|
|
|
|
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๑- ธนุ เสนสิงห์ ๏ แม้กลางใจคล้ายมีนารีหนึ่ง ที่ฝันถึงคะนึงหามิห่างหาย เป็นจอมนางกลางราตรีมิมีกลาย แต่ยามสายตื่นนิทราเอกาองค์
๏ ธรรมชาติมิอาจห้ามความปรารถนา เฝ้าฝันหาคู่ครองปองประสงค์ เนิ่นนานวันฉันใดไม่พะวง รักษ์ดำรงราชกิจมิคิดตรม
๏ บุบเพสันนิวาสมิคลาดแคล้ว คู่กันแล้วได้ชื่นชู้ร่วมสู่สม แม้ร้อนรุ่มด้วยรักหักอารมณ์ รอพระพรหมอุ้มชูคู่เคียงกาย
๏ วันหนึ่งมีสี่พราหมณ์ตามมาพบ หลังนอบนบทูลคดีมีความหมาย “ทั่วชมพูทวีปนี้มีหญิงชาย อยู่มากหลายคู่ตรงสมพงศ์กัน
๏ แต่ที่เน้นเป็นหนึ่ง ณ กาลนี้ บารมีเกณฑ์ชะตามาคู่ขวัญ กับพระองค์ซื่อตรงรักศักดิ์อนันต์ บุญร่วมสร้างแต่ปางบรรพ์ยังมั่นคง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๒- สมุทรโฆษคำกลอน
๏ พระนาม “พินทุมดี” นารีรัตน์ ราชธิดากษัตริย์ศักดิ์สูงส่ง คือ “สีหนรคุปต์” เดชดำรง และอนงค์ “กนกวดีราชินี”
๏ แห่ง “รมยนคร” อมรสรรค์ หลงปองกันมากชายหลายกรุงศรี พระบิดาหวงแหนแม้นฤดี ยากจะมีชายใดได้เมียงมอง”
๏“สมุทรโฆษ”ฟังคำพราหมณ์พร่ำว่า พลอยอุราเคลิ้มไปฤทัยข้อง แม้สัจจาว่าควรคู่อยู่เคียงครอง จะสมปองดังนั้นได้ฉันใด
๏ อันบุพเพสันนิวาสนั้นมาตรแม้น อยู่ไกลแสนมาประจักษ์รักกันได้ ถึงว่าน้องนวลนางอยู่วังใน ปิตุรงค์คงมิให้ใครพบพักตร์
๏ แม้นเคยอยู่เป็นคู่สร้างแต่ปางหลัง พี่ก็หวังใจหมายได้รู้จัก เพื่อเอ่ยคำพร่ำเฉลยเผยความรัก มั่นใจนักมินานนี้คงมีทาง
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๓- ธนุ เสนสิงห์ ๏ สนทนาวิสาสะกะเหล่าพราหมณ์ ทั้งสอบถามความเป็นไปหลากหลายอย่าง สิ่งประสงค์สื่อตรงคำมิอำพราง พร้อมสรรค์สร้างสัมพันธ์สมานใจ
๏ แล้วมอบทรัพย์ให้พราหมณ์ตามเหมาะสม พระอารมณ์แต่นั้นเริ่มหวั่นไหว ได้พบพักตร์รักมั่นกันอย่างไร ช่องทางไหนไม่ขุ่นจิตปิตุรงค์
๏ แม้ความหวังยังเลือนรางห่างไกลนัก เชื่อว่ารักจักได้ชมสมประสงค์ เมื่อบุญสร้างแต่ปางบรรพ์ยังมั่นคง ในจำนงมิมีท้อเฝ้ารอวัน
๏ จนวันหนึ่งถึงคราที่มีราชกิจ ซึ่งเฝ้าคิดอยู่ในความใฝ่ฝัน การเดินทางคล้องช้างเผือกสำคัญ อย่างราชันร่วมพระวงศ์องค์ก่อนมา
๏ ครั้นราชครูผู้รู้ทางด้านช้างสาร นำศิษย์พรานผู้ท่องไปอยู่ในป่า กลับเข้าเฝ้าเล่าความตามคชา ต้องตำราคชลักษณ์ประจักษ์แล้ว
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๔- สมุทรโฆษคำกลอน ๏“กระหม่อมฉันนั้นล่วงไปในป่าลึก ด้วยสำนึกเดินทางหาช้างแก้ว ลักษณะประเสริฐงามเพริศแพร้ว อย่างแน่แน่วใช้เวลามานับปี
๏ เมื่อเข้าไปในหุบเขาลำเนาหนึ่ง ต้องตะลึงแลนิเวศเขตไพรศรี ต่างทั่วไปได้พบมาพนาลี แดนนั้นมีสระใหญ่ไกลสุดตา
