนะนานล่ะ) ท่านคัดเลือก แม่กับญาติ ไปวัดบวรกทม.ค่ะ พิณจันทร์ รื้อเก็บบ้านไปเจอใบประกาศค่ะ อำเภอชุมแพ มี ๒ คน(ตอนนั้น)ภูมิใจ แฮ่ะๆ ..แม่จะบอกเสมอว่า ต่ายเอ้ยใส่บารตมั่งเด้อ ...
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
เฒ่าธุลี
นักกลอนผู้เปรียบดั่งเพชร
ออฟไลน์
กระทู้: 905
สมาชิกดีเด่นประจำเดือนนี้..
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: "รุ่งทิวาฟ้าสาง"
คุณแม่ท่าน เตือนถูก นะลูกต่าย บุญมากมาย ในทาน ท่านมองเห็น เพราะอาหาร ข้าวน้ำ นั้นจำเป็น ดับลำเค็ญ ทุกข์ร้อน ให้ผ่อนปรน
ให้เพียงหนึ่ง ได้ถึงห้า อย่ามองผ่าน ให้อาหาร หนึ่งมื้อ คือกุศล ให้อายุ วรรณะ พละพล ให้สุขล้น ปัญญา บารมี
ให้อะไร ได้อย่างนั้น สุขหรรษา พระท่านว่า จะอยู่เย็น เป็นสุขี มีอายุ ยืนนาน ผ่านร้อยปี ผิวพรรณดี มีกำลัง ดังกุญชร
ให้เพียงหนึ่ง ได้ถึงห้า หนาลูกต่าย หากชีพวาย ตายไป ได้สังหรณ์ บุญจะเอื้อ เกื้อหนุน ดังสุนทร อย่าอาวรณ์ ร้อนใจ เราไปดี
จงทำตาม แม่สอน ก่อนจะสาย นะลูกต่าย จิตใจ ใสผ่องศรี ให้ลวงพี่ หลวงพ่อ ต่อชีวี เอื้ออารี มีจิต คิดเมตตา
เมตตาเกิด กลางใจ ใช่ใครสั่ง ดุจขุนคลัง น้ำฝน บนเวหา ไหลรินหลั่ง พรั่งพรู สู่ธารา ทุกชีวา น้อยใหญ่ พึงใบบุญ
เฒ่าธุลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|