Username:
Password:
หน้าแรก
ห้องสนทนา
ช่วยเหลือ
ค้นหา
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก
เว็บไซต์อารมณ์กลอน เว็บไซต์สำหรับผู้มีกลอนในหัวใจ..
>>
บทกลอนไพเราะ
>>
กลอนให้แง่คิด
>>
ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
หน้า:
1
2
[
3
]
4
5
ลงล่าง
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
พิมพ์
ผู้เขียน
หัวข้อ: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า (อ่าน 41954 ครั้ง)
0 สมาชิก
และ 4 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#30 เมื่อ:
30 ตุลาคม, 2557, 12:11:50 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กาพย์ตรังคนที ( กาพย์ตรังควชิราวดี)*
ชื่อ กาพย์ตรังควชิราวดี ด้วยอัตถะว่า งาม ดั่งพวงแก้ววิเชียร
บทละ ๔ บาท, ๘ วรรค วรรคหน้า ๕ พยางค์ วรรคหลัง ๖ พยางค์
ส่งสัมผัส และ รับสัมผัส เช่นกาพย์ยานี ๑๑ เขียนคู่กัน ๒ บท
๔๓๗ ๏ กฎอหิงสา*ธรรม ควรน้อมนำกำหนดหมาย
โลกอุ่นมิวุ่นวาย สันติธรรมจะหวนคืน
นรชนมีแบบบท อยู่ในกฎอย่างยั่งยืน
ธรรมชาติสุขกลมกลืน สร้างพื้นฐานชีพมั่นคง
๔๓๘ ๏ ดวงใจใสพิสุทธิ์ เป็นมนุษย์มีศักดิ์ศรี
กฎหมายไม่ต้องมี หากพระธรรมอยู่ดำรง
ก่อเกิดความเมตตา กรุณามั่นผจง
สรรพสัตว์วัฏฏะวง เกิดร่วมกรรมร่วมโลกา
“”””””””””””””””””””””””””””
กาพย์มหาตรังคนที (กาพย์มหาตรังควชิราวดี*)
ชื่อ กาพย์มหาตรังควชิราวดี ด้วยอัตถะว่า งาม ดั่งพวงแก้ววิเชียรใหญ่ ,
บทละ ๔ บาท, ๘ วรรค วรรคหน้า ๕ พยางค์ วรรคหลัง ๗ พยางค์
เท่ากับ กาพย์ยานี ๑๑ เขียน คู่กัน ๒ บท แต่เพิ่มวรรคหลังจาก ๖ คำ เป็น ๗ คำ
๔๔๕ ๏ นามพืชสัตว์ทั้งหลาย ที่กระจายดาษดื่นพื้นบ้าน
ต่างชื่อใช้เรียกขาน ภาษาถิ่นทั่วแผ่นดินไทย
มุดสัง* คือชะมด กลิ่นปรากฏฉุนไม่เหมือนใคร
เลียงผาทางภาคใต้ คูรำ โครำคำแพร่หลาย
๔๔๖ ๏ ชื่อพืชแปลกกันดี แต่ลางที น่าขันน่าขำ
มะหวดเป็นนำซำ มะชักคือมะคำดีควาย
คอเหี้ยคือคอแลน แต่ละแดนสลับกลับกลาย
ขอเพียงรู้ความหมาย ต่างสายคำเรื่องธรรมดา
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
(ต้นแบบในคัมภีร์กาพย์คันถะ และสารวิลาสินี เป็นภาษาบาลี)
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รุ้งชารี
,
ring
,
วรรณดี
,
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#31 เมื่อ:
31 ตุลาคม, 2557, 12:24:48 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กาพย์มัณฑุกคติ*
ชื่อ กาพย์มัณฑุคติ ด้วยอัตถะว่า มีดำเนินกลอนดังกบเต้น
บทละ ๔ บาท ๘ วรรค วรรคละ ๖ คำ บาทแรก บังคับครุ ลหุ ด้วย
ลหุ ลหุ ครุ ลหุ ครุ ครุ ลหุ ลหุ ครุ ลหุ ครุ ครุ
๕๗๙ ๏ คติว่าประสาสัตว์ ผิจะกัดก็ป้องตน
แต่พวกสัตว์กินเลือดคน สัตว์ด้วยกันนั้นแสนร้าย
ชีวิตอยู่ด้วยเบียดเบียน สะอิดสะเอียนพวกเลือดเย็น
การดำรงชีพจำเป็น สืบชีวีด้วยบีฑา
๕๘๐ ๏ เถอะพยัคฆ์สิพิฆาต มิประหลาดลุชีวา
เด็ดชีพเป็นภัตตา ใช้ชีวิตสืบชีวี
ริ้นไรยุงทากปลิง ร้ายก็จริงมิถึงตาย
กินเลือดเพียงเลี้ยงกาย มิปรารถนาพร่าชีวัน
ข้อสังเกต กาพย์มัณฑุคคติ ท้ายวรรค ๔ กับ ๖ ไม่สัมผัสกัน
......................................................................................
