ขอยกคำประพันธ์ที่สอนเกี่ยวกับเทคนิคการเขียนกลอน ของพี่ระนาดเอกมาไว้ตรงนี้อีกครั้ง ท่านศิลาได้รวมไว้ให้ จะได้ค้นได้ง่าย และเรียนรู้ให้เข้าใจยิ่งขึ้นนะคะ เปิดอ่านเทียบกันไปนะคะจะได้รู้ชัดรู้แจ้ง
ห้องเรียนรู้คำประพันธ์ "เทคนิคการเขียนกลอน ๖ บทครับ?" "~"ระวัง.."เสียงท้ายวรรคสอง กันให้ดีนะครับ?"~ ~"เคล็ดลับการเขียนกลอนสุภาพ?"~ ~"ระวัง.."คำสัมผัสเลือน" และ "คำชิงสัมผัส"นะจ๊ะ..น้องรัก?"~ ~"ระวัง..คำรับสัมผัสที่.."ต่างรูป"..กันนะจ๊ะ..น้องรัก?"~ ~ระวังคำ"สัมผัสซ้ำ"กันนะจ๊ะ..น้องรัก?~ ~"ไม้ไต่คู้..ตัวจู้จี้(จุกจิก)?"~ อีกสำนวนนี้ ก็เขียนนานแล้วค่ะ อ่านผาดๆดูค่อนข้างสมบูรณ์ แต่ก็มีคนให้คำแนะนำมาเรื่องชิงสัมผัส
ตรงนี้เป็นจุดเล็ก ๆ และอนุโลมค่อนข้างมาก แต่ก็นะ เพื่อความแม่นยำ และมีกลอนที่หนักแน่นทางฉันทลักษณ์ ก็มาดูกัน
~เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์~
ปรารถนาของใจยิ่งใหญ่นัก
จึงทึกทักเก็บไว้ให้ค้นหา
รับความรักพักใจไว้เยียวยา
หรือกระชากลากคว้าพาหลงทาง
ลมคือลมพรมไหวไปตามทิศ
แต่ดวงจิตเอนไหวไปอีกอย่าง
ตามกระแสหัวใจไหลนอกราง
ใจอ่อนบางช่างไหวละม้ายลม
หลงคารมชมใครใจเผยอ
คนอย่างฉันฝันเพ้อเผลอติดหล่ม
หลงกลางดงห้วงใจให้ระทม
คล้ายใกล้จมความคิดหลงทิศใจ
ตามแรงหวังของใจในส่วนลึก
เก็บผนึกความฝันอันยิ่งใหญ่
เปิดตำนานรักร้าวที่ยาวไกล
หรือสุขดั่งวาดไว้ใครประกัน
สิ่งสมมติจากฝันอันบรรเจิด
จินต์เตลิดหลงไปในความฝัน
เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์
ไม่มีวันเป็นจริงสิ่งต้องการ
ดั่งก้อนเมฆชิดฟ้าพายุใกล้
อาจเป็นได้เพียงอยู่คู่ขนาน
รับรู้ภาพกลิ่นเสียงเพียงพบพาน
จะสมมานฉันใด...ไกลความจริง
ชิงสัมผัส ในแบบแผน ส่วนมากจะปรากฏในวรรครับ และวรรครอง (วรรคที่สองและสาม)ถ้าเขียนบ่อยอ่านบ่อยจะมองเห็นง่ายมาก
กลอนสำนวนนี้มีคนแนะนำว่า มันมีการชิงสัมผัสดังนี้
มันคือการชิงสัมผัสก่อนวรรคที่สอง คือ ชิงมาแต่วรรคแรกเลย ( เยอะมาก) แต่ก็ได้คำกระจ่างจากครูแล้วว่าอาจจะไม่ถือเป็นคำชิงสัมผัสก็ได้ หรืออาจจะถือก็ได้ ไม่ค่อยเอามาเป็นประเด็น แต่การหลีกเลี่ยงคำได้ ก็ถือเป็นความสามารถการใช้ภาษาที่มีมาก บ่งบอกถึงประสบการณ์ ความตั้งใจ หรือความเก๋าของคนเขียนประมาณนั้น
~เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์~
สดับ : ปรารถนาของใจยิ่งใหญ่นัก
รับ : จึงทึกทักเก็บไว้ให้ค้นหา
รอง : รับความรักพักใจไว้เยียวยา
ส่ง : หรือกระชากลากคว้าพาหลงทาง
ลมคือลมพรมไหวไปตามทิศ
แต่ดวงจิตเอนไหวไปอีกอย่าง
ตามกระแสหัวใจไหลนอกราง
ใจอ่อนบางช่างไหวละม้ายลม
หลงคารมชมใครใจเผยอ ( มีคนให้คำแนะนำดาวมาว่า มันคือการชิงสัมผัส มาก่อนคำว่า "หล่ม" ท้าย
วรรคสองค่ะ แต่ได้มีครู อธิบายแล้วว่า ไม่ถือเป็นประเด็น )
คนอย่างฉันฝันเพ้อเผลอติดหล่ม (ถ้า มาอยู่วรรคสองหรือสามนี่ ตัดคะแนนทันทีไม่
พิจารณามากเพราะข้อห้ามบอกไว้ชัดเจน)
หลงกลางดงห้วงใจให้ระทม
คล้ายใกล้จมความคิดหลงทิศใจ
ตามแรงหวังของใจในส่วนลึก (วรรคส่งข้างบนลงท้าย "ใจ" ยังไม่วรรคสอง "ใจ" ก็มาซ้ำแถมมาชิง
เบา คำว่า "ใหญ่" ท้ายวรรคสอง อีก)
เก็บผนึกความฝันอันยิ่ง ใหญ่
เปิดตำนานรักร้าวที่ยาวไกล
หรือสุขดั่งวาดไว้ใครประกัน
สิ่งสมมติจากฝันอันบรรเจิด
จินต์เตลิดหลงไปในความ ฝัน
เป็นเพียงความอ่อนไหวไปนิรันดร์
ไม่มีวันเป็นจริงสิ่งต้องการ
ดั่งก้อนเมฆชิดฟ้าพายุใกล้
อาจเป็นได้เพียงอยู่คู่ขนาน
รับรู้ภาพกลิ่นเสียงเพียงพบพาน
จะสมมานฉันใด...ไกลความจริง หลายจุดใช่ไหมหล่ะ กลอนสำนวนนี้ไม่เรียกว่ากลอนเสียหายนะคะ (อันนี้ครูบอก) แต่ถ้ามีคนแนะนำมาแบบนี้คือมันก็น่าคิด ถึงบางท่านอาจไม่มองเป็นประเด็น แต่บางท่านอาจมอง อันนี้ก็แล้วแต่ ถึงอย่างไรก็ดี ถึงในการส่งเข้าประกวดกรรมการบางท่านอาจจะไม่เอามาลบคะแนน แต่เมื่อเรารู้แล้วหลีกเลี่ยงไปเถอะถ้าทำได้เมื่อส่งประกวด
แต่เขียนบำบัดอารมณ์เอาผ่อนคลายก็อย่าซีเรียสมากนักนะคะ ดาวเองก็มีหลุด ๆ และความสามารถก็ได้เท่านี้จริง สิ่งที่อยู่ในใจเรามันมากกว่าคำที่ใช้ มันก็จำเป็นต้องมีคำเดิม ๆ ซ้ำไปมาบ้างหล่ะ
คงเป็นประโยชน์บ้าง ผิดพลาดประการใด ช่วยหลังไมค์บอกด้วบ ขอบพระคุณค่ะ