๏ รอบสระมีสีสันมากพรรณไม้ ชูดอกใบสลับกับผืนหญ้า สารพัดสัตว์อยู่คละเหลือคณนา พบคชาโขลงใหญ่วิไลลักษณ์
๏ สารเศวตรมงคลวิมลพรรณ เห็นครบครันสง่างามต้องตามหลัก ค่าควรเมืองคู่บารมีศรีสุภัค ดีใจนักรีบมาเข้าเฝ้าทูลความ”
๏“สมุทรโฆษ”โปรดปรานคำบรรยาย สิ่งสงสัยทั้งหลายได้ไต่ถาม ปรึกษาผู้เป็นครูหมอขอฤกษ์ยาม อันเหมาะงามโอกาสประพาสไพร
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๕- ธนุ เสนสิงห์
๏ จึงครูหมอตอบข้อถามตามนัยยะ “วัสสานะใกล้เข้ามาช้ามิได้ อุปสรรคหนักหนาถ้าแม้นไป ยามทั่วในวนาธารานอง”
๏ เมื่อได้ความตามพระราชประสงค์ ขึ้นเฝ้าองค์พระบิดาหาขัดข้อง ด้วยเป็นราชประเพณีมีครรลอง คือยุวกษัตริย์ต้องคล้องคชา
๏ แนะนำการ “อันจะไปในป่ากว้าง เพื่อคล้องช้างเผือกงามล้ำเลอค่า ต้องพร้อมพรั่งทั้งพหลพลโยธา แลช้างศึกอันฝึกมาได้การดี
๏ ตามครรลองของผู้เป็นครูหมอ ศึกษาข้ออันควรให้ถ้วนถี่ การทั้งผองพึงให้ต้องตามพิธี อันเคยมีตรงตำราอย่าบิดเบือน”
๏ “องค์พินทุทัต-พระนางเทพยธิดา” ต่างรู้ว่าอันตรายในแดนเถื่อน การคล้องช้างร้างแรมไกลไปเป็นเดือน จึงพร่ำเตือนความทั้งปวงที่ห่วงใย
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๖- สมุทรโฆษคำกลอน ๏ แลรู้พระราชบุตร “สมุทรโฆษ” นั้นทรงโปรดการคชากว่าสิ่งไหน ละข้อขัดตัดขุ่นข้องหมองฤทัย ทรงอำนวยอวยพรชัยพ้นภัยพาล
๏ กราบลาองค์ปิตุรงค์มาตุราช แล้วลีลาศคืนพระราชฐาน กิจทั้งหลายบัญชาให้ได้เตรียมการ ตามแผนงานทรงย้ำสำคัญนัก
๏ บัญชาเร่งเคร่งครัดจัดทหาร ตามโบราณประเพณีเคยมีหลัก เมื่อตรวจแลแน่ใจได้พร้อมพรัก กำหนดชักธงชัยไปป่าชัฏ
๏ มีทุกกองโยธามาครบถ้วน เรียงกระบวนแห่แหนแน่นขนัด พร้อมอาวุธยุทธนาสารพัด มุ่งพิกัติแดนดงตามพรานนำทาง
๏ โดยพระองค์ทรงคชสารศึก ที่หาญฮึกสูงสง่าคราเยื้องย่าง สองงางอนเงยงามอยู่ท่ามกลาง อีกร้อยช้างมุ่งหน้าวนาลี
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
Re: สมุทรโฆษคำกลอน
-๑๗- ธนุ เสนสิงห์ ๏ รอนแรมไปในพนาพาสุขสันต์ ชมพฤกษ์พรรณน้อยใหญ่กลางไพรศรี ท้องสินธู ปู ปลาบรรดามี ใต้เมฆีทิชากรร่อนเล่นลม
๏ เหล่าลิงค่างบ่างชะนีที่ยอดไม้ โหนแล่นไล่น่าสนุกมีสุขสม เห็นพลไกรไม่นำพาเป็นอารมณ์ ต่างกวางป่าตาคมเตลิดไกล
๏พวกสัตว์ใหญ่ไวต่อเสียงรีบเลี่ยงถอย พบแต่รอยร่างเร้นหาเห็นไม่ มวลพฤกษามาลีล้วนพิไล แลเพลินใจไปพลางกลางพงพี
๏ เมื่อถึงยามสุริยนสนธยา สร้างพลับพลาประทับร่ายไปทุกที่ ทรงแรมรอนนอนพนาหลายราตรี บรรลุถึงซึ่งนทีชโลทร
๏ ณ แดนนี้มีนานาพฤกษชาติ จตุบาทเซ็งแซ่แลสลอน ทวิชาติกินมัจฉากลางสาคร โผผินร่อนเริงนภาช่างน่าชม
|
|
|
บันทึกการเข้า
|
|
|
|
|