Username:

Password:


  • หน้าแรก
  • ห้องสนทนา
  • ช่วยเหลือ
  • ค้นหา
  • เข้าสู่ระบบ
  • สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ.. >> บทกลอนไพเราะ >> กลอนคลายเครียด >> กลอนหนึ่งตำลึง
หน้า: [1]   ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน หัวข้อ: กลอนหนึ่งตำลึง  (อ่าน 4158 ครั้ง)
0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
กลอนหนึ่งตำลึง
« เมื่อ: 07 มิถุนายน, 2568, 05:52:30 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

กลอนหนึ่งตำลึง
กลอนหนึ่งตำลัง ( 4บาท ) เขียนมาเรื่อยๆ หลายปีแล้ว เป้นการเขียนแบบ เห็นอะไรก็เขียน นึกอะไรได้ก็เขียน เขียนไว้ทังหมด 900 กว่าบทแล้ว มีเป้าหมายไว้ที่ 1000 บท

กลอนชุดนี้เอาเคยไปลงที่อื่นบ้าง แต่น้อยมาก ส่วนมากจึงยังไม่เคยเอาไปเผยแพร่ที่ไหน บางครั้งมองเห็นกระป๋องแป้งตรางูก็เขียน  เห็นกิ้งกือก็เขียนถึงกิ้งกือ เห็นหมู หมา กาไก่ ก็เขียนไปเรื่อย..

มีสาระบ้าง ไม่มีสาระก็เยอะ แต่ก็เขียนเพราะความอยากเขียนของตัวเองเป็นหลัก ใครอยากเอาไปใช้ เอาไปแก้ไขเพิ่อให้ตรงใจตนเองก็ตามสบายนะครับ โดยเฉพาะมือใหม่ๆ เอาไปแกะ เอาไปเกลา ให้ถูกใจแล้วเดินเข้ามาในโลกของคนเขียนกลอนกัน..ยินดีต้อนรับครับ

.











.







.
บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛

ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #1 เมื่อ: 12 มิถุนายน, 2568, 10:29:55 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง
พระจันทร์ที่ปลายฟ้า ยังต้องเลือกเวลาสวย..
นาฬิกาของเรา ก็คงไม่ได้เดินตรงกันตลอด..

 
     ๏ ในน้ำเสียงสัมผัสความห่างเหิน
หนทางเคยร่วมเดินกลับลำบาก
แต่ละเรื่องคุยกันเข้าใจยาก
ก่อนเอ่ยปากจากลาสวัสดี

    ๏ สิ่งที่เป็นเห็นกันทางตันแน่
ยังเหลือแค่หันหลังต่างเดินหนี
เก็บฉากสีชมพูบนเวที
จบบทบาทเคยมีโชคดีเอย ๚ะ๛

 
 ซ้ำซาก หมายถึงบ่อยๆ หรือขย้ำซ้ำซากให้มันแหลกราญไป..ใจ
 
    ๏ หลายสิบปีฝันเห็นแต่คนเก่า
เสมือนเงาติดตามในความฝัน
หลายสิบปีขาดสิ้นความสัมพันธ์
ไม่เห็นกันฝันเกลื่อนแต่เลื่อนลอย

    ๏ ในภาพฝันเธอดูดีเสมอ
เหมือนสมัยที่เราเจอกันบ่อยบ่อย
ต่างจากฉันผมหงอกพุงออกย้อย
ฝันเอ๋ยคอย ตอกย้ำความช้ำเอย ๚ะ๛

 
เมื่อเวลาผ่านไป จึงรู้ว่า หัวใจไม่สามารถเอาเหล้าล้างให้สะอาดได้..

     ๏ ในวงเหล้าเมาแล้วจะรินอีก
ผู้หวังดีช่วยหลีกเติมอีกไห
ตอนเมาเลิกขมขื่นช่างชื่นใจ
หายเมาเจ็บต่อไปช่างหัวมัน

    ๏ บางคนบอกว่าดื่มน้ำนรก
เราทุกแก้วที่ยก เพราะตกสวรรค์
ดื่มเหล้าแล้วเมาแน่ยังแก้ทัน
คนหลอกกันยอมแพ้ไม่แก้เอย ๚ะ๛ 

 
 ของง่าย ของตาย มักจะโดนมองผ่านเลยไป ไม่เคยนึกถึง..
 