กาพย์แก้วมัณฑุกคติ*
บทละ ๔ บาท ๘ วรรค วรรคละ ๖ คำ
๔๙๓ ๏ ณ กลางไพรยามใกล้ค่ำ เย็นเยียบฉ่ำชุ่มอุรา
ยินสำเนียงเสียงนกกา เซ็งแซ่แก่งแย่งยืนคอน
เคล้าเคลียคลอพะนอคู่ บ้างเป็นหมู่อยู่สลอน
เสียงหรีดหริ่งเรไรซ้อน สอดผสมระงมดง
๔๙๔ ๏ ช้าง“ ปี๊บ แปร้น” ก้องป่าใหญ่ เจ้าเขาไพรพร้องเสียงหลง
ยามหัวค่ำร่ำแดนดง ดึกสงัดผลัดเงียบงัน
เสียงลมพรูลู่ใบไม้ ผู้กล่อมไพรจักจั่น
เสียงแปลกแปลกแทรกซ้อนกัน ชวนผวาคราได้ยิน
กาพย์แก้วมัณฑุกคติ ดัดแปลงใหม่ โดย ธนุ เสนสิงห์ จาก กาพย์ มัณฑุกคติเดิม
ซึ่งงดการบังคับ ครุ ลหุ บาทแรก และเพิ่มสัมผัสระหว่าง วรรค ๔ กับ ๖ ด้วย
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
(ต้นแบบในคัมภีร์กาพย์คันถะ และสารวิลาสินี เป็นภาษาบาลี)
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
วรรณดี
,
รุ้งชารี
,
ring
,
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#32 เมื่อ:
01 พฤศจิกายน, 2557, 10:55:51 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กาพย์กากคติ*
ชื่อ กาพย์กากคติ ด้วยอัตถะว่า ดำเนินกลอนดังกาที่บินไป
บทละ ๔ บาท, บาท ๑ และ ๓ มี ๓ วรรค, บาท ๒ และ ๔ มี ๔ วรรค, วรรคละ ๔ คำ
ลักษณะสัมผัสท้ายวรรค ๑ กับ ท้ายวรรค ๒, ท้ายวรรค ๓ กับ ท้ายวรรค ๕ และ ๖,
ท้ายวรรค ๔ กับ คำที่ ๒ วรรค ๕,ท้ายวรรค ๗ กับ ท้ายวรรค ๑๐ ท้ายวรรค ๑๒ และ ๑๓,
ท้ายวรรค ๘ กับท้ายวรรค ๙, ท้ายวรรค ๑๑ กับ คำที่ ๒ วรรค ๑๒,
บาทที่ ๑ บังคับ ครุ และ ลหุ ด้วย
ลหุ ครุ ลหุ ครุ ลหุ ครุ ลหุ ครุ ลหุ ครุ ลหุ ครุ
๘๔๓ ๏ สภาวะคน ณ ยามผจญ กะอันตราย
เกิดความคับขัน ผกผันถึงตาย ในจิตวุ่นวาย เอาตัวรอดพลัน
ผู้ที่มีธรรม หาทางน้อมนำ ต่อสู้ฝ่าฟัน
ต้องช่วยส่วนรวม อยู่ร่วมผูกพัน ด้วยความมุ่งมั่น มิทิ้งจริงใจ
๘๔๔ ๏ ผิใจอธรรม เจอะความระกำ ละลี้ผละไป
มิมีเมตตา นำพาผู้ใด สติแตกได้ ความกลัวบีฑา
คิดถีบผู้อื่น เพื่อตัวเองยืน รักษากายา
ความคิดสับสน ต้องมนต์มรณา ผู้ขาดความกล้า พ่ายแพ้โพยภัย
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..................................................................................
