ตั้งนะโมเร็วไวด้วยใจหวั่น
พินิจพลันทันที..นี่เกสา
มันไม่เที่ยงเพียงน้อยด้อยโสภา
อีกโลมาก็ชัดอนัตต์ครอง
พร้อมนขาอย่าเห็นเป็นสิ่งสวย
ทันโตด้วยยิ่งเหม็นเห็นสยอง
ตะโจหนังอีกเล่าเน่าเป็นกอง
ล้วนแต่ของสมมุติคอยฉุดดึง
ให้ดวงจิตติดหลงดงตัณหา
อวิชชาครอบงำกระหน่ำขึง
มิให้พบมรรคาอันตราตรึง
เพื่อเข้าถึงแดนทิพย์พระนิพพาน
นี่คือเคล็ดจอมยุทธ์สุดร้ายกาจ
หากสามารถรวมจิตประสิทธิ์ขาน
ปราบนารีทั่วทิศพิชิตมาร
ข้ามสังสารยุทธภพ..จบกิจเอย ฯะ
..พรานไพร..
(ขอแจมด้วยนะท่านจอมยุทธ์ทั้งหลาย..)ขอน้อมจิตน้อมใจใสพิสุทธิ์
รีบเร่งรุดคุณงามความพี่เอ่ย
เอาตามแบบพุทธะละเสียเลย
ตัวตนเคยถือไว้ก็ให้วาง
งามเกศาดำขลับรับแสงส่อง
ก็ขาวผ่องโพลนไปในทุกอย่าง
โลมาที่เคยยาวและเบาบาง
เริ่มร่วงตามรายทางแห่งกาลเวียน
อันนขาหนาสวยชมพูอ่อน
ดังวันก่อนกลายเปราะเพราะวัยเปลี่ยน
ทันตาขาวสะอาดดังขัดเจียร
มีชรามาเยี่ยมเยียนก็หลุดไป
ตะโจเอ๋ยเคยเต่งเคยตึงอยู่
ก็หดหู่เหี่ยวหาอายุขัย
อสุภะเกิดดับกับวันวัย
เอาอะไรมาฉุดมิหยุดเลย
พอเกิดความถ่องแท้แน่ไตรลักษณ์
จึงตระหนักครรลองงามผ่องเผย
หากมีคำถามใดไม่คุ้นเคย
โปรดจงเปรยคำมอบมาตอบความ
ควรตัดตรงสิ่งใดไม่อยากทุกข์
สงบสุขผ่องใสขอไถ่ถาม
กับโลกแห่งกิเลสอาเพศตาม
ทุกโมงยามเยื้องย่างอยู่อย่างไร
สิริวตี
สิ่งมัวหมองครองจินต์ดังปิ่นปัก
เป็นสลักดวงแดยากแก้ไข
ด้วยต้นตอเอกอุสมุทัย
สาเหตุใหญ่ให้ทุกข์เข้ารุกราน
ธรรมดาอาเพศเหตุทุกข์ร้อน
มีมูลก่อนจึงจะเข้าประหาร
มีเหตุจึงมีผลดลบันดาล
ใช่ลอยผ่านเกิดตั้งโดยบังเอิญ
เมื่อตัณหาความอยากเข้าลากถู
จึงมาคู่ดิ้นรนบนขาดเขิน
แม่น้ำคือตัณหาบ่าเผชิญ
กว้างลึกเกินอุปมาสาครินทร์
ไม่มีวันเต็มแก่งแห่งความอยาก
นับวันหลากไหลบ่าชลาสินธุ์
ท่วมสัตว์ด้วยความอยากมากมลทิน
ตราบชีวินบรรลัยยังไม่พอ
เมื่ออยากมากทุกข์มากวิบากซัด
เอามนัสเดิมพันนั่นแหละหนอ
เมื่ออยากน้อยทุกข์น้อยไม่ลอยคอ
ดับต้นตอเสียได้ใจจึงเย็น
พุทธองค์ทรงแจงแสดงชัด
ทุกขสัจกำหนดรู้คือผู้เห็น
เพื่อละตัวตัณหาพาลำเค็ญ
ซึ่งมันเป็นรากตอก่อทุกข์ภัย
ละเหตุทุกข์ทุกข์ดับมิกลับติด
จึงมิผิดคำสอนถอนนุสัย
การละทุกข์โดยตรงประสงค์ใด
จึงมิใช่สิ่งถูกปลูกแนวทาง
ไม่ต้องตัดสิ่งใดถ้าใจทุกข์
เพียงปลอบปลุกจิตตนอย่าหม่นหมาง
แค่รู้ทันเหตุหงอยแล้วปล่อยวาง
จะเยื้องย่างทางใด..ใจก็เบา ฯะ
..พรานไพร..