เสียงเสนาะเพราะชมฤาข่มเหง
เสียงบรรเลงเพลงพิณหวังจินต์หมาย
เสียงประสมคมเคียวมิเดียวดาย
เสียงขยายชายสองประลองกัน
ฟังคำชายบ่ายหน้าเขามาชิด
ร้อยลิขิตโอ้โลมประโลมฉัน
ฤาเขามองง่ายจินต์ โธ่พิณจันทร์
จ้องฟาดฟันมีดปักเหมือนผักปลา
กระไรเลยชายชาญสำราญยิ่ง
หันมองหญิงน้อยศักดิ์เป็นหนักหนา
ต่างรุมทึ้งถ้อยแสงแสดงมา
คล้ายอยากเห็นราคาน้ำตานาง
แม้นเปรียบจันทร์วันเพ็ญลอยเด่นฟ้า
ถึงเวลาคล้อยมุ่งหลบรุ่งสาง
ทำหน้าที่ของตนเป็นหนทาง
ฟ้าสว่างรุ่งแจ้งสิ้นแสงตน
มิอาจอยู่สู้หน้านภาแฝง
หลบซ่อนเงาสีแสงทุกแห่งหน
มิอาจอยู่คู่ดาวพร่างพราวบน
ตะวันยลแสงส่องเรืองรองเคียง
คงมิกล้าท้าทายตระกายสูง
ถ้อยคำจูง..ล้อมวงหวานส่งเสียง
เมื่อสดับกับดัก..ประจักษ์เพียง
เขามองเมียง ลงขัน พนันใจ
มิสงสารจันทร์น้อยต่ำต้อยหรือ
ถึงยื่นมือยื้อหยันทรวงสั่นไหว
เพียงเด็กน้อยถ้อยศิลป์ดำดินไป
ฤาจะสู้แสงไฟบรรลัยกัลป์
พิณจันทร์
(โอมเพี้ยง!!...ศิษย์ระนาดเอกบ่เคยกลัวใคร อิอิ)
แม่เดือนจิ๋วลิ่วลมผสมศิลป์
ยอดชีวินของข้าอย่าเหหัน
ช่างใจน้อยลอยผ่านม่านตะวัน
ฤาจอมขวัญที่เห็นเป็นภาพลวง
ไฉนมองคำชายแค่ร่ายลิ้น
มิเหลือสิ้นคุณค่าน่าแหนหวง
อันชาตรีมีเล่ห์เสน่ห์ควง
ใช่ทั้งปวงดอกหนาอย่าดูแคลน
ยิ่งตะวันเจิดจ้าท้าทุกสิ่ง
มิเคยทิ้งกลางวันอันหวงแหน
แต่จันทร์เจ้าเหลวไหลไร้ตัวแทน
ชอบวิ่งแจ้นหลบไปในบางคืน
ยิ่งข้างแรมแจ่มจันทร์มิผันผ่อง
ปล่อยชายมองรอเก้อเผลอสะอื้น
ด้วยศักดิ์ศรีตอกย้ำทนกล้ำกลืน
จึงหยัดยืนอยู่ได้ไม่ปลดปลง
แม้คำขานหวานตอบที่มอบให้
เธอก็ไม่หวังพิศคิดประสงค์
มองว่าเป็นกับดักชนักตรง
ไม่ยอมลงมาดูไยวู่วาม
เมื่อกับดักหัวใจไม่ได้ผล
จะไม่ทนต่อไปให้เธอหยาม
ใช้แผนสองรองรับจับนงราม
เผื่อผลงามฉับพลันตามขั้นตอน
ขออย่าใช้น้ำตามาเป็นสื่อ
เพราะนั่นคือไม้ตายหมายหลอกซ่อน
รู้ทันดอกบอกเธออย่าเผลองอน
กลัวใจอ่อนเพราะพิษจริตรัว
เมื่อเห็นพี่เป็นไฟบรรลัยกัปป์
อย่าขยับเข้าใกล้เดี๋ยวไร้หัว
แต่จงเอารักแท้แน่ในตัว
พรมให้ทั่วฤดีจนพี่เย็น
ตะวัน
(เพี้ยงง..ศิษย์ใครไม่สนจะปราบให้เกลี้ยง คิคิ)