(ต้นแบบในคัมภีร์กาพย์คันถะ และสารวิลาสินี เป็นภาษาบาลี)
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ring
,
รุ้งชารี
,
ระนาดเอก
,
ศิลาสีรุ้ง
,
วรรณดี
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#33 เมื่อ:
03 พฤศจิกายน, 2557, 03:14:29 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
สลับที่ฉันทลักษณ์ประเภทฉันท์ต่อครับ
ปณวฉันท์ ๑๐*
ชื่อ ปณวฉันท์ ๑๐ ด้วยอัตถะว่า ฟังไพเราะเหมือนเสียงขับไม้ ,
บทละ ๒ บาท, บาทละ ๒ วรรค, วรรคหน้า ๘ พยางค์, วรรคหลัง ๒ พยางค์,
ส่งรับสัมผัสภายในบท ท้ายวรรค ๒ กับท้ายวรรค ๓, สัมผัสระหว่างบท ท้ายวรรค ๔ กับ ท้ายวรรค ๒
มะคณะ นะคณะ ยะคณะ ๑ ครุ ลอย
(ครุ ครุ ครุ) (ลหุ ลหุ ลหุ) (ลหุ ครุ.............ครุ) ครุ
๒๑๗๘ ๏ การพลัดพราก ผิอุระจะร้าว เพียงใด
แต่ทุกสิ่งมิอมตะได้ ทานทน
๒๑๗๙ ๏ เมื่อถึงวันลุมรณะครอง ทุกตน
เหลือไว้เพียงสุสรณะผล คนขาน
๒๑๘๐ ๏ จึงควรครองมนะสติมั่น คงกาล
อย่าใช้ใจอคติผสาน โมหันธ์*
๒๑๘๑ ๏ สร้างบุญทานศุภ* ธ วิเศษ เสกสรรค์
พบบาปมารพิริยะ*ประจันต์ ราคี
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
ต้นแบบลักษณะฉันท์วรรณพฤติ ปณวฉันท์ ไทย
ปณวฉันท์ ๑๐
๏ อย่าก่อกอปรอคติมิชอบ ชั่วใจ
ฉันทาโทษะมุฬหภัย อาธรรม์
๏ ล้วนถ่อยเททุพละอเน กาสรรพ์
อ้างพจน์ไพเราะปฌวฉันท์ ชวนเชลง
ฉันทศาสตร์ นายฉันท์ ขำวิไล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
ring
,
ศิลาสีรุ้ง
,
วรรณดี
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#34 เมื่อ:
04 พฤศจิกายน, 2557, 11:54:45 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
เวสสเทวีฉันท์ ๑๒*
ชื่อ เวสสเทวีฉันท์ ๑๒ ด้วยอัตถะว่า มีลีลาดังวัสสพลาหก อันเล่นตามวิสัยแห่งตน,
บทละ ๔ วรรค วรรคหน้า ๕ วรรคหลัง ๗ คำ, สัมผัสท้ายวรรค ๑ กับคำที่ ๔ วรรค ๒
ท้ายวรรค ๒ กับ ท้ายวรรค ๓, ส่งและรับสัมผัสบทเช่นกลอน
มะคณะ มะคณะ................... ยะคณะ ยะคณะ
( ครุ ครุ ครุ) (ครุ ครุ...................ครุ)( ลหุ ครุ ครุ)( ลหุ ครุ ครุ)
๑๗๖๒ ๏ ชนร่วมเจตจำนง จิตวิศุทธิ์ส่งพลังใจ
มีเหตุผลกว้างไกล ฉะนั้นจริงพินิจการ
๑๗๖๓ ๏ อำนาจแห่งดวงจิต รวมประสานมิตรพิชิตมาร
ก่อผลดลบันดาล บรรลุสิ่งดีวิสุทธิ์ใส
๑๗๖๔ ๏ มุ่งมั่นสรรค์สิ่งหวัง การมิภินท์พังผจงชัย
รวมบุญหนุนเติมให้ เสร็จสะอางแสนเกษมสันต์
๑๗๖๕ ๏ เจตจินต์วิญญูชน ส่งพลังดลวิลาวัณย์
เหนือมาดคิดคาดฝัน แรงวิเศษสรรค์หฤษฎี
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
ต้นแบบลักษณฉันท์วรรณพฤติ เวสสเทวีฉันท์ ไทย
๏ เชลงฉันท์รำพรรณพจน์ เสนอ ณ แบบบทบุราณมี
นามขนานเวสสเทวี วากยะแปลกเปลี่ยนก็เพี้ยนกล
๏ เมธีปรีชาชาญ ลักษณะอ้างอ่านวิจารณ์ผล
รู้รอบชอบเพียรขวน จงมละคร้านการประกิจกลอน
ฉันทศาสตร์ นายฉันท์ ขำวิไล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ศิลาสีรุ้ง
,
รุ้งชารี
,
ring
,
ระนาดเอก
,
วรรณดี
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#35 เมื่อ:
05 พฤศจิกายน, 2557, 11:32:49 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
อินทวงสฉันท์ ๑๒ *
ชื่อ อินทวงสฉันท์ ๑๒ ด้วยอัตถะว่า มีสำเนียงไพเราะดังปี่ของพระอินทร์,
บทละ ๒ บาท ๔ วรรค วรรคหน้า ๕ คำวรรคหลัง ๗ คำ
สัมผัสท้ายวรรค ๑ กับ คำที่ ๓ วรรค ๒, ท้ายวรรค ๒ กับ ท้ายวรรค ๓,