    ๏ จงทำตัวให้เล็กรู้จักโง่
ระงับการคุยโอ่ฟังให้มาก
คำพูดและเวลาถ้าไม่ลำบาก
ไม่ยุ่งยากยึดถือให้ซื่อตรง

     ๏ มีใจพร้อมช่วยคนอื่นเสมอ
กิเลสตัณหาเจอ อย่าลุ่มหลง
การสะสมทุกบริบทให้ลดลง
ไม่ต้องถึงกับปลงแค่ตรงเอย ๚ะ๛


        *ทุกวันได้ไหม*

    ๏ บอกคิดถึงเธอทุกวันจะได้ไหม
คิดถึงแทบขาดใจยามไกลห่าง
รอแต่เธอคอยจ้องนั่งมองทาง
   ใจเงียบเหงาเวิ้งว้างหาทางเจอ

   ๏ ทุกวันส่งข้อความเพื่อถามไถ่
อยากรู้ความเป็นไปอยู่เสมอ
ยังมีฉันอยู่ไหมในใจเธอ
 หรือมีแต่ฉันเพ้อเจ้อ ถึงเธอเอย ๚ะ๛



 

.


บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛
ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #2 เมื่อ: 17 มิถุนายน, 2568, 10:55:15 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง
ผีเสื้อ ไม่เคยหลอกตัวเอง..
ธรรมชาติที่ต่างจากคน..
 
     ๏ มีผีเสื้อเท่านั้นสวยตอนแก่
จากตัวหนอนเป็นดักแด้เป็นผีเสื้อ
แต่เวลาของชีวิตไม่เหลือเฟือ
ธรรมชาติไม่เอื้อให้อยู่นาน

    ๏ ต่างจากคนสวยได้กว่าจะแก่
สุดท้ายเกิดขึ้นแน่แพ้สังขาร
จะฉีดดึงขึงหนังทรมาน
ก็เหี่ยวย่นหย่อนยานสังขารเอย ๚ะ๛   

 
 ใส่น้ำลงกา ปรารถนาจะให้น้ำมีรูปร่างเป็นแก้วไม่ได้..
 
    ๏ สายไปแล้วจะเป็นเหมือนแต่ก่อน
เรื่องของใจซับซ้อนและอ่อนไหว
สิ่งที่พูดที่ถามฉันตามใจ
อยากได้ยินฟังอะไรตามใจเธอ

    ๏ แก้วที่ร้าวย่อมยากคิดประสาน
ใจแหลกลาญคิดซ่อมก็เพ้อเจ้อ
นิยายรักตอนจบที่พบเจอ
หมดเรื่องราวพร่ำเพ้อเพราะเธอเอย ๚ะ๛ 
..
..
 รักใครสักคน มองอยู่ห่างๆ บางทีก็มีความสุข
 
    ๏ เมื่อกรรมตามถึงตนแล้วผลเกิด
ความคิดอันประเสริฐมิเกิดช่วย
ยังหลงใหลไม่เซ็งเรื่องเฮงซวย
ก็เพิ่มกรรมต่อด้วยจนม้วยมรณ์

    ๏ ถ้ารู้จักเรื่องเวรกรรมเคยทำไว้
และเข้าใจหลักธรรมคำสั่งสอน
ขออโหสิกรรมตอนขั้นตอน
อาจได้ผ่อนผลกรรมเคยทำเอย ๚ะ๛   


ข้าวใหม่ แม้ไหม้ก็ยังหอม..
ผักเก่าไม่มีแมลงตอม ก็ไม่อยากกิน..

    ๏ หน้ากระจกแปรงสีฟันสองอันคู่
กล่องสบู่ครีมต่างต่างหยิบวางก่อน
โผล่มาทำที่หลับจับที่นอน
หนาวหรือร้อนวุ่นวายมาหลายปี

    ๏ จนถึงวันเตียงหักรักสลาย
ยังเฝ้าห่วงไม่วายมิหน่ายหนี
ได้แต่อธิษฐานให้โชคดี
พบความสุขในสิ่งที่เลือกมีเอย ๚ะ๛ 


           *ลม*
 
     ๏ เมื่อลมพัด พาเธอมาเจอฉัน
แล้วแกล้งกันพัด เธอไปจนไกลห่าง
เจ้าลมเอ๋ยหรือรักเปลี่ยนเส้นทาง
ถึงเวลาจืดจางระหว่างคน

    ๏ วอนสายลมพัดเธอกลับมาหา
ขอเวลาเพื่อรักอีกสักหน
ลมหายใจแทบหยุดช้ำสุดทน
หนีไม่พ้นโศกตรมนะลมเอย..๚ะ๛

บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛
share
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 2081




| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #3 เมื่อ: 18 มิถุนายน, 2568, 04:10:23 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง


@ แฮะแฮะ สงสัย ความต่าง
ถอยห่าง จากกลอน กระไรหรือ
หนึ่งตำลึง ก็สี่บาท มิใช่ฤๅ
อย่าถือ ที่ข้า ถามมา

ขอถาม ขอรับ
บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"share"ครับ~
ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #4 เมื่อ: 20 มิถุนายน, 2568, 09:47:41 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง
คุณ share ถูกแล้วไงครับ ชิ้นหนึ่ง 2 บท 4 บาท ผมเรียกเป็น หนึ่งตำลึง  เขียนสะสมไว้หลายร้อยตำลึง เอามาลงให้อ่านกันเล่น อย่างที่เกริ่นไว้แต่ต้น
ตามหลักฉันทลักษณ์ของกลอนแปด หรือ กลอนตลาด ไม่ได้มีอะไรใหม่หรือแปลกไป เพราะผมถนัดแต่เขียนกลอนง่ายๆ แบบกลอนตลาดเท่านั้น ขอบคุณนะครับที่เข้ามาทักทาย..


ชุดกลอนหนึ่งตำลึง 5 วัน เข้ามาลง 5 กลอนครับ พอดีวันนี้ยังไม่ถึงคิวลง..
บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛
ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #5 เมื่อ: 22 มิถุนายน, 2568, 09:23:52 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง
บางคำตอบ ได้มาด้วยความเจ็บปวด แต่ต้องยิ้ม..

    ๏ ก่อนสมองจะตายไม่ทำงาน
ร่างกายถูกเผาผลาญเป็นผุยผง
ช่วยบอกกันสักคำพูดตรงตรง
ว่าฉันคงมีค่าไหมในใจเธอ

    ๏ ถ้าไม่มีความสำคัญต่อกันอีก
ก็จะปลีกตัวห่างสม่ำเสมอ
หยุดสนใจเลิกรักคอยบำเรอ
เอาหัวใจปรนเปรอรักเธอเอย ๚ะ๛ 


ไม่มีคำถาม เพราะรู้ว่าคำตอบ และคำถาม มันไร้ความสำคัญแล้ว..
 
    ๏ ขอขอบคุณเศษใจเคยให้มา
แต่คุณค่ามันหมดแล้วหดหาย
เคยปลาบปลื้มอิ่มเอมทั้งใจกาย
แต่สุดท้ายหัวใจไร้ราคา

    ๏ ฉันเข้าใจที่บอกทุกเหตุผล
รู้ว่าเราผจญหลายปัญหา
แต่เพราะเป็นแค่คนธรรมดา
รักโลภโกรธหลงคือภูษา กายาเอย ๚ะ๛   

 
 สุดท้ายทุกคนถูก ความผิดไม่มี สมองก็ไม่มี คือ คน..
 
    ๏ เพราะคนเราตีความตามใจคิด
จะถูกผิดไม่สนว่าตนเก่ง
เห็นบุญบาปความชั่วไม่กลัวเกรง
ลืมคิดเองเงื่อนงำกงกรรมกงเกวียน

    ๏ จนสุดท้ายปลายทางในชีวิต
เมื่อรู้ถูกรู้ผิดความคิดเปลี่ยน
อยากแก้ไขทุกข์ทนที่วนเวียน
ก็เหมือนเทียนหมดไส้ใกล้ตายเอย ๚ะ๛
 
 
เริ่มจากศูนย์ บางคนได้ร้อย บางคนได้ล้าน แต่ตอนตาย เหลือเท่ากัน..

     ๏ ใจซ่อนสากปากคาบคัมภีร์หลอก
วาจาบอกหลักการแต่งานห่วย
บุคลิกดูสง่าทำท่ารวย
คนข้างกายหล่อสวยต้องดูดี

    ๏ เป็นแพ๊คพิมพ์นิยมสังคมใหม่
โลกออนไลน์ชื่นชมสมศักดิ์ศรี
แต่เบื้องหลังภาพสวยเท่าที่มี
นั้นอัปรีย์ลวงตาไร้ค่าเอย ๚ะ๛ 

    *นานเท่าไหร่ก็รอ*

    ๏ เมื่อไหร่เธอจะกลับมาหาฉัน
รอคอยอยู่ทุกวันเรื่องมันเศร้า
หรือว่าความผูกพันระหว่างเรา
เหลือแค่ความว่างเปล่ากับน้ำตา

    ๏ กลับมาหา ฉันสักทีจะได้ไหม
ขอร้องด้วยหัวใจแม้ไร้ค่า
นานเท่าไหร่ยังรอเธอกลับมา
คอยชั่วกาลเวลาที่มีเอย ๚ะ๛



.




บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛
ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #6 เมื่อ: 27 มิถุนายน, 2568, 09:14:48 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง
น้ำตา หรือ น้ำตาล เมื่อต้องการแล้วลืมคิด..

    ๏ ยินยอมตายเพราะความรักโดยสงบ
เพื่อเป็นศพสีชมพูให้รู้ว่า
เรื่องความรักเป็นเรื่องของศรัทธา
รักแล้วเจ็บดีกว่าไม่เคยมี

    ๏ ไม่ว่าจะสมหวังหรืออกหัก
ก็รู้จักความรักสมศักดิ์ศรี
อยู่เงียบเหงาหาคู่ดูสักที
เจอคนดีที่ใช่สุขใจเอย ๚ะ๛ 


วิวัฒนาการสร้างชีวิตใหม่ แต่สร้างใจไม่ได้ตามต้องการ..

     ๏ เวลาที่ใจหล่นคนจะเศร้า
ไม่รับเอาทุกสิ่งใส่สมอง
กิริยาช้าเชื่องไม่ช่ำชอง
แม้สายตาที่มองยังเลื่อนลอย

    ๏ ชีวิตปานถ่านหมดพลังหาย
ดูเหมือนคนเจียนตายหรือไก่หงอย
การกินอยู่ไม่คิดประดิดประดอย
อยู่กับฝันไม่เอ็นจอย  เพราะนอยเอย ๚ะ๛
 
 
บทเรียนบางบท เหมาะกับบางใจและบางคน..
 
    ๏ ดูหนังดูละครย้อนดูตัว
เขาแสดงบทชั่วน่ากลัวไหม
ถ้าเผลอทำเหมือนเขาต่างอะไร
เลวดั่งใจเคยบ่นคือผลงาน

    ๏ โลกคือโรงละครของทุกคน
ชีวิตตนมีให้บริหาร
ดีชั่วเลือกทำได้ตามต้องการ
เป็นซาตานหรือพระเจ้าเลือกเอาเอย  ๚ะ๛   

 
หมดเรื่องแล้ว ถอดทุกเปลือก  เปลี่ยนเสื้อผ้า ออกเดินทาง เร้นกายไปจากทุกสิ่งที่เคยยินดี..
 
     ๏ เมื่อเลือกแล้วผิดพลาดต้องยอมรับ
ให้สมกับเป็นชายอกสามศอก
ถ้าลืมสิ้นศักดิ์ศรีคือขี้ครอก
ใส่ผ้าถุงแล้วออกไปบอกคน

    ๏ จะเลือกคิดเลือกทำ เลือกคำพูด
จำเป็นสูตรทุกระดับยอมรับผล
ละอายกับความผิดจริตตน
ที่ฉ้อฉลกลับกลอกไม่บอกเอย ๚ะ๛   


            *ปล่อย*

    ๏ ปล่อยความคิดหยุดใจจะไม่คิด
ปล่อยชีวิตหยุดเล่ห์เสน่หา
ปล่อยความหลังเหตุการณ์ที่ผ่านมา
ปล่อยดวงใจปรารถนาหยุดกังวล


   ๏ มือเคยกุมกระชับก็จับปล่อย
มือที่คอยปกป้องฝืนล่องหน
มือคู่เติมเปลี่ยนทางระหว่างคน
ปล่อยมือเธอหลุดพ้น จากตนเอย ๚ะ๛



.

บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛
share
กิตติมศักดิ์
*
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 2081




| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #7 เมื่อ: 28 มิถุนายน, 2568, 04:04:33 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง

@ ชีวิตนั้น อนันต์ค่า น่าพินิจ
แม้กระจิด มดแมลง แฝงความหมาย
เกิดเพื่อสรรค์ ปันแบ่ง แม้นต้องตาย
ประโยชน์ดล ผลขจาย นิจนิรันดร์

บันทึกการเข้า

~รวมทุกสำนวนของ"share"ครับ~
ผู้เฒ่า..โง่งม
นักกลอนผู้รอบรู้
****
<font color=gray><b>ออฟไลน์</b></font> ออฟไลน์

กระทู้: 364


อีเมล์

ผู้เริ่มหัวข้อนี้
| |
Re: กลอนหนึ่งตำลึง
« ตอบ #8 เมื่อ: 02 กรกฎาคม, 2568, 10:18:14 PM »
หน้าแรกหน้าแรก

Re: กลอนหนึ่งตำลึง
ล็อคอินเข้าระบบหนึ่งครั้ง ส่งเรื่องราวเข้าเพจได้ครั้งเดียว..
ถ้าจะกดส่งข้อมูลเพิ่ม อาจต้องออกจากระบบก่อน แล้วเข้าระบบใหม่เพื่อทำการ..


