★<< ฝันร้าย >>★
คืนวิเวก เมฆมิด ปิดเวหา
แสงจันทรา สาดส่อง ต้องไม่ถึง
ความมืดมน ยลเย้า เข้าดูดดึง
เห็นใครหนึ่ง เดินเปลี่ยว อยู่เดียวดาย
แอบย่องทาง ข้างรั้ว ที่มัวหม่น
หันหาคน ก็ไร้ น่าใจหาย
แว่ววังเวง เวิ้งว้าง สุดบรรยาย
แทบวางวาย ในจิต เร่งคิดเรา..
เห็นกายคล้ำ ดำสี ราวปีศาจ
เหวี่ยงขวานฟาด ไล่ฟัน หั่นโคนเสา
แลสังเกต เหตุไฉน จึงไร้เงา
ฤา..ว่าเขา คือผี ที่น่ากลัว
ต้องรีบเผ่น เร้นลับ กลับก่อนเถิด
สุดแรงเกิด ก้าวย่าง ทางสลัว
จังหวะชีพ บีบเค้น ใจเต้นรัว
สุดมืดมัว หมายกลบ หลบทางใด
แสนเหน็ดเหนื่อย เมื่อยล้า ขาเริ่มอ่อน
จึงก้มซ่อน พรางตัว ด้วยหัวใส
หลบข้างทาง อย่างระวัง หวังรอดไป
เหงื่อรินไหล ทั่วร่าง พลางร้อนรน
เหลียวซ้ายขวา หน้าหลัง ระวังจ้อง
แต่แล้วต้อง ตาเหลือก กระเสือกสน
โผล่ตรงหน้า ฆ่าเรา เข้ามุมจน
จะสับป่น มลายลับ ดับลงพลัน
สะดุ้งตื่น ฟื้นบนเตียง ด้วยเสียงร้อง
ใบหน้าฟ้อง ว่าตกใจ เรื่องในฝัน
รุ่งอรุณ อุ่นไอผ่อง ของตะวัน
กอดแม่นั้น ดั่งรับขวัญ..เจ้านวลเอย
ฝันร้ายอ่ะ..น่ากลัวสุดๆเลยค่ะ
หนึ่งโสม
๑๕.๑๒.๒๕๕๖
ด้วยคืนนั้น ฝันไป ในห้วงหาว
หมู่เดือนดาว จรัสแสง ดั่งแกล้งเผย
หนึ่งจันทร์เด่น ดวงเดียว เหลียวมองเลย
นั่งเขนย ดาวหนุน อบอุ่นใจ
เชยชมดาว สกาวเดือน เคลื่อนจิตสู่
ภวังค์ลู่ อารมณ์เอน เห็นแสงใส
รู้สึกคล้าย ลอยล่อง ท่องแดนไกล
ถึงบ้านใหญ่ เสามาก หลากประตู
เสียงกรีดร้อง น้องสาว คราววัยรุ่น
พี่ฟังลุ้น เสียงแผ่ว เข้าแก้วหู
รีบเดินหน้า เร็วรุด ฉุดพธู
เบิ่งตาดู ผีไร้เงา บั่นเสาเรือน
บ้านก็เอียง เสียงกรี๊ด ดังหวีดลั่น
ยินเสียงสั่น หลีกเร้น เคล้นเสียงเหมือน
นั่นหนึ่งโสม โฉมพี่ แม่หนีเฮือน
วิ่งเป็นเพื่อน ไหมเล่า จั่นเจาเอง