รับและส่งสัมผัสบทเช่นกลอน
ตะคณะ ตะคณะ ชะคณะ ระคณะ
(ครุ ครุ ลหุ)(ครุ ครุ....................ลหุ)(ลหุ ครุ ลหุ)(ครุ ลุ ครุ)
๘๐๕ ๏ เมื่อยามเผชิญภัย สติไม่พิการวิกล
เตรียมพร้อมมิจินต์จล* อุปสรรคประดา*ประจัญ*
๘๐๖ ๏ เชื่อมั่นวิชัยแน่ จะมิแพ้ระย่อและยั่น
หนักหนาจะฝ่าฟัน ปะนรกสวรรค์มิกลัว
๘๐๗ ๏ คิดได้ฉะนี้แล้ว มนแผ้วมิหม่นมิมัว
รู้การและรู้ตัว กลเม็ดเผด็จพิชัย
๘๐๘ ๏ แต่ใจผิไม่สู้ เจอะริปู*มิมีอะไร
ทดท้อประหวั่นใจ ตะละ*แพ้มิลงสนาม
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
ต้นแบบลักษณฉันท์วรรณพฤติ อินทวง์ฉันท์ ไทย
๏ พากย์นี้ก็นามยิน ยศอินทวงสฉันท์
เสนอเนืองอเนกบัณ ฑิตยานรานิกร
๏ พึงเพียรนิพนพจน์ กลบทนิบุณณะกลอน
เป็นศรีสถาวร วุฒิเรืองธเรศตรี
ฉันทศาสตร์ นายฉันท์ ขำวิไล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
คอนพูธน
,
❀ Sasi ❀
,
ring
,
ระนาดเอก
,
วรรณดี
,
ศิลาสีรุ้ง
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#36 เมื่อ:
06 พฤศจิกายน, 2557, 01:21:48 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒*
ชื่อ ภุชงคปยาตฉันท์ ๑๒ ด้วยอัตถะว่า กำหนดด้วยยะคณะทั้งหลายสี่คณะ
และมีลีลา ประดุจดังลีลา แห่งพระยานาค,
บทละ ๒ บาท ๔ วรรค วรรคละ ๖ พยางค์ รับและส่งสัมผัสบทเช่นกลอน
ยะคณะ ยะคณะ ยะคณะ ยะคณะ
(ลหุ ครุ ครุ)(ลหุ ครุ ครุ) (ลหุ ครุ ครุ)(ลหุ ครุ ครุ)
๒๐๕๓ ๏ สุบิน*เบิกกระเจิงใจ ประไพกาลสราญรมย์
ละล่องฟ้าถลาลม ณ เวหนระเหินหาว
๒๐๕๔ ๏ ตะลึงลานสถานทิพย์ ระยิบพรายระดา*ดาว
วะเวิ้งว้างสะพร่างพราว ลุสู่สรวงพิศุทธิ์แสน
๒๐๕๕ ๏ พิมานเพชรวิไลฉาย ประกายน้ำกระจ่างแดน
จรัสราวประทีปแทน ระวีวาวฉะฉายฉาน
๒๐๕๖ ๏ สลอนเหล่า ธ เทวา ธิดาฟ้าสุมามาลย์
ก็ปรีดิ์เปรมเกษมศานต์ ปะไท้ดังฤดีหมาย
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
ต้นแบบลักษณฉันท์วรรณพฤติ ภุชคปยาตฉันท์ ไทย
๏ วิธีฉันทบรรจง ภุชงค์ชาติปยาตขาน
ฉบับแบบบุราณกาล ประกิจกลนิพนธ์กลอน
๏ ลบองบทก็เรียงเรียบ ระเบียบอรรถอักษร
สลวยลักษณสุนทร นุสนธิ์สารสมานเสมอ
ฉันทศาสตร์ นายฉันท์ ขำวิไล
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ring
,
ระนาดเอก
,
วรรณดี
,
ศิลาสีรุ้ง
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#37 เมื่อ:
17 พฤศจิกายน, 2557, 03:22:21 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
พักฉันท์กลับไปกลอนกลบทต่อนะครับ
กลอนกลบทพิณประสานสาย
กำหนดให้มีซ้ำคำ และ สัมผัสสระ และอักษรวรรคละ ๓ ชุด ทุกวรรคไป
๒๑๘๘ ๏ มีธรรมนำมีแท้แน่มีที่นี่ แดนที่ดีแดนธาดา*แดนไทยได้
สุขหนึ่งจึงสุขนิ่งจริงสุขในใจ สิ่งใดไหวสิ่งดังหวังสิ่งดลวน
๒๑๘๙ ๏ รู้หรือคือรู้ราคารู้รอบคอบ นั้นมอบชอบนั้นมิดชิดนั้นมลฉล
กรรมบิดติดกรรมบังตั้งกรรมบนตน พาจนคนพาจิตคิดพาจำคำ
๒๑๙๐ ๏ แต่มักหลักแต่มากหลากแต่หมายหลาย จนกายตายจนก่อต่อจนกรรมต่ำ
ยามกายหน่ายยามแก่งแหนงยามกรรมนำ ต้องร่ำช้ำต้องเร้นเช่นต้องรอมชอม
๒๑๙๑ ๏ รู้รอบคอบรู้รวนควรรู้ราคา เมื่อหาลาเมื่อห้ามลามเมื่อหอมหลอม
คนยากจากคนไยใจคนยอมจอม หมายอยู่คู่หมายยอมค้อมหมายย้ำคำ
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
................................................................................
