คิดถึงเดือน
ยามค่ำคืนยืนจ้องมองเวหา
แต่จันทราหลบไหนไม่มาเห็น
หนาวลมต้องทรวงแปลบแทบกระเด็น
ยังไม่เย็นเท่าใจที่ไร้นวล
อนาถหนาวคราวนี้ไม่มีน้อง
เคยประคองเชยชมเมื่อลมหวน
อดีตหลังครั้งเก่าเฝ้ารัญจวน
ยิ่งทบทวนยิ่งย้ำคำว่า..เธอ
เคยแต่งกลอนอ้อนแอบแนบคำหวาน
หลอมดวงมานเป็นหนึ่งซึ้งเสมอ
เฉกปางบรรพ์ปันใจให้มาเจอ
ดลจิตเพ้อถึงเจ้าเฝ้าดักดาน
เปรียบกระต่ายหมายจันทร์บนชั้นฟ้า
ตราบชีวาสิ้นหวังดังเล่าขาน
ขอน้อมรับถ้อยคำย้ำประจาน
ไม่คัดค้านสักนิดเพราะผิดเอง
คิดถึงเธอทุกคืนยืนมองฟ้า
ห่วงจันทราระทมถูกข่มเหง
ไผ่ต้องลมหวีดหวิวพลิ้วบรรเลง
ดังบทเพลงโศกีทวีคูณ
หยาดน้ำค้างพร่างพรมดุจข่มขวัญ
คนจาบัลย์ให้หนาวคราวสิ้นสูญ
เมื่อผสมน้ำตาความอาดูร
ก็เพิ่มพูนฤทธิ์แรงแห่งอาลัย
โอ้เดือนเพ็ญเด่นดวงบนห้วงหาว
ฤาถึงคราวจากฟ้าเคยอาศัย
คงลืมคนบนดินสิ้นเยื่อใย
จึงจากไปไกลลับมิกลับมา
แต่จะรอคืนเพ็ญเห็นกระจ่าง
โสมสว่างอีกครั้งดังโหยหา
แม้นมิพบจอมขวัญจันทร์สุดา
พี่ขอลานงเยาว์เข้ากองฟอน
ตะวัน
แม้นมิพบจอมขวัญคืนจันทร์แจ่ม
คืนจันทร์แรมใจชายคงถ่ายถอน
แค่เพียงเห็นเสี้ยวจันทร์ ตะวันรอน
ค่ำคืนจรห้องใจแห่งใดกัน
หากแม้นหมายบ่ายหน้ามองหาจิต
เพียงพินิจก็เห็นพิณเพ็ญหัน
แค่หมุนเวียนห้วงฟ้านิทราจันทร์
เพียงตะวันสาดแสงเป็นแรงเงา
ก็จะพบสบน้องลอยล่องเดี่ยว
มิลดเลี้ยวลาลับแลอับเฉา
ขอเศษเสี้ยวส่องทางแม้บางเบา
พอบรรเทาเหน็บหนาวท่ามดาวงาม
ด้วยเป็นเพียงจันทร์หม่นกมลแสง
ส่องแสดงเพียงตนผู้คนหยาม
มิสามารถแวววาววับวาววาม
เคียงอารามดาวสูงรุ้งนภา
จึ่งแต่เพียงคล้อยเคลื่อนอยู่เรือนย่ำ
ยามพลบค่ำลอยอิงท่ามสิงสา
มิอาจมองตะวันสวรรคา
รอเมฆาเปิดทางสว่างมี
ละเลียดล่องไพรแจวเลาะแนวป่า
บางเวลาฟ้าสั่งปิดบังหนี
บางกลุ่มเมฆปกหนารุมราวี
กอดฤดีหนาวสั่น ตะวันเมิน
พิณจันทร์
(ขอบคุณภาพจากอินเตอร์เน็ตค่ะ)