เพลงมีชีวิต..ดนตรีเป็นลมหายใจ
เนื้อร้องเป็นกาย และ มีความหมาย..คือการกระทำ
 
    ๏ เพลงบางเพลงฟังแล้วน้ำตาไหล
นึกไปไกลถึงอดีตที่เคยผ่าน
สัมผัสกับเรื่องราวเคยร้าวราน
เรียกความทรมานทำงานอีกที

    ๏ แต่ฟังได้เจ็บได้โดยตลอด
ไม่อิดออดไม่จบไม่หลบหนี
บาดแผลเก่าเจ็บจบทบทวี
ถ้าคุณมีความหลังอย่าฟังเอย ๚ะ๛


สนามอารมณ์ เล่นคนเดียวแล้วแย่ ก็แค่เริ่มเล่นใหม่..
 
   ๏ วันนี้เหนื่อยเกินไปทำใจยาก
กว่าจะลากอารมณ์มาคิดเขียน
ความรู้สึกสับสนยังวนเวียน
มิอาจเปลี่ยนสะสางให้บางเบา
    ๏ แต่ไม่เขียนยิ่งเหงาเศร้าไม่หาย
เหมือนน้ำท่วมรอระบายมิวายเน่า
ต้องถ่ายเทเปลี่ยนเรื่องในใจเรา
ทิ้งให้หมดเรื่องเศร้าที่เขลาเอย ๚ะ๛

 
 ขอฝนจากฟ้า ยากกว่าขอน้ำ จากตาตนเอง..
 
    ๏ ไร้ถ้อยคำประโลมใจจากใครอื่น
ก็ต้องฝืนปลอบตนเหมือนคนบ้า
ความรู้สึกเวิ้งว้างมิสร่างซา
อีกสักกี่เพลาจะเปลี่ยนแปลง

    ๏ มีไหมใครสักคนบนทางผ่าน
โยนความจริงใจเป็นทานไม่แอบแฝง
เผื่อให้ใจสับสนบนตะแลงแกง
ได้ชุ่มชื่นมีแรงเปลี่ยนแปลงเอย ๚ะ๛
 
 
การมีที่นั่งเล็กลง ก็ดีในยามที่ ต้องทำตัวให้เล็ก..
 
    ๏ อย่าปล่อยให้ความรักเหมือนฟันผุ
ลามทะลุรากฟันปวดยันเหงือก
รักหรือฟันดูแลก่อนไม่ต้องเลือก
รอจนเฮือกสุดท้ายแก้ไม่ทัน

    ๏ ถนอมก่อนถอนฟันและความรัก
สูญเสียช้ำใจนักเจ็บมหันต์
เจ็บเรื่องรักหนักกว่าการปวดฟัน
หรือเจ็บไม่ต่างกันสวรรค์เอย ๚ะ๛ 
 

            *ห่วงใย*

    ๏ ไม่ถามว่าทำไมเลิกกับฉัน
ความผูกพันก็ไม่ตาม ไม่ถามหา
ใจคนเปลี่ยนอยู่เสมอทุกเวลา
ฉันเข้าใจที่มา ทีท่าคน


    ๏ แต่เหลือความห่วงใยให้ตลอด
ขอให้รอดกับรักได้สักหน
เจอรักที่ยอมรับสำหรับตน   
นั่งและนอนอยู่บน วิมานเอย ๚ะ๛


.


บันทึกการเข้า

~๏รวมทุกสำนวนของ"ผู้เฒ่า..โง่งม"ครับ๚ะ๛
หน้า: [1]   ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว ต่อไป »
กระโดดไป:  

Powered by SMF 1.1.15 | SMF © 2006-2009, Simple Machines LLC
Simple Audio Video Embedder
| Sitemap
NT Sun by Nati

หน้านี้ถูกสร้างขึ้นภายในเวลา 0.389 วินาที กับ 34 คำสั่ง
กำลังโหลด...