ในอ้อมกอด
๏ ในอ้อมกอดของพี่เคยมีเจ้า
รสสัมผัสรุมเร้าเสน่หา
รอยละมุนอุ่นเหลือเมื่อสบตา
สองเราชื่นชีวา นิทรากัน
๏ หรือในอ้อม กอดพี่คนดีเบื่อ
จึงไม่เหลือ หนทางสู่สวรรค์
นวลเนื้อนางหอมเหมือนกระแจะจันทร์
กลิ่นนางยังผูกพัน แม้ปันใจ
๏ ขาดเจ้าไป ใจพี่สุดกำสรวล
กลิ่นแก้มเจ้าเนื้อนวล ชวนฝันใฝ่
อ้อมแขนเขากอดเจ้า อยู่หนแห่งใด
โปรดกลับมาอยู่ใน อ้อมแขนพี่
๏ ในอ้อมกอดของพี่ ยินดีต้อนรับ
คอยเจ้ากลับ มาอีกอย่าหลีกหนี
อกของใครไหนเล่าเท่าพี่มี
รักในอ้อมกอดนี้ พร้อมพลีเอย ๚ะ๛
91
เมื่อ: 07 มกราคม, 2567, 10:50:36 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม | ||
92
เมื่อ: 06 มกราคม, 2567, 04:01:05 PM
|
||
เริ่มโดย เจ๋งแจ๋วสุดจ๊าป - กระทู้ล่าสุด โดย เจ๋งแจ๋วสุดจ๊าป | ||
ชมไม้งาม
ดอกไม้ปลิวพริ้วไหว บ้างเรียวไผ่ไหวไปมา สวัสดีทุกท่านครับ ผมชื่อเจ๋งแจ๋วเป็นสมาชิกใหม่ของเว็บไซต์ครับ ผมพึ่งหัดแต่งกลอนและกาพย์ยานีครับ หากมีที่ใดสมควรติสามารถบอกได้เลยครับ ผมจะนำไปปรับปรุงและพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น ขอบคุณและสวัสดีทุกท่านที่เข้ามาอ่านครับ ขอบคุณครับอิงอยู่เรือนน้ำชา สอดสายตามองป่าไม้ เพลินกับบรรยากาศ ธรรมชาติอันกว้างใหญ่ เหลี่ยวมองท้องฟ้าไกล เมฆก้อนใหญ่ช่างงามตา สวนดอกไม้ประดับ ดูน่าจับอยากค้นหา ไม้ดอกสีนานา มองด้วยตาช่างโสภี จัดอยู่ในกระถาง ตั้งเรียงวางเป็นอย่างดี บุหงาก็ต้องมี ใส่เติมสีที่สดใส พูดถึงภูมิปัญญา กำแพงป่าคือเรื่องใหม่ ช่วยกันปลูกไม้ใหม่ เพื่อให้ได้เขื่อนกั้นดิน แลดูธรรมชาติ พฤษชาติน่าถวิล สายน้ำที่ไหลริน กับเสียงพิณไพเราะหู แนะให้ได้รู้จัก เอกลักษณ์ควรเชิดชู อยากชวนท่านลองดู หันตาหูแลไม้ไทย ช่างสวยและสง่า มีคุณค่าต่อหัวใจ สักครั้งหนึ่งควรได้ ปลูกไม้ไทยไว้แลดู |
93
เมื่อ: 06 มกราคม, 2567, 03:10:23 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
ภัททวิราชฉันท์ ๒๑ (ลหุ ๘ คำ)
@ ความรู้ มุลุครัน...มิผัน ฤ ท้อ ถอนถอย มั่นมุ่ง จะมิคอย.......พลัง สวรรค์ดล @ ความรู้ สติด้วย...สิช่วย ประเจิด เกิดผล ปัญญา ปะทะกล.....กิเลส ทลายพลัน |
94
เมื่อ: 06 มกราคม, 2567, 07:25:39 AM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
ตนุมัชฌาฉันท์ ๖
@ เมตตา ระอุ โอบเอื้อ ก่อเกื้อ พละ รังสรรค์ "แตกต่าง" มุละ กีดกัน เที่ยงธรรม์ ทมะ จริงใจ @ เมตตา สละ ซึ่งตน จึ่งดล ธุระ "รับใช้" เก็บกวาด ขยะ ทุกข์ภัย สังคม วิไล เลิศพลัน |
95
เมื่อ: 05 มกราคม, 2567, 06:27:25 PM
|
||
เริ่มโดย โซ...เซอะเซอ - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
ปีใหม่ ๒๕๖๗
@ ปีใหม่แน่วแน่ เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ นี่แลเป้าประสงค์ ใช้ชีพยังประโยชน์ ขจัดโกรธโลภหลง ปฏิบัติสัจตรง ดำรง"ให้อภัย" กาพย์ สุรางคนางค์ ๒๘ |
96
เมื่อ: 05 มกราคม, 2567, 06:25:32 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