ต้นแบบ กลบทพิณประสานสาย
๏ สมควรจวนสมคำจำสมคิดจิตร ที่คิดผิดที่คาดผาดที่คังผัง
ใจหวนรวนใจโหยโรยใจหังรัง ฉลังจังเฉลิงเจิงไฉลใจ ฯลฯ
ต้นแบบ ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นวรรณกรรม
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
................................................................
ต้นแบบ กลบทพิณประสานสาย
๏ ทุรนทนทุรวนทวนทุราถ้า ดูช้าล่าดูเชิงเหลิงดูเชือนเลื่อน
ทำอายบ่ายทำเอียงเบี่ยงทำเอื้อนเบือน เหนกลบลบเหนเกลื่อนเลื่อนเหนกลายลาย
๏ จะลอบชอบจะโลมโฉมจะฤๅชื่อ คิดหือมือคิดเหินเมิลคิดหายหมาย
ระเบียบเปรียบรุบุปรุระบายปราย ชื่อกล “พิณประสานสาย” หมายนามเอยฯ
...................................................................................
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ
ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ระนาดเอก
,
วรรณดี
,
ศิลาสีรุ้ง
,
รุ้งชารี
,
ring
,
คอนพูธน
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#38 เมื่อ:
19 พฤศจิกายน, 2557, 11:06:49 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลอนกลบทตรีพิธพรรณ์
กำหนด ให้มีซ้ำคำ หรือซ้ำอักษร วรรคละ รวม ๓ คำ ไม่บังคับตำแหน่ง ทุกวรรค
๑๕๘๗ ๏ อันความโลภแสนโลภโลภแรงเหลือ มิเชื่อจงเชื่อเชื่อเถิดหนา
โลภปิดใจครองใจใจหูตา เหมือนเป็นบ้าใบ้บ้าบ้าเงินทอง
๑๕๘๘ ๏ ความเหมาะควรรู้ควรควรแค่ไหน แม้อยากได้ขอได้ได้เป็นเจ้าของ
ต้องมีธรรมรู้ธรรมธรรมครรลอง อย่าหมายมองเหลิงมองมองเกินตัว
๑๕๘๙ ๏ รักของเขารู้เขาเขาก็รัก ต้องห้ามหักรู้หักหักใจชั่ว
มิลืมหลงเฝ้าหลงหลงเมามัว จนมิกลัวลืมกลัวกลัวก่อกรรม
๑๕๙๐ ๏ นึกถึงตายต้องตายตายแน่นอน คำพระสอนท่านสอนสอนเช้าค่ำ
รู้จักพอเถิดพอพอตามธรรม ตายแล้วนำน้อมนำนำชั่วดี
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
...............................................................................................
ต้นแบบ กลอนกลบทตรีพิธพรรณ์
๏ นางศรียอดศรีสรีมระดี อัญชุลียกชุลีชุลีสอด
ขึ้นเหนือเศรียรอ่อนเศรียรน้อมเศรียรทอด พระกายกอดบาทร่ำร่ำรำพัน ฯลฯ
...........................................
ต้นแบบ ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นวรรณกรรม
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
.........................................................
ต้นแบบ กลบทตรีพิธพรรณ์ (ตรีพิศพัน)
๏ ถึงจะรู้ทำไม่รู้อย่าอวดรู้ จงนิ่งอยู่อดอยู่อยู่จงได้
เอาปัญญามาเปนยาเข้ายาไว้ ไม่อดได้ยั้งได้จักได้อาย
๏ หมีใช่หนุ่มอย่าทำหนุ่มหนุ่มจะสรวล ไม่สมควรคู่ควรอย่าควรหมาย
กำหนดบทหมดบทบทพิปราย ชื่อ ตรีพิศพัน พรรณรายพันนี้เอยฯ
.........................................................................
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ
ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
รุ้งชารี
,
ring
,
ศิลาสีรุ้ง
,
คอนพูธน
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#39 เมื่อ:
21 พฤศจิกายน, 2557, 11:56:00 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลอนกลบทตรีประดับ
กำหนดให้กลางวรรค ทุกวรรค มี ๓ คำเป็นอักษรเดียวกัน
สัมผัสสระกันทั้ง ๓ คำ และเป็น ๓ รูปวรรณยุกต์ สามัญ เอก โท
๕๒๙ ๏ ราคะเผาเราเร่าเร้าอกรุ่มร้อน พาจากคอนค่อนค้อนจนจรหาย
เต็มใจลาล่าล้าหาความตาย เกิดเป็นชายใช่ใช้สมชายชาญ
๕๓๐ ๏ เที่ยวซอกซอนซ่อนซ้อนเพราะร้อนรัก เกินหาญหักสูสู่สู้ผู้ห้าวหาญ
แม้ระอาอ่าอ้าทรมาน ถึงดักดานด่านด้านยังยินดี
๕๓๑ ๏ ฉะนี้แลแล่แล้แน่แท้นัก ใครมีรักรอนร่อนร้อนซ่อนสุขี
ยามค้างคาค่าค้ามีราคี สิ้นปรานีนี่นี้มีโศกตรม
๕๓๒ ๏ โศกใดนาน่าน้าครารักร้าง แทบวายวางว่างว้างสร่างสุขสม
ฝันละลายไล่ไล้ให้โทรมซม จนเป็นลมล่มล้มระทมใจ
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์ ......................................................................
