บุหลันแดนดิน
ไกลสุดฟากฝั่งโพ้น........โพยมพราย
พบแต่ความเดียวดาย.....เปลี่ยวร้าง
เดือนลอยเด่นดาวราย.....ดารดาษ
หากแต่อกอ้างว้าง..........ห่างเจ้าจันทร์ฉาย
จึงมืดมนหม่นแม้............คืนเพ็ญ
สุดข่มร้อนให้เย็น............ฉ่ำได้
คอยโสมส่องเรืองเป็น.........ดวงก่ำ
ประดับกลางทรวงให้........สว่างล้ำค้ำขวัญ
เพื่อดับเพลิงคุไหม้............ในทรวง
แสงเยือกเย็นแห่งดวง........ศศิล้อม
หากยลพจน์ร่ายทวง.........ความสู่
วานอย่าลอยดวงอ้อม.......แอบเร้นหลืบสวรรค์
ข้าฯกรองคำประพันธ์กำนัลฝาก
กลั่นมาจากแรงฤทธิ์ความคิดถึง
รวมด้วยความเสน่หาอันตราตรึง
แห่งก้นบึ้งดวงใจสื่อให้รู้
ว่าแม้ทั่วแผ่นดินทุกถิ่นที่
พบนารีมากนามก็งามอยู่
แต่มิหมายใครอื่นมาชื่นชู
สองตานี้พิศดูเจ้าผู้เดียว
จึงสำทับขับขานบรรสานสร้อย
ส่งมาร้อยรวบดึงคล้องขึงเหนี่ยว
ภพนี้มิได้หมายจะคลายเกลียว
หรือแลเหลียวผู้ใดครองใจเลย
ข้าฯฟั่นสายใยสวาทบ่วงบาศนี้
เป็นไมตรีถักทอ ออเจ้าเอ๋ย
ด้วยความรักงดงามต่อทรามเชย
ขอจงอย่าเมินเฉย ช่วยเผยนัย
จักตอบถ้อยร้อยต่อ ฤาขอตัด
ก็จงชัดเจนจิตคิดไฉน
อย่าเก็บงำวาจาค้างคาใจ
จนพะวงสงสัยเช่นไรกัน
ด้วยว่าพร้อมยอมพลีแล้วชีวิต
แม้มิคิดหลอมรวมร้อยร่วมฝัน
ก็ให้อกแตกตายวอดวายพลัน
ดีกว่าต้องไหวหวั่นทุกวันคืน
คล้อยค่ำแล้วดาวดับเดือนอับแสง
ลอยแอบแฝงนภางค์ไปทางอื่น
อกใจเอยหม่นช้ำทนกล้ำกลืน
แม้ดึกดื่นตื่นตาผวาคอย
เจ้าเอยหลงดงใจของใครเล่า
ทิ้งพี่ให้ใฝ่เฝ้าอย่างเหงาหงอย
ความคิดถึงฟุ้งฟ่องจนล่องลอย
ห่วงละห้อยคอยหาพะว้าพะวง
หมายร่วมเรียงเคียงใจกระไรหนอ
เฝ้าสานทอวจนะแจงประสงค์
มิได้เคยแฝงเลศเจตจำนง
เปิดเผยอย่างซื่อตรงด้วยปลงใจ
สาวบ้านสวนทวนความเถิดยามนี้
มิหมายมีจันทราที่ฟ้าไหน
เพียงบุหลันแดนดินในถิ่นไพร
ที่หมายใจผูกพันนิรันดร
มนต์คำ (ไพร..)
ที่มา
http://pagysunthon.blogspot.com/