@ เธอ ผู้เป็น ที่รัก รับรู้ด้วย เธอ ไม่ม้วย มอดไป จากใจฉัน เธอ แท้คือ ทุกกาล ปราณชีวัน เธอ อย่าตัด "ใยรัก"นั้น ฉัน! หวังจริง |
97
เมื่อ: 05 มกราคม, 2567, 01:46:25 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
สังเกต : ที่มาของ
ละอออินทร์ฉันท์ ๒๑ คค คค ลคค ลค ลค ลคค คลคค ลคค การส่ง-รับสัมผัส ระหว่างบท จึงสมควรเป็นดังนี้ ครับ @ เที่ยงธรรม นำหล้า ลุฝ่าพาล สลัดสิ"กู" มุรู้ฉาน ลดผยองมาน ทลายพลัน @ เที่ยงธรรม ธงชัย ไสวครัน มุมั่น ลุรัก สิสร้างสรรค์ สันติสุขธรรม์ สงบจริง |
98
เมื่อ: 05 มกราคม, 2567, 01:45:14 PM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
มาลินี ๑๕
# ล ล ล ล ล ล ค ค ค ล ค ค ล ค ค # กษณะนค(ะ)ร(ะ)ร้าว ฉาน กลุ่ม จะก่อการ ก็ชุมนุม # พล(ะ)คณะก็ปะปลาย กุมภ์ พ่าง พระเพลิงสุม ผกายแสง กถาจรดปกาศิต (สามแพร่งชีวิตคำฉันท์) : คมทวน คันธนู สัทธรา ๒๑ ค ค ค ค ล ค ค ล ล ล ล ล ล ค ค ล ค ค ล ค ค # แตกร้าวกร้าวร้าย ก็ป้ายปาม ลุวร(ะ) บิด(ะ)ร(ะ)ลาม ทีละน้อยตาม ณ เหตุผล # ฟั่นเฝือเชื่อนัย ดนัยตน นฤวิเคราะ ห(ะ)เสาะสน สืบจะหมองมล เพราะหมายใด (จาก สามัคคีเภทคำฉันท์ ของ ชิต บุรทัต) |
99
เมื่อ: 04 มกราคม, 2567, 10:20:21 PM
|
||
เริ่มโดย ผู้เฒ่า..โง่งม - กระทู้ล่าสุด โดย ผู้เฒ่า..โง่งม | ||
ตัดใจไม่มาหา
๏ รู้ดีว่าอยู่ใกล้ หัวใจต้องรัก ฉันกลัวจะอกหัก กลัวรักเก้อ ตัดใจไม่อยากพบ หลบหน้าเธอ กลัวเพ้อเจ้องมงาย วุ่นวายอารมณ์ ๏ เพราะเธอสวย แสนดีและเพียบพร้อม ควรค่าแก่การถนอมให้เหมาะสม เกิดมามีความสุข ไร้ทุกข์ตรม หวังชื่นชมสมเพชเวทนา ๏ เหมือนกามี ศักดิ์ด้อยดูต้อยต่ำ มิอาจบินล่วงล้ำ เขตแดนฟ้า เคยเจ็บซับ เจ็บซ้อนซ่อนน้ำตา กินนอนหวาดผวา น้ำตาร่วงกราว ๏ สุดซาบซึ้งน้ำใจ หาใครเสมือน ที่ติดตามเยี่ยมเยือน คอยถามข่าว เจียมตัวไม่ กล้าคอยเอื้อมสอยดาว โปรดหยุดอย่าเปื้อนคาว ของเศษคน ๚ะ๛ |
100
เมื่อ: 04 มกราคม, 2567, 02:23:49 AM
|
||
เริ่มโดย share - กระทู้ล่าสุด โดย share | ||
@ ริเริ่มฉันท์ใหม่ ไสวร้อยกรอง
กวีลำพอง คะนองกว้างไกล @ ผลิดอกออกผล สิดลจากใจ ประโยชน์ชนได้ มิท้อฤๅถอย @ "ระทม"ขมขื่น ระรื่นเลื่อนลอย สิสุขชนคอย ผลิพลันสรรค์จริง สังเกต :- ฉันท์นี้ ต้องแต่ง อย่างน้อย ๓ บท จึงจะ แตกต่าง จาก เปษณนาทฉันท์ ๑๖ ๐ ณ ยามสายัณห์ตะวันย้อยต่ำ เถอะเร่งเท้าตำจะค่ำแล้วหนอ ตะแล้กแต้กแต้กจะแหลกแล้วพ่อ กระด้งเขารอจะขอรับไป ๐ บุรุษรอทีสตรีเร่งเท้า บุรุษยั่วเย้ากระเซ้าเสียงใส กระเดื่องตำข้าวก็กราวเสียงไกล สนุกน้ำใจสมัยราตรี ฉันท์โซ เซอะเซอ รวม ๔ บท นำมาจัดเรียงแบบ เปษณนาทฉันท์ โปรดสังเกต เปรียบเทียบการ ส่ง-รับสัมผัส ระหว่างบท ครับ @ อรุณเบิกฟ้าชะช้าจำนง.....แบะท่าตั้งธงกุเรื่องรังแก @ ลุแก่อำนาจวิวาทงอแง......ติชั่วทั่วแชร์กระแสช่วงชิง @ มิอายสายตาเกาะฟ้าดั่งปลิง..เปรอะเลื่อนเปื้อนจริงละทิ้งหลักการ @ วิกฤตกลางกรุงสิยุ่งยาวนาน..วิบัติคืบคลานปะทุเปลี่ยนแปลง |