ต้นแบบ กลบทตรีประดับ
๏ เจ้าโสกแคนแค่นแค้นดั่งแสนศร มารานร่านร้านรอนให้ตักไษย
ว่าโอโอ่โอ้กรรมมาจำไกล เวรชื่อใครจองจ่องจ้องประจาน ฯลฯ
ต้นแบบ ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นวรรณกรรม
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
.........................................................................................
ต้นแบบ กลบทตรีประดับ
๏ ถึงหลงลมล่มล้มในเชิงชู้ ก็ได้รู้รอยร่อยร้อยอย่างหนอ
ไม่เหนเลยว่าจะลวงล่วงคอ ยุแยงแย่งแย้งยอให้ยาวความ
๏ พึงเหนชัดเชิงหล้อนหล่อนหลอนหลอก แกล้งซอนซ่อนซ้อนดอกมาออกสนาม
เรื่องนางชะนีนี่นี้เหมือนนางงาม คณะนามนี้ชื่อ ตรีประดับ เอยฯ
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ
ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀
,
ศิลาสีรุ้ง
,
คอนพูธน
,
ring
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#40 เมื่อ:
23 พฤศจิกายน, 2557, 08:10:03 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลอนกลบทอักษรกลอนตาย
กำหนดให้ใช้คำตายล้วน ทุกวรรคไป
๑๑๐๙ ๏ รับผิดพลาดคาดคิดติดนรก ยากหยิบยกจากจิตคิดหลีกหลบ
ชีพมิขาดมาดชนะอพยพ รึสยบเงอะงะเปะปะระทึก
๑๑๑๐ ๏ เพราะพิษบาปสาปซัดแทรกกระแทกทับ เคียดขัดคับยึดสติพินิจตรึก
วิบากบุกเลาะลัดระบัดพฤกษ์ จตุรทิศตกดึกพิลึกนัก
๑๑๑๑ ๏ นกสัตว์หลับงีบสงบละขบกัด มิถนัดลัทธิปฏิปักษ์
และเกลียดโกรธอริวิธิ*รัก ลักษณะวิจักขณ์*มรรควิมุต
๑๑๑๒ ๏ ซุกสงบซบซกเขตรกชัฏ ปฏิบัติวิริยะสละหลุด
เพราะสัจจะวจนะเอกพระพุทธ สุวิสุทธิ์อริยะมะนะนบ
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
กลอนกลบทอักษรกลอนตาย ไม่พบใน ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง)
...
ต้นแบบ กลบทอักษรกลอนตาย
๏ ทศภักตร์ลักขนิฐปลิดจากหัตถ์ พระพรากพลัดอัคเรศเทวศสวาดิ์
ยกพยุหประชิดคิดพิฆาฏ สัตยาปราพวินาศประสบนุช
๏ ถูกกับอกตกจะละมะนะศึก เกียดตริตรึกขนิฐนาฏจะขาดหลุด
ชอบปลุกเศกอิทธิฤทธิ์คิดประทุษ สารสมมุติชื่อ “อักษรกลอนตาย” เอยฯ
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ
ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ring
,
ศิลาสีรุ้ง
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#41 เมื่อ:
24 พฤศจิกายน, 2557, 11:59:06 AM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
กลอนกลบทเบญจวรรณ์ห้าสี
กำหนดให้ คำต้นวรรคจำนวนห้าคำ สัมผัสอักษรหรือพ้องเสียงกัน.
๙๓๓ ๏ เมื่อไม่มีมากมายทางให้เลือก สุดเสกสรรไสเสือกไปทางไหน
จึงจำใจจากจรเร่ร่อนไป กรรมกลไกกีดกั้นสวรรค์บัง
๙๓๔ ๏ ราร้างรั้งรีรอท้อหรือไม่ ยังยืนยันอยู่ไยไร้ความหวัง
โชคช่างช้ำชั่วช้ามาประดัง พิษภัยพานพินพังซังกะตาย
๙๓๕ ๏ พบผู้พาผ่านพ้นฉงนคิด ผิพาผิดผกผันมันอาจสาย
แต่ต้องติดตามต่อขอฝากกาย แวะวกเวียนวุ่นวายใจกังวล
๙๓๖ ๏ ข้อคาดคิดคำไขไฉนแน่ ต้องตั้งต้นตามแต่แง่กุศล
ไหนแน่นอนนั้นหนามายากล บาปใบบุญเบื้องบนดลบันดาล
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
..............................................................................................
ต้นแบบ กลอนกลบทเบญจวรรณ์ห้าสี
๏ จอมจักรเจ้าแจ้งเจาะฟังเพราะพร้อง จวนจิตรจ้องจงใจสงไสยสนิท
ไม่หมายแม้นมุ่งมาทบุตรคาดคิด จอแจจิตรจวนเจือไม่เชื่อใจ ฯลฯ
ต้นแบบ ศิริวิบุลกิตติ์ ของหลวงศรีปรีชา (เซ่ง) ส่วนใหญ่เชื่อกันว่าเป็นวรรณกรรม
สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ในสมัยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ
..................................................................................
กลอนกลบทเบญจวรรณ์ห้าสี (เบญจวรรณ์ห้าศรี)
๏ น้องนับหน้าหนักนึกว่าเชฐา รั้งรอราเรื่องรักษ์หักให้ขาม
ฉะช่างใช้เชิงชั้นทำกันความ เงาแง่เงื่อนงดงามเหมือนจามรี
๏ จิตรจืดจริงเจียวใจกระต่ายแก่ อ้อแอ้อ้อยเอียกลัวเสียศรี
หลาบหลีกแล้วลิ้นลมคมคนดี ชื่อ เบญจวรรณ์ห้าศรี เช่นนี้เอยฯ
ต้นแบบกลอนกลบทนี้ คัดมาเพียงท้ายสำนวนจากศิลาจารึกอักษรไทยวัดพระเชตุพนฯ
ซึ่งจารึกไว้ตั้งแต่รัชกาลที่ ๓ จึงมีคำบางคำแตกต่างไปจากปัจจุบัน
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ring
,
ศิลาสีรุ้ง
,
ปรางค์ สามยอด
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#42 เมื่อ:
25 พฤศจิกายน, 2557, 02:31:35 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
พักกลอนกลบทกลับมาต่อโคลง
โคลงสี่จัตวาทัณฑี
บท, บาท, วรรค และคำ ทั้งบังคับเอก บังคับโท เช่นเดียวกับโคลงสี่สุภาพ
จุดรับสัมผัสวรรคที่ ๓ ต่างจากโคลงสี่สุภาพ ที่ เคลื่อนมาอยู่คำที่ ๕
๖๒๕ ๏ อันคนเราพรั่งพร้อม ใดมี
ลางชั่วลางดีปม เด่นด้อย
เป็นจริงดั่งวาที คงมั่น
ลำไผ่มารวมร้อย แน่นแฟ้นดุษณี*
๖๒๖ สามัคคีแน่แท้ คือธรรม
เป็นสิ่งน้อมนำความ แกร่งกร้าว
การรวมกลุ่มพึงจำ จงมั่น รักเฮย
ชาติแตกโลกจักร้าว เมื่อสิ้นไมตรี
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
............................................................
ต้นแบบโคลงสี่จัตวาทัณฑี
๏ เสด็จเสวยวรรเยศอ้าง ไอศูรย์ สรวงฤๅ
เย็นพระยศปูนเดือน เด่นฟ้า
เกษมสุขส่องสมบูรณ์ นานทวีป
สว่างทุกข์ทุกธเรศหล้า แหล่งถ้วนสรรเสริญ
(ลิลิตตะเลงพ่าย)
...................................................
๏ ท้าวไทนฤเทศข้า ขับหนี
ลูกราชสีพีกลัว ไพร่ฟ้า
พลเมืองดูดี ดาลเดียด
กระเดียดกลับลี้หน้า อยู่สร้างแสวงบุญ
(มหาชาติคำหลวง)
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ring
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#43 เมื่อ:
26 พฤศจิกายน, 2557, 02:03:24 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
โคลงวิชชุมาลี*
ชื่อโคลงวิชชุมาลีด้วยอรรถว่า มีระเบียบคำกล่าวประหนึ่งว่าสายฟ้าแลบ
บทละ ๔ บาท, บาทละ ๒ วรรค, วรรคหน้า ๕ พยางค์ วรรคหลัง ๒ พยางค์
(สัมผัส ๑) ท้ายวรรค ๒ กับท้ายวรรค ๕, (สัมผัส ๒)ท้ายวรรค ๔ กัยท้ายวรรค ๗
ไม่บังคับเอก ไม่บังคับโท
๗๖๙ ๏ ทางออกมีเสมอ เป็นจริง
เมื่อใจสู้มิสาย เกินแก้
การเริ่มต้นคือสิ่ง ประเสริฐ
ทุกก้าวเดินแน่แท้ มีหวัง
๗๗๐ ๏ ฤๅดังคนโชคร้าย รังควาน
พลังใจสำคัญ แน่วแน่
ต่อสู้ฝ่าบ่วงมาร จิตมั่น
คือผู้ไม่ยอมแพ้ มีชัย
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
....................................................................................
ตัวอย่างคำประพันธ์
๏ โฉมเฉิดเลิศลักษณ์เชื้อ เทพิน
ฤๅว่าอัปสรสวรรค์ แบ่งภาค
เรียมมองมุ่นใจจินต์ จนเหม่อ
ลืมอาตม์จนเจ้าจาก ไปไกล
โคลงวิชชุมาลี เป็นโคลงโบราณ
หนึ่ง ในแปดชนิด ที่พบ ในคัมภีร์กาพย์ สารวิลาสินี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
ring
,
❀ Sasi ❀
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
ธนุ เสนสิงห์
กิตติมศักดิ์
ออฟไลน์
กระทู้: 1283
ผู้เริ่มหัวข้อนี้
|
|
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
«
ตอบ
#44 เมื่อ:
27 พฤศจิกายน, 2557, 02:25:31 PM »
หน้าแรก
Re: ของฝากจาก "แดนคนธรรพ์" วันละหน้า
โคลงมหาวิชชุมาลี*
ชื่อโคลงมหาวิชชุมาลีด้วยอรรถว่า มีระเบียบคำกล่าวประหนึ่งว่าสายฟ้าแลบใหญ่
บทละ ๔ บาท, บาทละ ๒ วรรค, วรรคหน้า ๕ พยางค์, วรรคหลังบาท ๑- ๓ มี ๒ พยางค์
เพิ่มจาก โคลงวิชชุมาลี ที่วรรคท้าย ๒ พยางค์ เป็น ๔ พยางค์
สัมผัส ๑ ท้ายวรรค ๒ กับท้ายวรรค ๕, ท้ายวรรค ๔ กับท้ายวรรค ๗
ไม่บังคับเอก ไม่บังคับโท
๗๖๑ ๏ ยามใจกายอ่อนล้า โรยแรง
ความทุกข์เร้ารุมทรวง บีบคั้น
ความเครียดอาจสำแดง ระเบิด
ยิ่งคิดยิ่งปิดกั้น บ่เห็นทางเดิน
๗๖๒ ๏ ทุกข์เกินใจรับไว้ ไป่ดี
หาทางออกผ่อนคลาย พักบ้าง
สงบจิตคือวิธี พบสุข
คิดไม่ตกควรวาง ค่อยคิดวันหลัง
จาก “แดนคนธรรพ์” ธนุ เสนสิงห์
....................................................................................
ตัวอย่างคำประพันธ์
๏ ข้าแต่พระพุทธเกล้า มุนินทร์
ลายลักษณพระบาท วิจิตร
ธนิกรไหว้อาจิณ คืนค่ำ
ตั้งกระหม่อมข้านิตย์ ตราบเท่าม้วยมรณ์
โคลงมหาวิชชุมาลี เป็นโคลงโบราณ
หนึ่ง ในแปดชนิด ที่พบ ในคัมภีร์กาพย์ สารวิลาสินี
ขอบพระคุณ ที่กรุณาเยี่ยมชมนะจ๊ะ :
❀ Sasi ❀
,
ring
,
รพีกาญจน์
บันทึกการเข้า
~รวมทุกสำนวนของ"ธนุ เสนสิงห์"ครับ~
หน้า:
1
2
[
3
]
4
5
ขึ้นบน
พิมพ์
« หน้าที่แล้ว
ต่อไป »
กระโดดไป:
เลือกหัวข้อ:
-----------------------------
บทกลอนไพเราะ
-----------------------------
=> กลอนรัก
=> กลอนเศร้า
=> กลอนคิดถึง
=> กลอนงอนง้อ
=> กลอนคลายเครียด
=> กลอนให้แง่คิด
=> กลอนอวยพร
=> บทประพันธ์อันน่าประทับใจ
=> กลอนเปล่า
=> เรื่องสั้น แนวนิยาย
-----------------------------
อารมณ์กลอน
-----------------------------
=> การใช้งานบอร์ด-แจ้งปัญหา
=> สมาชิกแนะนำตัว
=> สารบัญกลอน สมาชิกกลอน
=> ห้องเรียนรู้คำประพันธ์
=> โคลง
=> ฉันท์ กาพย์ ร่าย
=> กลบท
=> คำคมอารมณ์กลอน
===> หมวดความรัก
===> หมวดเศร้า - อกหัก
===> หมวดการให้แง่คิด
===> หมวดคลายเครียด
-----------------------------
คุยเรื่องร้อยแปดชาวอารมณ์กลอน
-----------------------------
=> กระดานประชาสัมพันธ์สำหรับสมาชิก
=> คุยได้ทุกเรื่อง
=> ดูหนัง-ฟังเพลง-คลิปความบันเทิง
=> ขอความช่วยเหลือในการแต่งคำประพันธ์
-----------------------------
กฎระเบียบและการจัดการประกวดคำประพันธ์
-----------------------------
=> ห้องประกวดคำประพันธ์
กำลังโหลด...